มีปัญหาปากบาง อยากปรับรูปทรงปากให้สวยขึ้น ทาลิปตกร่องอยู่บ่อยๆ ฟิลเลอร์ปากสามารถช่วยได้ โดยในบทความนี้หมอจะพามาเจาะลึกข้อมูลเกี่ยวกับฟิลเลอร์ปาก และตอบคำถามที่หลายๆ คนสงสัยให้หายลังเลการฉีดฟิลเลอร์ปากค่ะ
สารบัญ
- ฟิลเลอร์ปากคืออะไร
- สัดส่วนปากที่สวย
- ฉีดฟิลเลอร์ปากแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
- ฟิลเลอร์ปาก vs ศัลยกรรมปาก
- ตัดปากมาฉีดฟิลเลอร์ปากได้ไหม
- ฟิลเลอร์ปากใช้กี่ cc
- ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม
- ฟิลเลอร์ปากอันตรายไหม
- ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานแค่ไหน
- ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมนานไหม
- ข้อห้าม และวิธีดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
- ฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นก้อน
- สรุป
ฟิลเลอร์ปากคืออะไร
ฟิลเลอร์ปาก คือการใช้สารเติมเต็ม Hyaluronic acid (HA) ฉีดเข้าไปที่ปากเพื่อเพิ่มวอลลุ่มปาก ทำให้ปากอวบอิ่มขึ้น ปรับรูปทรงปากให้เป็นทรงที่ต้องการ แก้ปัญหาปากได้ โดยเห็นผลลัพธ์ทันที และไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ
ทรงปากที่เป็นที่นิยมในไทย และมักนำมาฉีดปากสามารถแบ่งได้เป็น 2 ทรงปากดังนี้
- ทรงปากกระจับ เหมาะกับคนไทย และเอเชีย เมื่อฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับแล้วปากจะดูน่ารักขึ้น เพราะริมฝีปากบนหยักเป็นรูปตัวเอ็ม มีติ่งกระจับริมฝีปากบนซึ่งรับกับริมฝีปากล่าง
- ทรงปากสายฝอ เหมาะสำหรับคนที่ชอบปากที่อวบอิ่มมากๆ การฉีดปากสายฝอจะเน้นไปที่ความคมชัดของขอบปาก ไม่มีติ่งกระจับ ซึ่งจะทำให้ปากดูเซ็กซี่มากขึ้น
สัดส่วนปากที่สวย
สัดส่วนริมฝีปากที่สวยควรที่จะรับกับจุดอื่นๆ บนใบหน้า ซึ่งมีสัดส่วนดังนี้
- ระหว่างริมฝีปากบนและล่างอยู่ที่อัตราส่วน 1:1.6
- ระยะห่างระหว่างปลายจมูก และริมฝีปากบนควรห่างกัน 18 – 20 มิลลิเมตร
- ระยะห่างระหว่างริมฝีปากล่าง และปลายคางควรห่างกัน 36 – 40 มิลลิเมตร
- มุมปากไม่ควรเกินจุดกลางตา และยกขึ้นเล็กน้อย
- ในมุมด้านข้างลากเส้นจากปลายจมูกมาถึงปลายคาง ริมฝีปากล่างควรแตะที่เส้นพอดี ส่วนริมฝีปากบนควรห่างจากเส้น 2 มิลลิเมตร
ฉีดฟิลเลอร์ปากแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
- แก้ปัญหาเนื้อปากไม่เท่ากัน รูปปากดูไม่เป็นทรงสวย
- แก้ไขปัญหาริมฝีปากแห้ง ขาดความชุ่มชื่น ปากเป็นร่อง
- แก้ไขปัญหามุมปากตก ยกมุมปากได้
- แก้ปัญหาริมฝีปากบาง เติมเต็มให้ปากดูอิ่มฟูขึ้นได้
- ช่วยปรับลักษณะปากให้ดีตามหลักโหงวเฮ้ง
ฟิลเลอร์ปากvs ศัลยกรรมปาก
ระหว่างฟิลเลอร์ปาก และศัลยกรรมปากต่างเป็นวิธีที่สามารถปรับแก้ไขรูปทรงปากได้เหมือนกัน ซึ่งทั้ง 2 วิธีนั้นแตกต่างกันไปดังนี้
ฟิลเลอร์ปาก
- ปรับทรงปากด้วยสารไฮยาลูนิค แอซิด
- เหมาะกับคนที่มีเนื้อปากน้อย ริมฝีปากบาง
- อาจมีรอยเข็มเล็กน้อย ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ
- ผลลัพธ์ไม่ถาวร สามารถแก้ไขได้
ศัลยกรรมปาก
- ปรับทรงปากด้วยการผ่าตัด
- เหมาะกับคนที่มีเนื้อปากเยอะ ริมฝีปากหนา
- อาจมีรอยแผลเป็น และต้องพักฟื้นหลังทำ
- ผลลัพธ์ถาวร แก้ไขได้ยาก
การศัลยกรรมปากให้ผลลัพธ์ถาวร แต่แก้ไขได้ยาก และต้องพักฟื้นหลังทำ หากใครที่ยังไม่มั่นใจแนะนำให้ฉีดฟิลเลอร์ปากก่อน เพราะยังสามารถแก้ไขได้หากไม่ชอบทรง และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติหลังทำค่ะ
ตัดปากมาฉีดฟิลเลอร์ปากได้ไหม
ถ้าศัลยกรรมตัดปากมาแล้วรู้สึกว่าปากบางไป สามารถฉีดฟิลเลอร์ปากได้ แต่บางคนอาจมีพังผืดรั้งที่ปากเยอะจนเติมได้ยาก หรือริมฝีปากบางมากไปจนไม่สามารถแก้ทรงได้ จึงควรตัดสินใจให้ดีก่อนผ่าตัดปากค่ะ
ฟิลเลอร์ปากใช้กี่ cc
ฟิลเลอร์ปากใช้ฟิลเลอร์ 1 cc ก็เพียงพอต่อการปรับรูปทรง แต่ถ้ามีริมฝีปากที่บางมาก หรือต้องการริมฝีปากที่อวบอิ่มเป็นทรงสายฝอจะต้องใช้ปริมาณฟิลเลอร์ 2 cc โดยหมอจะประเมินปริมาณฟิลเลอร์ที่ใช้ก่อนฉีดค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ปากเจ็บไหม
การฉีดฟิลเลอร์ปากไม่เจ็บ เพราะก่อนฉีดปากจะมีการฉีดยาชา ซึ่งจะรู้สึกเจ็บแค่ในตอนฉีดยาชาเท่านั้น ส่วนระหว่างจะไม่รู้สึกเจ็บ และฟิลเลอร์ในบางยี่ห้อยังมียาชาผสมอยู่ด้วยทำให้การฉีดฟิลเลอร์ปากไม่เจ็บเลยค่ะ
ฟิลเลอร์ปากอันตรายไหม
บริเวณริมฝีปากนั้นมีเส้นเลือดอยู่เยอะ หากฉีดเข้าเส้นเลือดทำให้ฟิลเลอร์เข้าไปอุดตัน และมีผลข้างเคียงอย่างเนื้อบริเวณนั้นตายได้จึงต้องระวังเป็นพิเศษ แต่การฉีดฟิลเลอร์ปากไม่อันตรายถ้าฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ จึงควรเลือกคลินิกให้ดีก่อนฉีดฟิลเลอร์ปาก ใช้เป็นฟิลเลอร์แท้ และแพทย์เชี่ยวชาญที่รู้จุดฉีดมีเทคนิคเลือกใช้ประเภทเข็มได้ดี
ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ปากนั้นใช้ได้ทั้งเข็มแหลม และเข็มทู่ แต่จะต่างกันตรงที่เข็มแหลมอาจมีโอกาสโดนเส้นเลือดมากกว่า และเกิดรอยช้ำ แต่ขึ้นทรงปาก สร้างขอบปากได้ดี ส่วนเข็มทู่จะปลอดภัยต่อเส้นเลือดมากกว่า เหมาะกับการเพิ่มวอลลุ่มปาก แต่ขึ้นทรงได้ไม่ดีเท่าเข็มแหลมค่ะ
ฟิลเลอร์ปากอยู่ได้นานแค่ไหน
หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์ปากแล้วผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 – 12 เดือน แต่ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก และยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ในการฉีดปาก เพราะฟิลเลอร์ละรุ่นมีเนื้อ และคุณสมบัติที่แตกต่างกัน
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี
ฉีดฟิลเลอร์ปากบวมนานไหม
หลังจากฉีดฟิลเลอร์ปากจะมีอาการบวมในช่วง 3-7 วันแรกหลังฉีด จากยาชา และตัวฟิลเลอร์ โดยอาการบวมจะค่อยๆ ดีขึ้น จะเห็นผลลัพธ์ชัดเจน ปากหายบวม ทรงปากเข้าที่แล้วประมาณ 1 – 2 สัปดาห์หลังฉีดค่ะ
หากมีอาการบวมนานกว่าปกติ มีอาการแดงอักเสบ รู้สึกเจ็บ หรือมีตุ่มหนองและตุ่มใสๆ ร่วมด้วย อาจเกิดจากอาการแพ้ฟิลเลอร์ ติดเชื้อ หรือฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด แนะนำให้รีบมาพบแพทย์ทันทีค่ะ
ข้อห้าม และวิธีดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
- ดื่มน้ำให้เยอะๆ
- งดทาลิปอย่างน้อย 24 ชั่วโมงหลังฉีด
- งดการออกกำลังกาย 2 วันแรกหลังฉีด
- งดดื่มแอลกอฮอล์ ของดอง 1 สัปดาห์
- เลี่ยงความร้อน อาหารร้อน 2 สัปดาห์
- ไม่จับถูริมฝีปากแรงๆ 2 สัปดาห์
- ไม่อ้าปากกว้าง 2 สัปดาห์
- งดอาหารรสจัด 2 -3 วัน
- ใช้แปรงสีฟันที่มีขนนุ่ม และแปรงเบาๆ เพื่อไม่ให้ทรงปากเคลื่อน
สามารถอ่านบทความเพิ่มเติม : หลังฉีดฟิลเลอร์ปากกี่วันทาลิปได้
ฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นก้อน
ฉีดฟิลเลอร์ปากเป็นก้อนได้ เพราะผิวที่ริมฝีปากบางจึงเกิดเป็นก้อนได้ง่าย และในช่วงแรกเนื้อฟิลเลอร์ยังไม่กลืนไปกับผิวจึงดูเป็นก้อนให้เห็น ซึ่งจะค่อยๆ ยุบ 1 – 2 สัปดาห์หลังฉีด และยังขึ้นอยู่กับเนื้อฟิลเลอร์ที่ใช้ด้วยหากใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็งฉีดปาก จะเป็นก้อนง่ายกว่าเนื้อนิ่ม แต่จะค่อยๆ เนียนไปกับผิวภายใน 1 – 2 เดือน
ถ้าหากไม่หายไปอาจเกิดจากเนื้อฟิลเลอร์ไม่เหมาะสม ใช้ปริมาณมากเกินไป เทคนิคการฉีดของแพทย์ไม่เพียงพอ หรืออาจเป็นฟิลเลอร์ปลอมที่ทำให้เกิดผลข้างเคียงได้ค่ะ
สรุป
ฟิลเลอร์ปากช่วยปรับรูปทรงปาก ทำให้ปากดูอวบอิ่มชุ่มชื้น เพิ่มวอลลุ่มให้ปาก ทาลิปแล้วไม่ตกร่องได้ อีกทั้งยังไม่เป็นอันตรายสามารถฉีดฟิลเลอร์ปากได้อย่างปลอดภัย หากเลือกฉีดกับคลินิกที่ปลอดภัย และแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ
