สิวหัวขาวถึงแม้จะมองเห็นได้ยาก แต่ก็ทำให้หน้าไม่เรียบเนียนแต่งหน้ายากสร้างความรำคาญใจมากๆ ใครที่กำลังกังวลใจกับสิวหัวขาวอยู่บทความนี้จะช่วยแก้ปัญหาให้ความกังวลใจหายไปค่ะ
สิวหัวขาวคืออะไร
สิวหัวขาว (Whiteheads Acne) คือสิวอุดตันแบบหัวปิดมีลักษณะเป็นตุ่มนูนแข็งๆ ขึ้นมาบนผิว ไม่รู้สึกเจ็บ สิวหัวขาวอยู่ในระดับที่ไม่รุนแรง สังเกตได้ยากเพราะหัวสิวอยู่ใต้ชั้นผิวต้องสัมผัสถึงจะรู้ สิวหัวขาวเป็นสิวที่สามารถพัฒนาไปเป็นสิวอักเสบได้เนื่องจากหัวสิวที่อยู่ใต้ผิวสามารถเกิดการสะสมของสิ่งสกปรก และแบคทีเรียทำให้กลายเป็นสิวอักเสบได้
นอกจากนี้สิวหัวขาวยังมีคนจำผิด จำสลับเป็นสิวผดด้วย เพราะมีลักษณะสิวที่เป็นตุ่มนูน เล็กๆ คล้ายกัน แต่สิวผดนั้นเป็นสิวประเภทสิวเทียมไม่มีหัวสิวเหมือนกับสิวหัวขาวที่มีหัวสิวอยู่ใต้ผิว
สิวหัวขาวเกิดจากอะไร
สิวหัวขาวเกิดจากหลายสาเหตุทั้งปัจจัยภายนอกที่สามารถควบคุมได้ และปัจจัยภายในที่ควบคุมไม่ได้ โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวหัวขาวจะคล้ายกับสิวหัวดำมีสาเหตุทั้งหมดดังนี้
-
รูขุมขนอุดตัน
เมื่อเซลล์ผิวที่ตายแล้วผลัดตัวออกมาแต่เข้าไปอยู่ในรูขุมขน เจอกับไขมัน น้ำมันจากผิวทำให้รูขุมขนเกิดการอุดตันขับสิ่งสกปรกในรูขุมขนออกมาไม่ได้จนทำให้เกิดสิวอุดตันทั้งสิวหัวขาว และสิวหัวดำ
-
ต่อมไขมันผิดปกติ
มีน้ำมันออกมาจากต่อมไขมันมากเกินไปจนทำให้ผิวมีความมัน น้ำมันเยอะจนรวมตัวกันเป็นไขมันเข้าไปอุดตันในรูขุมขน และยังทำให้สิ่งสกปรกติดอยู่บนผิวได้ง่ายมากขึ้นจากความมัน จึงเกิดประเภทสิวหลายๆ แบบได้
-
ฮอร์โมน
เกิดการแปรปรวนของฮอร์โมนอย่างช่วงเป็นประจำเดือน ระดับฮอร์โมนในร่างกายสูงขึ้นฮอร์โมนเทสเตอโรนเพิ่มขึ้นเข้าไปกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้เกิดสิวหลายๆ แบบอย่างสิวหัวขาว สิวอักเสบขึ้นมาได้ บางทีจะเรียกว่าสิวฮอร์โมน
-
ชีวิตประจำวัน
ไลฟ์สไลต์การใช้ชีวิตของแต่ละคนส่งผลกับการเกิดสิวหัวขาวได้ อย่างใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมพาราเบน ซิลิโคนทำให้ผิวอุดตันได้ง่าย ล้างหน้าไม่สะอาด เกิดความเครียดบ่อยๆ หรือนอนน้อยพฤติกรรมเหล่านี้สามารถทำให้เกิดสิวหัวขาวได้
บริเวณไหนพบสิวหัวขาวบ่อย
บริเวณที่สามารถพบสิวหัวขาวได้นั้นจริงๆ แล้วพบได้ทุกบริเวณทั่วร่างกายที่มีรูขุมขนอยู่ แต่จะมีจุดที่มักพบสิวหัวขาวได้บ่อยดังนี้
-
สิวหัวขาวที่หน้าผาก
เพราะเป็นบริเวณที่สะสมสิ่งสกปรกได้ง่ายจากทรงผม ไรผม ทั้งยังอยู่ในช่วง T – Zone ทำให้บริเวณหน้าผากมีความมันสูง สิวที่หน้าผากหลายๆ ชนิดอย่างสิวหัวขาว สิวผดจึงขึ้นได้ง่าย
-
สิวหัวขาวที่แก้ม
ถึงแม้จะไม่ได้อยู่ในบริเวณ T – Zone มีความมันน้อย แต่สิวหัวขาวก็สามารถขึ้นเป็นสิวที่แก้มได้เหมือนกันจากการที่แก้มไปสัมผัสสิ่งสกปรก อย่างหมอนที่ไม่สะอาด สภาพอากาศฝุ่นละอองต่างๆ หรือมือของเราเอง
-
สิวหัวขาวที่จมูก
ต่อมไขมันที่จมูกผลิตน้ำมันออกมามากกว่าบริเวณอื่น จมูกจึงมันกว่าจุดอื่นๆ ถึงแม้จะเป็นคนผิวหน้าแห้งก็ตาม และมีรูขุมขนที่ค่อนข้างกว้างรูขุมขนจึงอุดตันได้ง่ายเกิดเป็นสิวที่จมูกอย่างสิวหัวขาว สิวอุดตัน
-
สิวหัวขาวที่คาง
บริเวณคางเป็นอีกจุดที่มีต่อมไขมันมากจึงทำให้เกิดสิวที่คาง ถ้าเกิดทำความสะอาดดูแลผิวบริเวณคางได้ไม่ดี
-
สิวหัวขาวที่ปาก
กินอาหารมันๆ หรือขนมเยอะ มีโอกาสทำให้สิวหัวขาวขึ้นเป็นสิวที่ปาก เพราะปากสัมผัสกับอาหารโดยตรงจึงอาจจะทำให้เศษอาหารความมันต่างๆ ที่มองไม่เห็นไปอยู่ที่ปาก หากทำความสะอาดไม่ดีพอสิวก็จะขึ้นได้
-
สิวหัวขาวที่หลัง
เป็นสิวที่พบได้บ่อยที่ขึ้นเป็นสิวที่หลัง เนื่องจากที่หลังก็มีต่อมไขมันเยอะเหมือนกัน และเมื่อเหงื่อออกเกิดการอับชื้นบริเวณหลังจึงเกิดเป็นสิวได้
-
สิวหัวขาวที่หน้าอก
อาจจะเกิดจากการทำความสะอาดผิวที่หน้าอกไม่ดี ยังมีสิ่งสกปรกไขมันสะสมอยู่จึงไปอุดตันในรูขุมขนกลายเป็นสิวที่หน้าอก
-
สิวหัวขาวที่หู
สิวที่หูสามารถขึ้นเป็นสิวหัวขาวได้เหมือนกันอาจจะขึ้นภายในหู ภายนอกหูได้ทั้งบริเวณหู หรือบริเวณรอบๆ หู อย่างหลังหูหน้าหูได้
-
สิวหัวขาวที่แขน
เกิดสิวที่แขนได้จากหลายสาเหตุ เพราะฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง ขัดผิวบ่อยๆ สามารถทำให้รูขุมขนอุดตันเกิดสิวที่แขนขึ้น อย่างสิวหัวขาว สิวหัวดำได้
-
สิวหัวขาวที่ก้น
เกิดจากการที่กางเกงที่ใส่รัดแน่นเสียดสีบริเวณก้น และอับชื้น รักษาความสะอาดที่ก้นได้ไม่ดีทำให้สิ่งสกปรกสะสมอยู่ในรูขุมขน และอุดตันจนกลายเป็นสิวที่ก้น
วิธีรักษาสิวหัวขาว
ขั้นตอนการรักษาสิวหัวขาวให้หายมีอยู่หลายวิธี โดยวิธีรักษาสิวหัวขาวมีดังนี้
-
เลเซอร์สิวอุดตัน
เป็นวิธีรักษาสิวที่เหมาะกับสิวหัวขาว เพราะสิวหัวขาวหัวสิวอยู่ใต้ชั้นผิวการรักษาด้วยเลเซอร์จะเจาะสิวหัวขาวที่อยู่ใต้ชั้นผิวออกมาได้ดีแบบไม่หลงเหลือหัวสิวอยู่ ทำให้ไม่เกิดเป็นสิวอักเสบอีกทั้งยังไม่ทิ้งรอยสิว รอยแผลเป็นไว้ด้วย
-
กดสิวหัวขาว
รักษาสิวหัวขาวด้วยการกดสิวถือว่าเป็นวิธีที่ดี เพราะถ้าปล่อยสิวหัวขาวทิ้งไว้ไม่กดออกมาสิวหัวขาวจะกลายเป็นสิวอักเสบได้ แต่ควรทำกับผู้เชี่ยวชาญด้านการกดสิวเพื่อกดให้หัวสิวใต้ผิวออกมาให้หมด หากเหลือหัวสิวทิ้งไว้สิวจะอักเสบเป็นสิวหนอง สิวประเภทอื่นๆ ต่อได้
-
เมโสหน้าใส
ตัวยาเมโสหน้าใสมีส่วนผสมเป็นวิตามินหลายๆ ชนิดที่ช่วยบำรุงผิว เมื่อฉีดเมโสหน้าใสแล้วผิวจะค่อยๆ ดีขึ้น สิวจะเริ่มลดลง แต่ต้องฉีดซ้ำกันหลายๆ รอบ เป็นประจำอย่างต่อเนื่องกันอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งใน 1 เดือน ถึงจะเริ่มเห็นผลลัพธ์
-
ยารักษาสิว
ยาที่สามารถรักษาสิวหัวขาวได้มีด้วยกันหลายอย่างมีทั้งแบบทา และแบบรับประทาน ถ้าเป็นแบบทาต้องใช้ยาที่มีส่วนผสมอย่าง Retinol ,Glycolic acid , Salicylic acid ,Benzoyl Peroxide ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าออกไป ลดการอุดตันในรูขุมขน ลดความมันบนผิวได้ดี
ส่วนยารักษาสิวหัวขาวแบบรับประทานจะเป็นยาคุมลดสิวที่ช่วยควบคุมฮอร์โมนให้คงที่ลดการเกิดสิวในอนาคต หรือยาฆ่าเชื้อสำหรับคนที่มีสิวหัวขาวร่วมกับสิวอักเสบประเภทอื่นๆ แต่ยารักษาสิวแบบรับประทานควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ค่ะ
หากมีปัญหาสิวหัวขาวเยอะ หรือมีสิวประเภทอื่นๆ ร่วมด้วยควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์หาทางรักษา และแนะนำขั้นตอนการดูแลรักษาผิว วิธีป้องกันสิวไม่ให้สิวเกิดขึ้นมาอีกค่ะ
สิวหัวขาวกดได้ไหม
สิวหัวขาวสามารถกดได้แต่ไม่ควรบีบหากบีบสิวด้วยเองจะยากมากเพราะหัวสิวอยู่ลึกเป็นสิวไม่มีหัวโผล่มาให้เห็นสามารถทำให้สิวอักเสบได้ แต่การกดสิวนั้นช่วยให้หัวสิวออกมาได้ถึงแม้จะเป็นสิวหัวปิด แต่ควรทำกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้หัวสิวของสิวหัวขาวออกมาหมด และไม่เกิดรอยแผล รอยสิวหลังกดสิว
ถ้ากดสิวด้วยตัวเอง หรือคนกดสิวให้เชี่ยวชาญไม่พออาจจะยังหลงเหลือหัวสิวใต้ผิวกระตุ้นให้สิวหัวขาวกลายเป็นสิวอักเสบ หรือสิวประเภทอื่นที่รุนแรงกว่าเดิมได้ และยังทำให้เกิดรอยสิว รอยแผลเป็นตามมา
สรุป
สิวหัวขาวเป็นสิวอุดตันหัวปิดหัวสิวอยู่ใต้ชั้นผิวสามารถพบได้บ่อยหลายๆ บริเวณทั่วร่างกาย หากไม่รักษาปล่อยทิ้งไว้อาจกลายเป็นสิวอักเสบจึงควรรีบรักษาสิวหัวขาวด้วยวิธีการต่างๆ อย่างการเลเซอร์ กดสิว หรือใช้ยาเพื่อรักษาสิวหัวขาวก่อนที่จะรักษายากขึ้น