เทรนด์ปากสายฝอ ปากอวบอิ่ม เพิ่มความเซ็กซี่ เป็นที่ฮิตกันมาสักพักแล้วจนตอนนี้ก็ยังฮิตกันอย่างมากเลยค่ะ ซึ่งการทำปากสายฝอสามารถทำได้ด้วยหลายวิธีอย่างการแต่งหน้า หรือศัลยกรรมปาก และวิธีที่กำลังมาแรงอย่างมากตอนนี้เลยก็คือ การฉีดฟิลเลอร์ปากแบบสายฝอนั่นเองค่ะ โดยเราจะมาดูกันค่ะว่า ฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอเป็นอย่างไร ดีไหม เหมาะกับใคร และราคาเท่าไร

ทรงปากสายฝอ คืออะไร เป็นแบบไหน ?
นอกจากเทรนด์ปากกระจับเพิ่มความละมุน น่ารักแบบเกาหลี ทรงปากสายฝออวบอิ่ม เพิ่มเสน่ห์ ปรับลุคเซ็กซี่ สไตล์ western look ก็ฮิตในไทยไม่แพ้ไปกว่ากันเลยนะคะ
ซึ่งกระแสปากสายฝอเราก็ได้รับมาจากเหล่าดาราเซเรบิตี้ทางฝั่งตะวันตก อย่างเช่น แองเจลิน่า โจลี่ (Angelina Jolie), ไคลี่ เจนเนอร์ (Kylie Jenner) ที่หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อกันมาบ้างแล้ว
โดยรูปทรงปากแบบสายฝอ เราจะเน้นไปที่ความอวบอิ่ม เห็นขอบปากชัดเจน ไม่มีติ่งกระจับแบบเกาหลี โดยทรงปากสายฝอที่นิยมกันมีดังนี้

-
ทรงปาก Full lips
ทรงนี้เน้นความอวบอิ่มขั้นสุด ปากจะดูเด่นชัด โดยความหนาและความอวบอิ่มของริมฝีปากล่างกับริมฝีปากบนจะมีสัดส่วนที่เท่ากัน หรือสัดส่วน 1:1

-
ทรงปาก Heavy lower lips
ทรงนี้ริมฝีปากล่างจะมีความหนาและความอวบอิ่มมากกว่าริมฝีปากบน โดยเห็นขอบปากบนชัดเจน ปากไม่ดูเจ่อเกินไป ซึ่งรูปทรงปากแบบ Heavy lower lips เป็นทรงปากสายฝอที่นิยมในไทยมากค่ะ
ทำปากสายฝอด้วยวิธีไหนได้บ้าง ?

-
การแต่งหน้า
ปากสายฝอสามารถทำด้วยวิธีง่ายๆ อย่างการแต่งหน้า โดยใช้เทคนิคการเขียนขอบปากและการทาลิปสติก แต่ติดอยู่ที่ว่าการแต่งหน้าจะค่อนข้างใช้เวลานาน และอาจหลุดได้ในระหว่างวัน อยู่ไม่ได้ถาวร

-
ศัลยกรรมปาก
เป็นการผ่าตัดปรับรูปทรงปาก วิธีนี้ทำแล้วผลลัพธ์อยู่ได้ถาวรเลยค่ะ แต่ข้อเสียคือ ใช้เวลาพักฟื้นนาน ถ้าเกิดไม่ถูกใจผลลัพธ์อาจต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัดซึ่งมีราคาสูง หรือใช้วิธีการเติมฟิลเลอร์ แต่ทั้งนี้จะไม่สามารถทำให้เนื้อปากเดิมของเรากลับมาเป็นเหมือนเดิมได้

-
ฉีดฟิลเลอร์ปาก
การฉีดฟิลเลอร์ เป็นการฉีดสาร HA เข้าไปเพื่อปั้นทรงปากให้อวบอิ่มมากขึ้น เห็นผลได้ทันทีหลังทำ แต่จะอยู่ได้ไม่ถาวร โดยอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน สามารถกลับมาเติมเพื่อคงความอิ่มฟูได้ 3-4 เดือนหลังทำครั้งแรก
ถ้าเกิดไม่ชอบผลลัพธ์หรืออยากเปลี่ยนทรงสามารถรอให้ฟิลเลอร์สลายเองตามธรรมชาติ หรือกลับมาฉีดสลายฟิลเลอร์ออกได้
ฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ เหมาะกับใคร ?

การฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ นอกจากจะเหมาะสำหรับคนที่ชอบเทรนด์แบบสายฝอ อยากปรับลุค เพิ่มเสน่ห์เพิ่มความเซ็กซี่แล้ว ยังเหมาะกับผู้ที่มีความต้องการและปัญหาเหล่านี้
- ผู้ที่มีริมฝีปากบาง รูปปากไม่เท่ากัน
- ผู้ที่มีริมฝีปากแห้ง ปากแตกเป็นขุย ขาดความชุ่มชื้น ทาลิปสติกแล้วตกร่อง
- ผู้ที่อยากเพิ่มเนื้อปาก แต่ไม่อยากผ่าตัดศัลยกรรมปาก
- ต้องการเห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำ และไม่ต้องพักฟื้น
เติมฟิลเลอร์ปากสายฝอต้องใช้กี่ CC ?

โดยปกติแล้วการฉีดฟิลเลอร์ปากแก้ไขปัญหาต่างๆ หรือฟิลเลอร์ปากกระจับจะเริ่มต้นที่ 1 CC แต่การฉีดฟิลเลอร์ปากแบบสายฝอเราจะเน้นที่ความอวบอิ่ม เพิ่มวอลลุ่มปากให้ดูอิ่มฟูมากยิ่งขึ้น อาจใช้ 2-3 CC แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับรูปทรงปากเดิมของเราด้วยค่ะ
ซึ่งควรเติมเพิ่มไหมหรือต้องเติมเท่าไหร่นั้น ควรได้รับการประเมินโดยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อผลลัพธ์ที่ออกมาสวยเป็นธรรมชาติ
ฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ ราคาเท่าไร ?
ราคาฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอ จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ เทคนิคและประสบการณ์ของแพทย์ โดยยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะกับการเติมแบบสายฝอ จะแนะนำเป็น เป็นยี่ห้อ Restylane kysse กับ Juvederm Volift เพราะเนื้อฟิลเลอร์แน่น ขึ้นทรงได้ดี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นและให้ความอิ่มฟูอย่างเป็นธรรมชาติ

โดยที่พัชชาคลินิกฟิลเลอร์สำหรับฉีดปากสายฝอมีราคาดังนี้
- Filler Restylane kysse ราคา 12,900.-/cc (ราคาปกติ 18,900.-/cc)
- Filler Juvederm volift ราคา 12,900.-/cc (ราคาปกติ 18,900.-/cc)
ดูโปรโมชั่นฟิลเลอร์เพิ่มเติม: ราคาฟิลเลอร์
และนอกจากสองยี่ห้อที่แนะนำไปข้างต้น ยังมีฟิลเลอร์อีกหลายรุ่นหลายยี่ห้อที่สามารถใช้ฉีดฟิลเลอร์ปากได้ โดยสามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี
สรุป
การทำปากสายฝอสามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์ปากสายฝอเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยปรับรูปทรงปากให้ดูอวบอิ่ม เซ็กซี่ขึ้น เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ และไม่ต้องพักฟื้นนาน แต่ทั้งนี้ผลลัพธ์ที่ได้จะอยู่ไม่ได้ถาวร เพราะฟิลเลอร์สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้างในร่างกาย
ทั้งนี้หลายคนอาจกังวลอยู่ว่าปากสายฝอจะเหมาะกับเราไหม เข้ากับรูปหน้าของเราหรือไม่ สามารถส่งรูปมาให้หมอประเมิน หรือส่ง reference ทรงปากที่ต้องการมาให้ประเมินก่อนได้นะคะ
