ร้อยไหมคืออะไร แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง มีผลเสียไหม

ร้อยไหมหัตถการยกกระชับที่เห็นผลชัดเจนทันทีหลังทำ ทำให้โด่ดเดนกว่าหัตถการยกกระชับแบบอื่นๆ หมอได้รวบรวมข้อมูลการร้อยไหมอย่างละเอียด รวมถึงหัวข้อบางอย่างที่หลายคนไม่ค่อยพูดถึง ปัญหาหลักที่ไหมสามารถแก้ไขได้

รูปหน้าแบบไหนบ้างที่เหมาะกับการร้อยไหม และรูปหน้าแบบไหนที่ไม่เหมาะกับการร้อยไหม ลักษณะไหมแบบไหนที่ดีที่สุด รวมไปถึงเราอาจพบปัญหาอะไรได้บ้างหลังจากการร้อยไหม

สารบัญ

ร้อยไหมคืออะไร

พิชญ์ญาพร ศิริอุดมเศรษฐ

ร้อยไหม คือ วิธีในการยกกระชับและกระตุ้นคอลลาเจนให้ผิว โดยใส่ไหมที่มีเงี่ยงเข้าไปใต้ผิวในตำแหน่งที่มีความหย่อนคล้อย แล้วยกกระชับผิวในตำแหน่งนั้นขึ้นมา ถือเป็นหัตถการที่ไม่ใช่การผ่าตัดที่สามารถยกกระชับผิวได้มากที่สุดแล้วเมื่อเทียบกับหัตถการอื่นๆ และเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ ไหมที่ใช้เป็นไหมที่สามารถละลาย และสลายไปได้เองไม่ตกค้างในร่างกาย แต่ควรร้อยกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดี

ร้อยไหมช่วยได้อะไรบ้าง

การร้อยไหมเป็นหัตถการที่เน้นในเรื่องของการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ให้ผลลัพธ์ทันทีหลังทำ สามารถแก้ไขความหย่อนคล้อย ยกกระชับ และ กระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว จึงเป็นที่นิยมในการนำมาแก้ไขปัญหาต่างๆ ดังนี้

ร้อยไหมช่วยเรื่องอะไร

ร้อยไหมมีกี่แบบ ต่างกันอย่างไร

ปัจจุบันไหมมีหลากหลายแบบ หลากหลายชื่อเรียกทำให้เกิดความสับสนมากว่าจริงๆแล้วคืออะไรกันแน่ ในหัวข้อนี้หมอจะจำแนกออกเป็น 2 กลุ่มหลัก เพื่อให้เกิดความเข้าใจอย่างง่าย ดังนี้

ร้อยไหมมีกี่แบบ

1. ไหมยกกระชับ

คือ “ไหมที่มีเงี่ยง” การทำงานหลักคือเงี่ยงไหมเกาะกับผิวในตำแหน่งที่หย่อนคล้อย แล้วดึงให้เกิดการยกกระชับขึ้น โดยเงี่ยงของไหมมีหลากหลายแบบ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่าง รวมถึงข้อดีข้อเสียที่เกิดขึ้นในการเลือกใช้แก้ปัญหาต่างๆ สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ร้อยไหมมีกี่แบบ

ในท้องตลาดปัจจุบันมีไหมหลากหลายชื่อเรียกในกลุ่มของไหมที่ร้อยเพื่อให้เกิดการยกกระชับ ซึ่งหมอขอแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มตามลักษณะชื่อเรียก เพื่อเพิ่มความเข้าใจให้กับคนไข้มากขึ้นค่ะ

  • ชื่อเรียกที่คลินิกตั้งขึ้นมาเองเพื่อการตลาด ได้แก่ ไหมทอนาโด ไหมก้างปลา ไหมล็อค เป็นต้น ข้อเสียในกลุ่มนี้คือ ทำให้คนไข้ไม่ทราบได้แน่ชัดว่าไหมที่ใช้ร้อยให้เรา คือไหมยี่ห้ออะไรเนื่องจากเป็นชื่อที่คลินิกแต่ละที่ตั้งขึ้นมาเอง หรือในบางทีชื่อเรียกเดียวกันแต่คนละคลินิก ไหมที่ใช้ก็อาจเป็นคนละตัว
  • ส่วนอีกกลุ่มเรียกตามชื่อยี่ห้อของไหมที่ผ่านอย. เช่น ไหมมิ้นท์ (Mint), ไหมโครงตาข่าย (Tesslift) เป็นต้น ข้อดีของกลุ่มนี้คือ เรียกตามยี่ห้อของไหมโดยตรงทำให้คนไข้สามารถทราบได้เลนว่าไหมที่ใช้ร้อยให้คือตัวไหน

2. ไหมกระตุ้นคอลลาเจน

คือ “ไหมเส้นเรียบไม่มีเงี่ยง” ต้องใช้หลายเส้น อย่างน้อย 40-50 เส้นขึ้นไป เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ เนื่องจากเส้นนึงมีขนาดเล็กประมาณเส้นผม และร้อยไปในผิวชั้นตื้นกว่าไหมเงี่ยง ร้อยสานกัน เพื่อให้ผิวส่วนนั้นเกิดคอลลาเจนขึ้น เห็นผลในเรื่องของผิว แน่น เฟิร์ม ยกกระชับได้นิดหน่อยไม่เท่าไหมที่มีเงี่ยง และไม่สามารถย้ายตำแหน่งผิว จัดตำแหน่งผิวได้เหมือนไหมที่มีเงี่ยง

ร้อยไหมแบบไหนดีที่สุด

คุณสมบัติของไหมเงี่ยงที่ดีที่สุดสำหรับหมอ ในการเลือกมายกกระชับผิวควรมีคุณสมบัติหลัก 2 ข้อ ดังนี้

ลักษณะไหมที่ดี
ลักษณะไหมที่ดี

1. มีเงี่ยงไหมที่แข็งแรง

  • ควรเลือกเงี่ยงแบบหล่อเพราะแข็งแรงกว่าเงี่ยงแบบบาก
  • ในช่วงแรกหลังร้อยไหมเงี่ยงไหมมีความสำคัญมาก เพราะเป็นตัวเกี่ยวผิวที่หย่อนคล้อยให้ยกกระชับขึ้น และช่วยพยุงผิวให้คงอยู่ในระดับที่ยกกระชับในช่วงที่ใบหน้ามีการเคลื่อนไหว หรือโดนกดจากภายนอก หากเงี่ยงไหมไม่แข็งแรงผิวจะคล้อยลงมาได้ไว

2. สามารถกระตุ้นคอลลาเจนได้เยอะ

  • ควรมีลักษณะโครงสร้างของไหมที่ออกแบบมา ให้มีพื้นที่ผิวในกระตุ้นคอลลาเจนได้ดี
  • ช่วง 1 เดือนหลังการร้อยไหม คอลลาเจนที่เกิดรอบเส้นไหมมีความสำคัญในการยึดไหมกับผิวให้เกาะกันแน่น และในอนาคตที่ไหมละลายไปหมดแล้วยังคงเหลือแนวคอลลาเจนที่ยังคงพยุงผิวให้มีความกระชับอยู่

ปัญหาแบบนี้ต้องใช้ไหมกี่เส้น

ปัจจัยนึงที่จะทำให้ผลลัพธ์จากการร้อยไหมคงสภาพได้นานคือ การใช้จำนวนเส้นไหมที่เหมาะสมกับปัญหาที่มี ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป หมอจะเล่าให้ฟังว่าในใบหน้า 1 ข้าง เราควรใช้เส้นไหมประมาณกี่เส้นในการแก้ปัญหาที่กังวล ดังนี้

สำคัญ!! ** จำนวนเส้นไหมนี้เป็นการประมาณคร่าวๆ ควรมีการปรับเปลี่ยนตามชนิดของไหมที่ใช้ และปัญหารูปหน้าแต่ละบุคคลอีกที **

ร้อยไหมกี่เส้น
  • 2 เส้น/ข้าง – ปรับกรอบหน้าให้ชัดขึ้น
  • 3 เส้น/ข้าง – เก็บกระเปราะแก้มคล้อยให้กระชับ หน้าวี
  • 4 เส้น/ข้าง – แก้ไขกระเปาะแก้มหย่อน ร่องน้ำหมาก มุมปากตก
  • 5 เส้น/ข้าง – แก้ไขกระเปาะแก้มหย่อน ร่องน้ำหมาก ร่องแก้ม(ปัญหาไม่เยอะ)
  • 6 เส้น/ข้าง – แก้ไขกระเปาะแก้มหย่อน ร่องน้ำหมาก ร่องแก้ม(ปัญหาเยอะ)

ร้อยไหมอันตรายไหม

การร้อยไหมสามารถทำให้เกิดอันตรายหรือผลข้างเคียงได้ เช่น ใบหน้ากระตุก, ใบหน้าชา หรือมุมปากตก เป็นต้น หากเลือกใช้ไหมที่ไม่มีคุณภาพ ไม่มีมาตรฐาน ร้อยกับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ รวมถึงใช้การร้อยไหมแก้ปัญหาทั้งที่ใบหน้าของเราไม่เหมาะกับการร้อยไหม

อ่านเพิ่มเติม : ร้อยไหมอันตรายไหม

ร้อยไหมไม่เหมาะกับใคร

การร้อยไหมเป็นหัตถการที่สามารถยกกระชับผิวหลังทำได้ทันที ทำให้โดดเด่นกว่าหัตถการยกกระชับอื่นๆ สำหรับบุคคลที่อาจไม่เหมาะกับการร้อยไหม ร้อยไปแล้วอาจเกิดผลลัพธ์ที่ไม่หน้าประทับใจ หรือเกิดอันตรายได้ ได้แก่

ร้อยไหมไม่เหมาะกับใคร
  • มีปัญหาผิวหนังติดเชื้อ หรือ ผิวหนังอักเสบ ในบริเวณจุดไหมเข้า
  • เคยฉีดสารเหลวในบริเวณที่ร้อยไหม
  • ตั้งครรภ์ ให้นมบุตร
  • มีไขมันสะสมบริเวณใบหน้าเยอะ
  • กล้ามเนื้อกรามใหญ่
  • แก้มตอบ หน้าผอม ไม่มีไขมัน ผิวบาง

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้นนะคะ แต่การประเมินปัญหาจากใบหน้าจริงของแต่ละบุคคล จะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดว่าเราเหมาะหรือไม่เหมาะกับการร้อยไหม หรือควรแก้ปัญหานั้นด้วยหัตถการอื่น เช่น ฟิลเลอร์ โบท็อกซ์ เป็นต้น

adcta-tel
adcta-inboxfacebook
adcta-addline
adcta-tel
adcta-inboxfacebook
adcta-addline

ผลข้างเคียงหลังการร้อยไหม

ผลข้างเคียงหลังการร้อยไหมหมอขอแบ่งเป็น 2 แบบดังนี้

อาการของผลข้างเคียงปกติที่เกิดขึ้นได้

เป็นผลข้างเคียงที่สามารถพบได้ตามปกติ และสามารถหายไปได้เอง หากมีการดูแลที่ดีจะหายไวขึ้น ดังนั้นหากใครร้อยไหมมาพบผลข้างเคียงตามหัวข้อดังต่อไปนี้ ไม่ต้องกังวลค่ะ

ผลข้างเคียงร้อยไหมปกติ
  • บวมตามแนวการร้อยไหม
  • รอยเขียว ช้ำ
  • อาการชา ปากเบี้ยว คิ้วตก หลับตาไม่สนิทจากฤทธิ์ยาชา (หายสนิทในระยะเวลา 4-6 ชั่วโมงหลังร้อย)
  • รอยรั้งไหม
  • อ้าปากลำบาก ตึงระบมใต้ผิว

อาการของผลข้างเคียงที่ไม่ปกติ

ผลข้างเคียงตามหัวข้อดังต่อไปนี้ ไม่ควรจะเกิดขึ้น หากใครพบหลังการร้อยไหมให้รีบพบแพทย์เพื่อรักการรักษาโดยด่วน

ผลข้างเคียงร้อยไหมไม่ปกติ
  • ผิวบวม แดง ร้อน ปวด มีการติดเชื้อ
  • หน้าบวมขึ้นเยอะมากข้างเดียว คลำได้ก้อนแข็ง เจ็บ ที่เกิดจากก้อนเลือดใต้ผิว
  • มีอาการบวมหลังมื้ออาหาร เกิดจากท่อน้ำลายถูกทำลาย
  • อาการปากเบี้ยว ชา หน้ากระตุก แม้ยาชาหมดฤทธิ์แล้ว จากเส้นประสาทบาดเจ็บ
  • อาการเจ็บแปร๊บเมื่อสัมผัสใบหน้า
  • เส้นไหมโผล่ขึ้นมาบนผิว
  • ไหมทะลุเข้าช่องปาก

หลังร้อยไหมจะหายบวมตอนไหน

ร้อยไหมบวมกี่วัน
  • หลังร้อยไหมจะบวมที่สุดในช่วง 3-7 วันแรกหลังการร้อยไหม เพราะเป็นช่วงของการอักเสบของแผลใต้ผิว หลังจากนั้นอาการบวมจะค่อยๆยุบลง รวมถึงความเจ็บ ระบมใต้ผิว
  • ช่วง 2 สัปดาห์ หลังร้อยไหม ใบหน้าเริ่มเข้าที่มากขึ้น อาจมีบวมหรือระบมอยู่บ้างเล็กน้อย ช่วงบริเวณโหนก แก้ม การคลำแล้วเจอผิวเป็นไตตามแนวไหมเริ่มลดลง
  • ช่วง 4 สัปดาห์ หลังร้อยไหม เป็นช่วงเวลาที่ใบหน้าเข้าที่เกือบ 100% ไม่มีความบวมแล้ว ไม่มีอาการเจ็บแต่อาจยังมีความตึงบ้าง และใบหน้ายังคงกระชับเข้าไปอีกจนถึง 12 สัปดาห์หลังร้อยไหม

อันตรายจากพังผืดหลังร้อยไหม

พังผืด (fibrosis) หรือ แนวคอลลาเจนที่เกิดจากการร้อยไหม ถือเป็นผลข้างเคียงนึงที่ควรเกิดขึ้นในขั้นตอนของการสร้างผลลัพธ์จากการร้อยไหม ซึ่งหมอขอเรียกว่าเป็น “พังผืดที่ดี” เนื่องจากตัวพังผืดที่เกิดขึ้นตามแนวไหมนี้จะเป็นตัวพยุงผิวเราให้ยังคงความกระชับ แม้เส้นไหม หรือเงี่ยงไหมเสียสภาพไปแล้วในอนาคต

รีวิวร้อยไหมยกกระชับหน้า

พังผืดที่ว่านี้จะเกิดขึ้นในชั้นไขมันชั้นบน (subcutaneous fat) ซึ่งเป็นชั้นที่เหมาะสมของการร้อยไหม หากเกิดพังผืดขึ้นในชั้นนี้ เราจะไม่สามารถคลำเจอได้ และเมื่อเวลาผ่านไปพังผืดเป็นคอลลาเจนชนิดนึง เค้าจะค่อยๆนิ่มลงและเสื่อมหายไป

“แต่หากร้อยในผิวที่ตื้นจนเกิดไป จะเกิดพังผืดในผิวชั้นบน กรณีสามารถเกิดแนวรั้งเป็นหลุมจากพังผืดได้คล้ายหลุมสิว และเมื่อสัมผัสผิวจะแข็งขึ้น”

ร้อยไหมตกไวเพราะอะไร

ปัญหาหลังของคนไข้หลังการร้อยไหมคือ ตกลงมาไว ยกอยู่ได้ไม่นาน ซึ่งการคงสภาพของผลลัพธ์หลังการร้อยไหมขึ้นกับหลากหลายปัจจัย หมอสรุปให้ดังนี้ค่ะ

ทำไมร้อยไหมตกไว
  • ร้อยจำนวนเส้นไหมน้อยเกินไป เมื่อเทียบกับปัญหาที่มี
  • เส้นไหมไม่แข็งแรง เงี่ยงเกาะผิวไม่แน่น
  • ร้อยผิดชั้น เทคนิคการร้อยไม่ดี
  • มีไขมันสะสมบนใบหน้าเยอะ
  • กล้ามเนื้อกรามใหญ่ ชอบกัดฟัน เคี้ยวเยอะ ช่วง 1 เดือนแรก
  • ขยับใบหน้าเยอะ ไม่ระวังหลังการร้อยไหม ช่วง 1 เดือนแรก
  • มีแรงกดทับ นวดแรงๆจากภายนอกในบริเวณที่ร้อยไหม ช่วง 1 เดือนแรก

จะเห็นได้ว่านอกจากไหมที่ดี แพทย์ที่มีประสบการณ์แล้ว การดูแลตัวเองหลังร้อยไหมก็มีความสำคัญอย่างมากในการคงสภาพผลลัพธ์หลังการร้อยไหมค่ะ

ข้อแนะนำเตรียมตัวก่อนร้อยไหม

เตรียมตัวก่อนร้อยไหม
  • งดวิตามิน อาหารเสริม เช่น คอลลาเจน น้ำมันตับปลา วิตามินอี เป็นต้น ก่อนร้อยไหม 1 สัปดาห์ เพื่อลดอาการบวม เขียวช้ำ
  • แนะนำเว้นจากการร้อยไหมครั้งก่อนหน้าอย่างน้อย 6-12 เดือน
  • งดแอลกอฮอล์ก่อนการร้อยไหม 24 ชั่วโมง
  • เตรียมประวัติโรคประจำตัวและประวัติแพ้ยา
  • ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการร้อยไหมมาเบื้องต้น

ข้อแนะนำหลักที่ต้องรู้ การดูแลหลังการร้อยไหม

ดูแลหลังร้อยไหม
  • ประคบเย็นตามแนวไหมที่ร้อยในช่วง 3 วันแรก
  • งดการขยับใบหน้าแรงๆ อ้าปากกว้าง หัวเราะ ยิ้มกว้าง ประมาณ 2 – 4 สัปดาห์
  • งดอาหารรสจัด ของหมักดอง แอลกอฮอล์ 1 สัปดาห์
  • งดกด นวดหน้า นอนตะแครง ประมาณ 2 – 4 สัปดาห์

สรุป

การร้อยไหมเป็นหัตถการที่ช่วยยกกระชับใบหน้า แก้ไขปัญหาความหย่อนคล้อย ปรับรูปหน้าให้สมดุล โดยไม่ต้องผ่าตัด และเห็นผลทันทีหลังทำ ซึ่งในแต่ละบุคคลก็จะมีการใช้จำนวนเส้นไหมที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละเคส ตามปกติหมอจะแนะนำก่อนทำทุกครั้ง เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ค่ะ

แต่ทั้งนี้ไม่ใช่ทุกคนที่สามารถร้อยได้ ก่อนจะทำหัตถการนั้นจะต้องศึกษาข้อมูลเบื้องต้นให้ดีก่อน เนื่องจากการร้อยไหมนั้นก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละบุคคล ดังนั้นก่อนทำหัตถการจึงจำเป็นที่จะต้องปรึกษาแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพื่อประเมินและวิเคราะห์ปัญหาต่างๆ ก่อนการทำทุกครั้ง

ทีมแพทย์พัชชาคลินิก

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของเว็บไซต์ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายคุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save