ฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี ในปัจจุบันปากกระจับแบบสายเกา ปากอิ่มฟูแบบสายฝอกำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก และแก้ไขปัญหาปากต่างๆ อย่าง ริมฝีปากไม่เท่ากัน ขาดความชุ่มชื้น ทำได้โดยไม่ต้องผ่าตัดให้เจ็บตัวด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปาก ซึ่งเราควรฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี แบบไหนเติมแล้วจะให้ผลลัพธ์ที่ตรงใจเราที่สุด หมอมีคำตอบมาให้แล้วค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ปากใช้ยี่ห้อไหนดี
เนื้อฟิลเลอร์ที่ใช้ฉีดฟิลเลอร์ปากควรเป็นเนื้อที่ขึ้นทรงได้ดี กลืนกับผิวได้ดี มีความเป็นธรรมชาติ ปัจจุบันฟิลเลอร์ที่นำมาใช้ฉีดฟิลเลอร์ปากมีหลายยี่ห้อให้เลือกใช้ด้วยกันดังนี้
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Restylane
- Filler Restylane Kysse รุ่นนี้ออกแบบมาพิเศษเพื่อเติมบริเวณริมฝีปากโดยเฉพาะ เนื้อฟิลเลอร์เรียบเนียนเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อน ขึ้นทรงได้ดี ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ปากดูอวบอิ่ม ทำให้ปากอมชมพูขึ้น ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- Filler Restylane Classic รุ่นนี้เนื้อนิ่มมาก ปั้นทรงง่าย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้ปากดูเป็นทรงสวยธรรมชาติสามารถใช้ตัวนี้เติมได้ อยู่ได้นานประมาณ 6-8 เดือน
- Filler Restylane Vital light รุ่นนี้เนื้อนิ่มมากๆ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ริมฝีปากดูชุ่มชื้น แก้ริมฝีปากเป็นร่อง อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน
- Filler Restylane Defyne รุ่นนี้เนื้อค่อนข้างแข็ง หลังฉีดอาจจะมีความเป็นก้อนนิดหน่อยในช่วงแรก แต่เนื้อกระจายกับผิวได้ดี เหมาะสำหรับผู้ต้องการปรับรูปทรงปากให้ทรงปากชัด เพิ่มความอวบอิ่ม อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ Juvederm
- Filler Juvederm Volift รุ่นนี้เนื้อค่อนข้างฟู แต่จะนิ่มเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้ปากดูอิ่มฟู สวยเป็นธรรมชาติ อยู่ได้นานประมาณ 12 เดือน
- Filler Juvederm Vobella รุ่นนี้มีเนื้อฟิลเลอร์นิ่ม ให้ความเรียบเนียนเป็นธรรมชาติ เหมาะสำหรับฉีดเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับริมฝีปาก อยู่ได้นานประมาณ 8 – 12 เดือน
ฟิลเลอร์ปากยี่ห้อ e.p.t.q
- Filler e.p.t.q S100 รุ่นนี้เนื้อนิ่มเกลี่ยง่าย เหมาะสำหรับเพิ่มความชุ่มชื้นให้ริมฝีปาก แก้ปัญหาร่องริมฝีปาก อยู่ได้นานประมาณ 6 เดือน
- Filler e.p.t.q S300 รุ่นนี้เนื้อแข็งปานกลาง ยืดหยุ่นได้ดี ปั้นทรงสวย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการปรับทรงริมฝีปาก เพิ่มความอวบอิ่มปาก อยู่ได้นานประมาณ 9 เดือน
ฉีดฟิลเลอร์ปากใช้ปริมาณเท่าไร ?
ปริมาณฟิลเลอร์ปากปกติแล้วจะเริ่มต้นที่ 1 CC ซึ่งปริมาณนี้สามารถปรับทรงปาก ทำปากกระจับ ลดร่องปาก เพิ่มความชุ่มชื้นได้ แต่ถ้าอยากเพิ่มวอลลุ่มอวบอิ่มมากขึ้น แบบทรงปากสายฝอจะใช้ฟิลเลอร์ประมาณ 2 CC ซึ่งขึ้นอยู่กับรูปปากเดิมของแต่ละบุคคลด้วยค่ะ
ฟิลเลอร์ปาก ราคาเท่าไร ?
การฉีดฟิลเลอร์ปากราคาจะแตกต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อแต่ละรุ่นของฟิลเลอร์ ซึ่งที่ Patcha Clinic มีราคาฟิลเลอร์ปากดังนี้
ราคาฟิลเลอร์ปาก e.p.t.q
- e.p.t.q. S100 ราคา 7,900 บาท/cc (ปกติราคา 9,900 บาท/cc)
- e.p.t.q. S300 ราคา 7,900 บาท/cc (ปกติราคา 9,900 บาท/cc)
ราคาฟิลเลอร์ปาก Restylane
- Restylane Classic ราคา 10,900 บาท/cc (ราคาปกติ 14,900 บาท/cc)
- Restylane Vital light ราคา 10,900 บาท/cc (ราคาปกติ 15,900 บาท/cc)
- Restylane Defyne ราคา 10,900 บาท/cc (ราคาปกติ 18,900 บาท/cc)
- Restylane Kysse ราคา 12,900 บาท/cc (ราคาปกติ 18,900 บาท/cc)
ราคาฟิลเลอร์ปาก Juvederm
- Juvederm Volift ราคา 12,900 บาท/cc (ราคาปกติ 18,900 บาท/cc)
- Juvederm Vobella ราคา 12,900 บาท/cc (ราคาปกติ 18,900 บาท/cc)
ฉีดฟิลเลอร์ปากที่ไหนดี
เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ออกมาจะสวยตามที่ต้องการ นอกจากยี่ห้อฟิลเลอร์ปากที่เลือกใช้แล้ว การเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ปากก็เป็นสิ่งสำคัญโดยมีวิธีเลือกดังนี้
- เลือกคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ได้รับใบประกอบการจากสาธารณสุข และคลินิกต้องมีความสะอาด
- มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการเติมฟิลเลอร์ปาก ที่สามรรถให้คำปรึกษา แนะนำยี่ห้อฟิลเลอร์ปาก และปริมาณฟิลเลอร์ปากที่เหมาะสม
- คลินิกต้องใช้ฟิลเลอร์ยี่ห้อที่ใช้เป็นของแท้ ได้มาตรฐาน ผ่าน อย. ไทย สามารถตรวจเช็คได้ว่าเป็นฟิลเลอร์แท้
- มีรีวิวฟิลเลอร์ปากจากผู้ใช้จริง เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง และความเห็นจากผู้ฉีดจาก social media หรือเว็บไซต์ เช่น facebook, Pantip
อ่านบทความเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ที่ไหนดี
พัชชาคลินิกได้รับโล่รางวัลการันตีจากบริษัทนำเข้าฟิลเลอร์ Neuramis Restylane และ Juvederm ว่าทางคลินิกใช้ฟิลเลอร์แท้ที่นำเข้าอย่างถูกต้องและมียอดการสั่งซื้อสูงเป็นอับดับต้นๆ ของประเทศ
สรุป
ฉีดฟิลเลอร์ปากยี่ห้อไหนดี ควรเลือกเนื้อฟิลเลอร์ที่ขึ้นทรงได้ดี ฉีดแล้วดูเป็นธรรมชาติ ไม่เป็นก้อนหลังฉีด ซึ่งมีอยู่ได้หลายยี่ห้อ และยังมีฟิลเลอร์ที่ผลิตมาสำหรับปากโดยเฉพาะคือ ฟิลเลอร์ Restylane kysse ที่นอกจากจะปรับทรงปากได้แล้วยังปรับให้ปากชมพูขึ้น แต่ก็ยังมีอีกหลายรุ่นที่นำมาฉีดปากได้ค่ะ