สิวผดเป็นสิวอีกประเภทหนึ่งที่พบได้บ่อย ขึ้นมาให้กวนใจได้ในทุกๆ ที่ ถึงแม้จะเป็นเม็ดเล็กๆ มองเห็นได้ยาก แต่ก็ขึ้นมาหลายเม็ดในจุดเดียวกันทำให้ยังสังเกตได้อยู่ ดังนั้นในบทความนี้หมอจะมาให้ข้อมูลเกี่ยวกับสิวผดว่าคืออะไร เกิดจากสาเหตุไหน และมีวิธีรักษาสิวผดอย่างไรค่ะ
สิวผดคืออะไร
สิวผด (Acne Aestivalis) คือสิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มเม็ดเล็กๆ ขนาด 1 – 2 มิลลิเมตร อยู่ใต้ผิวหนัง เมื่อสัมผัสโดนสิวผดจะรู้สึกว่าผิวไม่เรียบมีตุ่มแข็งๆ ขึ้นมา และยังเป็นสิวที่ไม่มีหัวสิวเพราะสิวผดอยู่ในประเภทสิวเทียมที่ไม่ใช่สิวแต่มีลักษณะคล้ายกับสิว
สิวผดนั้นมีตั้งแต่ระยะไม่รุนแรงที่แค่เป็นตุ่มขึ้นกระจายบนผิวในบริเวณใกล้ๆ กัน ไม่มีอาการแดงรอบๆ หรือคัน สังเกตเห็นได้ยากคล้ายกับสิวอุดตันไม่มีหัว จนไปถึงระยะปานกลางที่มีอาการแดงรอบสิวผด และรู้สึกคัน ซึ่งระยะที่ไม่รุนแรงกับระยะปานกลางจะพบได้บ่อยที่สุด แต่ก็ยังมีอีกระยะที่เกิดขึ้นได้น้อยมากคือระยะรุนแรงที่ส่งผลให้รูขุมขนอักเสบค่ะ
สิวผดเกิดจากอะไร
สาเหตุที่ทำให้มีสิวผดเกิดจากการระคายเคืองของผิว ทำให้มีอาการแพ้ของผิวหนัง ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ผิวหนังมีอาการแพ้จนกระตุ้นให้เกิดเป็นสิวผดขึ้นมามีหลากหลายสาเหตุดังนี้
-
เชื้อรา
บนผิวของเราจะมีเชื้อราอยู่คือ Pityrosporum ovale (P.ovale) เป็นเชื้อรายีสต์ที่อยู่ในกลุ่มของ Malassezia ซึ่งถ้าเชื้อรานี้ถ้ามีจำนวนปกติก็จะไม่เกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าผิวเสียสมดุล ต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมาเยอะซึ่งน้ำมันเป็นอาหารของเชื้อรา P.ovale ทำให้เชื้อรานี้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นจนรูขุมขนอักเสบจึงเกิดสิวผดขึ้นในบริเวณนั้น
-
สภาพอากาศ
อากาศร้อนจัด มีฝุ่นละอองทำให้เกิดสิวผดได้ เพราะร่างกายจะผลิตเหงื่อออกมามากจนผิวชื้น เพิ่มความมันให้ใบหน้าจนรูขุมขนอุดตันได้ และเมื่อเจอกับฝุ่นละอองอีกอาจทำให้ผิวระคายเคืองจากความสกปรกหลายๆ อย่างสะสมกันจึงเป็นสิวผด
-
ต่อมเหงื่อผิดปกติ
ต่อมเหงื่อเกิดการอุดตันขึ้นมาทำให้ระบายเหงื่อไม่ทัน เมื่อเกิดเหงื่อจำนวนมากจะทำให้เกิดเป็นสิวผดตุ่มเล็กๆ ขึ้นมาบนผิว
-
ผิวอ่อนแอ
เกราะป้องกันผิว (Skin Barrier) ที่ช่วยป้องกันผิวจากสิ่งสกปรกไม่แข็งแรงจึงทำให้ผิวอ่อนแอ แพ้ง่ายเกิดสิวได้ง่ายมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นสิวผด หรือสิวอักเสบ
-
สกินแคร์
ผลิตภัณฑ์ทาผิวบางตัวมีส่วนผสมที่อาจทำให้เกิดอาการแพ้ได้หากเป็นคนที่ผิวแพ้ง่าย หรืออาจจะไม่ถูกกับส่วนผสมตัวนั้นจนกระตุ้นให้ผิวอ่อนแอลง ทำให้มีสิวหลากหลายชนิดขึ้นซึ่งบางทีเรียกว่าสิวแพ้ครีม
-
การใช้ชีวิตประจำวัน
พบสิวผดบริเวณไหนบ่อย
บริเวณที่พบสิวผดส่วนใหญ่มักจะเกิดขึ้นที่บริเวณใบหน้า แต่ก็สามารถขึ้นบริเวณอื่นๆ บนร่างกายได้ โดยจุดที่พบสิวผดได้บ่อยคือ
-
สิวผดที่หน้าผาก
มักเกิดกับคนที่ไว้ผมหน้าม้า หรือมีไรผมเยอะทำให้สิ่งสกปรกไปเกาะอยู่ที่เส้นผมแล้วเหงื่อไปผสมกันทำให้เกิดสิวผด นอกจากเป็นสิวผดได้ง่ายแล้วสิวที่หน้าผากยังเป็นสิวชนิดอื่นๆ ได้อีกด้วย
-
สิวผดที่จมูก
มักจะขึ้นบริเวณสันจมูก เกิดจากความมันของผิวและเชื้อรา ovale เพราะเชื้อราตัวนี้ชอบความมัน กินน้ำมันเป็นอาหารขยายจำนวนเชื้อราให้เยอะมากขึ้นกลายเป็นสิวที่จมูก
-
สิวผดที่แก้ม
เกิดได้จากหลายสาเหตุแต่สาเหตุหลักคือเกิดการระคายเคือง มีอาการแพ้ หรือโดนแดดร้อนๆ จนสิวผดเกิดขึ้น และยังมีสิวที่แก้มยังมีสิวแบบอื่นอีก
-
สิวผดที่คาง
คางอยู่ในบริเวณ T – Zone ซึ่งมีการผลิตน้ำมันออกมาเยอะมากกว่าจุดอื่นจึงทำให้สิวผด หรือสิวที่คางประเภทอื่นๆ ขึ้นได้ง่าย หากไม่ดูแลความสะอาดให้ดี
-
สิวผดที่ปาก
อาจจะเกิดจากการแพ้สกินแคร์ หรือโดนแดดร้อนจัดๆ สิวผดจึงขึ้นมารอบๆ ปากเป็นสิวที่ปาก จึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ให้เหมาะสม
-
สิวผดที่หู
สิวที่หูมักเป็นสิวผดน้อย แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ที่หลังหู ติ่งหูจากการไม่ทำความสะอาดบริเวณหู หรืออากาศร้อนเกิดเหงื่อที่หูทำให้เกิดสิวผดที่หู
-
สิวผดที่หน้าอก
สิวที่หน้าอกมักเกิดจากการที่เสื้อผ้าเสียดสีกับผิวที่หน้าอกจากเสื้อผ้าที่รัดแน่น และผสมกับเหงื่อที่ออกมาจากอากาศที่ร้อน ทำให้ผิวหน้าอกเกิดปฏิกิริยาระคายเคืองเกิดเป็นสิวผด
-
สิวผดที่หลัง
เมื่อเสื้อผ้าเสียดสีบริเวณหลังมีเหงื่อออกมากทำให้มีสิวผดเกิดขึ้น นอกจากสิวผดแล้วสิวที่หลังยังสามารถเป็นสิวชนิดอื่นๆ ได้
-
สิวผดที่แขน
เมื่ออากาศร้อนจัดจนเหงื่อต้องระบายออกมา สิวผดจึงขึ้นมาได้จากการแพ้เหงื่อ หรือต่อมเหงื่ออุดตันเพราะระบายเหงื่อไม่ทันทำให้สิวที่แขนขึ้นเป็นสิวผด
-
สิวผดที่ก้น
สิวที่ก้นมักเกิดจากการอับชื้นจากเหงื่อ หรือไม่เช็ดตัวให้แห้งแล้วใส่กางเกงเลยทำให้ผิวบริเวณก้นยังเปียกอยู่ เกิดอาการคันเป็นสิวผด สิวอื่นๆได้
สิวผดรักษาอย่างไร
สิวผดจริงๆแล้วสามารถหายด้วยตัวเองหากเป็นสิวผดที่ไม่รุนแรงมากนัก อาจเป็นเพียงแค่วันเดียวแล้ววันต่อมาสิวผดก็จะหายไปแต่ก็อาจเกิดขึ้นมาซ้ำในที่เดิมบ่อยๆ ถ้าใครมีความกังวลสิวผดไม่ยอมหายไปสักทีก็มีวิธีรักษาสิวผดดังนี้ค่ะ
-
เลเซอร์สิวผด
เป็นวิธีรักษาสิวผดด้วยวิธีเร่งด่วนโดยจะใช้เลเซอร์ยิงไปในบริเวณที่มีสิวผดทำให้สิวผดหายไป ไม่ทำให้เกิดรอยสิว รอยแผลเป็นตามมา นอกจากจะรักษาสิวผดได้แล้วยังช่วยรักษาสิวประเภทอื่นอย่างสิวอุดตันได้อีกด้วย
-
ล้างหน้าให้สะอาด
ทำความสะอาดใบหน้าให้ถูกวิธีด้วยการใช้คลีนซิ่งบาล์ม หรือออยล์ทำความสะอาดใบหน้าเป็นอันดับแรกเพื่อล้างเครื่องสำอาง และครีมกันแดดบนใบหน้าให้ออกให้หมด จากนั้นใช้โฟมล้างหน้าต่อให้ผิวหน้าสะอาด ลดการเกิดสิวผดสิวอื่นๆ ได้ดี
-
ยารักษาสิวผด
ยาที่เหมาะกับการรักษาสิวผดจะเป็นคีโตโคนาโซล (Ketoconazole) ซึ่งเป็นยารักษาสิวผดแบบทาที่ช่วยฆ่าเชื้อรา ยีสต์ที่เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวผดได้ดี
-
เปลี่ยนพฤติกรรม
เป็นวิธีการรักษาสิวผดที่ทำได้ง่ายๆ แต่ต้องปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตโดยเริ่มจากเลิกจับหน้าบ่อยๆ เพราะเชื้อโรคจะไปอยู่บนใบหน้าได้ กินอาหารที่มีประโยชน์มีวิตามินช่วยลดการเกิดสิว และพยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดความร้อนเพื่อไม่ให้เหงื่อออกง่าย แต่ถ้าทำไมได้ก็ควรป้องกันแสงแดดด้วยการใช้ครีมกันแดด คอยใช้ร่มเมื่อออกไปข้างนอก หากเปลี่ยนพฤติกรรมได้จะช่วยลดการเกิดสิวผด สิวประเภทอื่นๆ อย่าง สิวอักเสบ สิวอุดตัน สิวไม่มีหัวได้
ถ้าลองรักษาด้วยวิธีพวกนี้แล้วไม่หายแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อรักษาสิวผด เนื่องจากอาจเป็นสิวผดแบบรุนแรงมีอาการอักเสบที่รูขุมขนทำให้สามารถรักษาให้สิวผดหายได้ยาก
สิวผดกี่วันหาย
สิวผดสามารถหายเองได้โดยไม่ต้องรักษาประมาณ 1 – 2 วัน แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลไป และกลับขึ้นมาได้ง่ายหากเจอสภาพอาการร้อน มีเหงื่อบ่อยๆ แต่ถ้าหากเป็นสิวผดที่เกิดจากอาการแพ้มีจำนวนสิวผดขึ้นมาบนผิวเยอะมากจะไม่สามารถหายเองได้ หรือต้องใช้เวลานานกว่าจะหายเอง ซึ่งจะใช้ระยะเวลาประมาณ 1 – 2 เดือนค่ะ
สรุป
สิวผดเกิดได้จากหลายสาเหตุแต่มักเกิดจากเหงื่อผสมกับสิ่งสกปรก หรือเชื้อราบนผิวที่มากจนเกินไปทำให้สิวขึ้นมาเป็นตุ่มบนผิวหนังได้หลายๆ ที่ทั่วร่างกาย ลักษณะคล้ายผื่นกับสิวอุดตัน ซึ่งสิวผดสามารถหายไปเองได้แต่อาจเกิดซ้ำขึ้นมาอีกได้ จึงควรรู้วิธีป้องกันสิวไม่ให้เกิดซ้ำถ้าอยากให้สิวผดหายขาดก็มีวิธีรักษาสิวผดหลายวิธีอย่างการเปลี่ยนพฤติกรรม ล้างหน้าให้สะอาดค่ะ