ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อันตรายไหม ฉีดอย่างไรไม่ให้เป็นก้อน

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคือวิธีที่สามารถแก้ปัญหาใต้ตาได้หลากหลาย เห็นผลไวและตรงจุดที่สุดในตอนนี้ เลยเป็นสิ่งที่หลายท่านอยากทำเพื่อให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น แต่ก็ยังมีความกลัวและกังวลอยู่ รวมถึงเคยเจอปัญหาจากการเติมฟิลเลอร์มาทำให้หมดความมั่นใจ โดยหมอยืนยันเลยค่ะว่าฟิลเลอร์มีความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่จะได้สวยเป็นธรรมชาติ หากฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์และใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน

สารบัญ

ฉีดใต้ตา
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์ใต้ตาแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง ?

เติมฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยอะไร

การเติมฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถแก้ไขปัญหาใต้ตาได้หลากหลาย ได้แก่

  • ปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ

ฟิลเลอร์จะเติมเต็มผิวบริเวณใต้ตาคล้ำซึ่งจะทำให้ใต้ตาดูฟูขึ้น แสงสามารถกระทบผิวได้มากขึ้น ใต้ตาจึงดูสว่างขึ้น รวมถึงชั้นผิวที่หนาขึ้นจากฟิลเลอร์ทำให้เห็นสีของกล้ามเนื้อและเส้นเลือดลดลงได้

  • ปัญหาใต้ตาลึก เบ้าตาลึก ตาโหล

ปัญหาของใต้ตาที่ดูตาโหล เบ้าตาลึก จะถูกเติมเต็มด้วยฟิลเลอร์ ซึ่งจะทำให้ใต้ตาที่เป็นเบ้าลึกดูตื้นขึ้น และดูดีขึ้น

  • ปัญหาถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย

การแก้ปัญหาของถุงใต้ตา หรือใต้ตาหย่อนคล้อย ฟิลเลอร์ที่เติมชั้นลึกจะไปช่วงพยุงและเสริมโครงสร้างผิวที่อ่อนแรง ส่งผลให้ถุงใต้ตาดูกระชับขึ้น

  • ปัญหาริ้วรอยใต้ตา ผิวเหี่ยว

ฟิลเลอร์เป็นสาร Hyaluronic acid ซึ่งเป็นสารอุ้มน้ำ จึงทำให้ผิวดูอิ่มน้ำ ริ้วรอยใต้ตาจึงดูเรียบเนียนขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน

ปัญหานี้พบได้บ่อยมาก หากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ไปแก้ไขความเสื่อมของโครงสร้างใต้ตาก่อน แต่ไปเน้นในเรื่องของการเติมเต็มเพียงอย่างเดียว

หมอจะยกตัวอย่างปัญหาใต้ตาลึกถุงใต้ตาหย่อน ปกติบริเวณใต้ตาของเรามีแนวกระดูกและเส้นเอ็นต่างๆ คอยพยุงให้ผิวดูกระชับเต่งตึง แต่พอเราแก่ขึ้นกระดูกผุกร่อนลง เส้นเอ็นที่เคยแข็งแรงอ่อนแรงลง ทำให้ชั้นไขมันและผิวด้านบนไม่มีตัวค้ำจึงหย่อนลงมา ดูเป็นเบ้าลึก หรือเป็นถุงใต้ตา

ีฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน

ลองนึกภาพตามหมอนะคะ หากเราเติมฟิลเลอร์ใต้ตาเพื่อให้ตาที่หย่อนลึกดูเต็มขึ้น เน้นการถมบริเวณชั้นไขมันและผิวที่ดูเป็นร่อง ผลลัพธ์ที่ได้หลังทำใต้ตาจะดูเต็มสวยค่ะ แต่เรายังไม่ได้แก้ไขโครงสร้างของผิวที่อ่อนแรงลง เท่ากับว่าเรายิ่งไปเพิ่มน้ำหนักของผิวชั้นบนด้วยฟิลเลอร์ แรงพยุงผิวของโครงสร้างที่อ่อนแรงอยู่เดิมต้องรับน้ำหนักมากขึ้น ส่งผลให้เมื่อเวลาผ่านไปไม่กี่เดือน ใต้ตาที่ดูเต็มสวยจากฟิลเลอร์ เริ่มเห็นเป็นก้อนย้อนลงมา และจะสังเกตเห็นผิวใต้ตาดูเป็นสีเขียวม่วงคล้ำขึ้นหรือที่เรียกว่า Tyndall effect ดังนั้นเพื่อใม่ให้ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนวิธีการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรแก้ที่โครงสร้างใต้ตาก่อนค่ะ 

อ่านเพิ่มเติม : ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อน

ฟิลเลอร์แบบไหนที่เหมาะกับใต้ตา ?

ปัญหาบริเวณใต้ตาของแต่ละท่านจะมีความแตกต่างกัน โดยการเติมฟิลเลอร์ใต้ตาจะต้องแก้ไขตามสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาใต้ตาของท่านนั้นเป็นหลัก เพื่อผลลัพธ์ที่ดูสวยเป็นธรรมชาติที่สุดค่ะ

หากเราแบ่งโครงสร้างของใต้ตาเป็น

  1. ใต้ตาชั้นลึก : กระดูกเบ้าตา กระดูกหน้าแก้ม เส้นเอ็นพยุงผิว ชั้นไขมันชั้นลึก

ฟิลเลอร์ใต้ตาที่ฉีดในชั้นนี้ ฉีดเพื่อพยุงโครงสร้างเส้นเอ็นที่หย่อนให้กระชับขึ้น เสริมแนวกระดูกที่กร่อนตามวัยให้เต็มและตื้นขึ้น ส่งผลให้ถุงใต้ตากระชับขึ้น เบ้าตาลึกดูเต็มขึ้น เนื้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสม: เป็นฟิลเลอร์เนื้อแข็งที่มีคุณสมบัติในการยกกระชับได้ดี

2. ใต้ตาชั้นตื้น : ชั้นไขมันชั้นบน ชั้นผิวหนัง

ฟิลเลอร์ใต้ตาที่ฉีดชั้นนี้ ฉีดเพื่อใช้เก็บรายละเอียดบริเวณร่อง ริ้วรอยให้ดูเรียบเนียน แต่จะไม่เติมฟิลเลอร์ในชั้นนี้ในปริมาณมาก เนื่องจากฟิลเลอร์จะวางอยู่บนกล้ามเนื้อ หากมีปริมาณมากไปเวลายิ้มจะเห็นเป็นก้อนนูนขึ้นมาได้ เนื้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสม: เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อนิ่ม เบาบาง มีคุณสมบัติที่กลืนกับผิวได้ดี ซึ่งในปัจจุบันมี Filler ออกมาหลายรุ่น หลายยี่ห้อที่เหมาะสมสำหรับใช้เติมฟิลเลอร์ใต้ตามากมาย สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่ ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี

ฟิลเลอร์ใต้ตาต้องใช้ฟิลเลอร์กี่ซีซี ?

ปริมาณซีซีของฟิลเลอร์ใต้ตาที่เหมาะสมในแต่ละท่านจะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับปัญหาและระดับของปัญหาที่มีเป็นหลัก การเติมฟิลเลอร์ใต้ตาจะใช้ฟิลเลอร์สองโมเลกุลเพื่อแก้ไขทั้งใต้ตาชั้นลึกและใต้ตาชั้นตื้น หากให้หมอประมาณการจำนวนซีซีที่ใช้เบื้องต้นจะเริ่มที่

  • ฟิลเลอร์เนื้อแข็งสำหรับใต้ตาชั้นลึก ควรเริ่มต้นที่ประมาณ 1-2 ซีซี ต่อข้าง
  • ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มสำหรับใต้ตาชั้นตื้น ควรเริ่มต้นที่ประมาณ 0.5-1 ซีซี ต่อข้าง
ฟิลเลอร์ใต้ตา
เติมฟิลเลอร์ใต้ตา

คลิกเพื่อดูรีวิวเพิ่มเติม : รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน ?

การคงสภาพของฟิลเลอร์ใต้ตาในแต่ละท่านจะแตกต่างกัน แม้ว่าจะใช้จำนวนซีซีที่เท่ากันในการฉีด เนื่องจากขึ้นอยู่กับหลากหลายปัจจัย ได้แก่

  1. ปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาที่มี

หากการเติมฟิลเลอร์ในครั้งนั้น จำนวนน้อยเกินไปต่อปัญหาที่ต้องการแก้ไข จะทำให้คนไข้รู้สึกว่าฟิลเลอร์อยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร เนื่องจากเรายังไม่ได้แก้ไขปัญหาได้หมดในการเติมครั้งนั้น

  1. ยี่ห้อ และรุ่นของฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์แต่ละตัวจะมีระยะเวลาในการคงสภาพใต้ผิวที่ต่างกัน โดยฟิลเลอร์เนื้อแข็งจะอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เนื่องจากมีความเข้มข้นและความหนาแน่นของสารไฮยาลูโรนิก แอซิค (Hyaluronic acid) ที่มากกว่า

  1. แรงกระทำต่อตัวฟิลเลอร์

หากเป็นคนที่ยิ้มบ่อย กล้ามเนื้อบริเวณใต้ตาจะมีการหดตัวและขยับอยู่เป็นประจำทุกครั้ง จะมีแรงกระแทกกับฟิลเลอร์บริเวณนั้น ซึ่งเป็นการเร่งให้ฟิลเลอร์มีการสลายไวขึ้น หรือมีการนวดบริเวณใต้ตาบ่อยๆ ส่งผลให้เร่งการสลายได้เช่นเดียวกัน

  1. ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม

ความร้อน และสารอนุมูลอิสระต่างๆ เช่น การสูบบุหรี่ มีผลให้ฟิลเลอร์สลายไวขึ้น

  1. ความสามารถในการย่อยสลายไฮยาตามธรรมชาติของผิว

ฟิลเลอร์เป็นสารไฮยาลูโรนิก แอซิค (Hyaluronic acid) ที่สามารถสลายได้เอง ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในชั้นผิว แต่ร่างกายมีเอมไซน์ในการย่อยสลายสารไฮยาตามปกติ โดยในแต่ละคนมีการทำงานที่มากน้อยต่างกัน

  1. ปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาที่มี

หากการเติมฟิลเลอร์ในครั้งนั้น จำนวนน้อยเกินไปต่อปัญหาที่ต้องการแก้ไข จะทำให้คนไข้รู้สึกว่าฟิลเลอร์อยู่ได้ไม่นานเท่าที่ควร เนื่องจากเรายังไม่ได้แก้ไขปัญหาได้หมดในการเติมครั้งนั้น

  1. ยี่ห้อ และรุ่นของฟิลเลอร์

ฟิลเลอร์แต่ละตัวจะมีระยะเวลาในการคงสภาพใต้ผิวที่ต่างกัน โดยฟิลเลอร์เนื้อแข็งจะอยู่ได้นานกว่าฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เนื่องจากมีความเข้มข้นและความหนาแน่นของสารไฮยาลูโรนิก แอซิค (Hyaluronic acid) ที่มากกว่า

  1. แรงกระทำต่อตัวฟิลเลอร์

หากเป็นคนที่ยิ้มบ่อย กล้ามเนื้อบริเวณใต้ตาจะมีการหดตัวและขยับอยู่เป็นประจำทุกครั้ง จะมีแรงกระแทกกับฟิลเลอร์บริเวณนั้น ซึ่งเป็นการเร่งให้ฟิลเลอร์มีการสลายไวขึ้น หรือมีการนวดบริเวณใต้ตาบ่อยๆ ส่งผลให้เร่งการสลายได้เช่นเดียวกัน

  1. ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม

ความร้อน และสารอนุมูลอิสระต่างๆ เช่น การสูบบุหรี่ มีผลให้ฟิลเลอร์สลายไวขึ้น

  1. ความสามารถในการย่อยสลายไฮยาตามธรรมชาติของผิว

ฟิลเลอร์เป็นสารไฮยาลูโรนิก แอซิค (Hyaluronic acid) ที่สามารถสลายได้เอง ซึ่งเป็นสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติในชั้นผิว แต่ร่างกายมีเอมไซน์ในการย่อยสลายสารไฮยาตามปกติ โดยในแต่ละคนมีการทำงานที่มากน้อยต่างกัน

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาสามารถสลายได้ไหม ต้องขูดออกไหม ?

ในปัจจุบันฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐานอย.ไทยมีเพียงชนิดเดียว คือเป็นสารไฮยาลูโรนิก แอซิค (Hyaluronic acid) สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย

ที่สำคัญมียาที่เรียกว่าเอมไซน์ไฮยาลูโรนิเดส (Hyalase) สามารถฉีดสลายสารไฮยานี้ได้เลยหากคนไข้ฉีดไปแล้วไม่ชอบ หรือเกิดปัญหาที่มีความจำเป็นต้องฉีดสลายฟิลเลอร์ใต้ตาออก แต่หากคนไข้ท่านไหนเจอปัญหาว่า ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามาหลายปีแล้วยังดูเป็นก้อนไม่สลาย

อันนี้หมออยากให้ระวังไว้ว่าไม่ใช่ฟิลเลอร์ที่ผ่านอย. อาจเป็นพวกสารซิลิโคนเหลวที่ไม่สามารถสลายได้ ในกรณีนี้ต้องทำการขูดออกค่ะ แต่โดยส่วนมากสารเหลวพวกนี้แม้ว่าทำการขูดออกก็ไม่สามารถเอาออกไปได้หมด

ดังนั้นหากจะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หมอแนะนำให้เลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน ตัวฟิลเลอร์สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจนว่าเป็นของแท้ ได้มาตรฐานอย.ไทย โดยหมอเคยเขียนถึงวิธีเช็กฟิลเลอร์แท้ไว้แล้วในบทความ ฉีดฟิลเลอร์อันตรายไหม

ผลข้างเคียงจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ตามปกติจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถหายได้เองและไม่มีอันตราย ได้แก่

  • รอยเขียวช้ำ

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเขียว เกิดขึ้นได้จากรูเข็มที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ​ซึ่งจะทำให้เขียวช้ำ เกิดรอยเล็กน้อย และจะหายได้เองใน 1-2 สัปดาห์ แต่หากบริเวณเขียวช้ำ มีผิวซีดเหมือนขาดเลือด หรือเจ็บมากกว่าปกติร่วมด้วย แนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษา

  • อาการบวม

เนื่องจากฟิลเลอร์ถือเป็นสิ่งแปลกปลอมอย่างนึงที่ไม่ใช่ของร่างกายเรา ดังนั้นในช่วงแรกร่างกายจะมีปฏิกิริยาอักเสบ (Inflammation process) เกิดขึ้น รวมถึงฟิลเลอร์เป็นสาร Hyaluronic acid ที่เป็นสารอุ้มน้ำ จึงมีอาการบวมในบริเวณที่ฉีดได้ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก และจะยุบบวมลงเป็นปกติเอง หากอาการบวมมีผิวแดง มีผื่นขึ้น หรืออาการอื่นๆ ร่วมด้วย แนะนำให้รีบปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษา อ่านเพิ่มเติม: ฉีดฟิลเลอร์บวมกี่วัน

ภาพจาก: europepmc.org

  • อาการเจ็บ ปวดระบม

เนื่องจากมีปฏิกิริยาการอักเสบเกิดขึ้นจึงทำให้มีอาการระบมในช่วงสัปดาห์แรกหลังฉีดได้ รวมไปถึงเข็มที่ฉีดทำให้เนื้อเยื่อเกิดการบาดเจ็บเล็กน้อยจึงมีอาการระบมเกิดขึ้น

อาการเจ็บที่เป็นความปกตินี้จะดีขึ้นอย่างชัดเจนในทุกวัน ไม่เป็นมากขึ้น และหายเป็นปกติได้เองในช่วงประมาณ 7-14 วัน แต่หากมีอาการเจ็บมากขึ้น แนะนำรีบปรึกษาแพทย์ผู้ทำการรักษา

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม ?

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่อันตรายค่ะ แต่ทั้งนี้หลังการฉีดสามารถเกิดผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ได้ หากฉีดกับบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ หรือแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์ สถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงใช้ผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์ที่ไม่ผ่านอย.

  • ฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด

บริเวณใต้ตาเป็นบริเวณที่มีเส้นเลือดสำคัญอยู่ หากผู้ทำการฉีดไม่ทราบกายวิภาคของบริเวณนั้นดีพอ หรือไม่มีความระมัดระวัง อาจพลาดเข้าเส้นเลือด ส่งผลให้ผิวหนังบริเวณนั้นขาดเลือด หรือตาบอดได้  

*หมายเหตุ ในเคสที่เคยเติมสารเหลวแล้วขูดออก เคยผ่าตัด หรือเคยมีผิวหนังติดเชื้อบริเวณใต้ตา ควรแจ้งแพทย์ผู้ทำการรักษาก่อน เพื่อแพทย์จะได้วางแผนการรักษาที่ละเอียดขึ้นกว่าเคสปกติ

  • อาการแพ้ฟิลเลอร์

หากใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐานอย. มีโอกาสที่จะเกิดอาการแพ้ฟิลเลอร์ได้มาก โดยจะมีอาการบวมแดง อาจมีอาการคันร่วมด้วย

  • ฟิลเลอร์เป็นก้อน ยิ้มแล้วเป็นลำใต้ตา

ที่หมอได้อธิบายไป หากเราใช้ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มถมใต้ตาให้เต็ม โดยไม่ใช้ฟิลเลอร์เนื้อแข็งฉีดยกกระชับชั้นลึกขึ้นมาก่อน จะทำให้ต้องใช้ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มในปริมาณมาก ซึ่งตำแหน่งที่วางเป็นชั้นที่อยู่บนกล้ามเนื้อใต้ตา ทำให้เวลายิ้มดูเป็นก้อนนูนขึ้นมา การแก้ไขกรณีนี้ แนะนำให้ฉีดสลายออก

  • ใต้ตาดูเขียวคล้ำมากขึ้น (Tyndall effect)

เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาชั้นตื้นในปริมาณที่มากเกินไป เห็นเป็นลำเขียววาวๆ หลังฉีด ซึ่งไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้นทันทีหลังฉีด โดยสีเขียวที่เห็นนี้เป็นผลมาจากแสงที่ตกกระทบไปบริเวณที่มีฟิลเลอร์มากเกินไป

ภาพ Tyndall effect : europepmc.org

ฉีดฟิลเลอร์ใกล้ตาแล้วตาจะบอดไหม ?

เนื่องจากบริเวณใต้ตามีเส้นเลือดเยอะ ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจึงมีโอกาสที่จะเกิดตาบอดได้ หากฉีดกับบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ หรือแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน ดังนั้นก่อนฉีดควรศึกษาและเลือกให้ดีก่อนทีจะเข้าไปใช้บริการ ตามปกติหากฟิลเลอร์เข้าไปยังบริเวณเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงตา คนไข้จะรู้สึกว่าการมองเห็นแย่ลง เบลอ ไม่ชัดเจน หรือมองไม่เห็นเลย หากพบอาการดังกล่าวให้รีบแจ้งแพทย์ทันที เพื่อทำการฉีดสลายฟิลเลอร์ให้ไวที่สุด หากทำการรักษาทันภายในระยะเวลา 90 นาที มีโอกาสที่การมองเห็นจะกลับมาเป็นปกติตามเดิม

เนื่องจากบริเวณใต้ตามีเส้นเลือดเยอะ ดังนั้นจึงมีโอกาสที่จะเกิดตาบอดได้ หากฉีดกับบุคคลที่ไม่ใช่แพทย์ หรือแพทย์ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงสถานพยาบาลที่ไม่ได้มาตรฐาน

ดังนั้นก่อนฉีดควรศึกษาและเลือกให้ดีก่อนทีจะเข้าไปใช้บริการ

ตามปกติหากฟิลเลอร์เข้าไปยังบริเวณเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงตา คนไข้จะรู้สึกว่าการมองเห็นแย่ลง เบลอ ไม่ชัดเจน หรือมองไม่เห็นเลย

หากพบอาการดังกล่าวให้รีบแจ้งแพทย์ทันที เพื่อทำการฉีดสลายฟิลเลอร์ให้ไวที่สุด หากทำการรักษาทันภายในระยะเวลา 90 นาที มีโอกาสที่การมองเห็นจะกลับมาเป็นปกติตามเดิม

ฟิลเลอร์ใต้ตาเจ็บไหม ?

ก่อนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะมีการแปะยาชา ฉีดยาชา ขณะฉีดคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ อาจมีรู้สึกตึงๆ หน่วงๆ ได้บ้างเวลาฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาชั้นลึก รวมไปถึงในปัจจุบันฟิลเลอร์หลายยี่ห้อมียาชาผสม ทำให้ลดความเจ็บไปได้มากเลยค่ะ

ความแตกต่างระหว่างฟิลเลอร์ vs เติมไขมัน vs ร้อยไหมใต้ตา

  1. ฟิลเลอร์ใต้ตา

ส่วนตัวหมอคิดว่าฟิลเลอร์เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากถูกออกแบบมาให้มีหลายโมเลกุลเพื่อแก้ไขปัญหาในแต่ละชั้นผิวที่หลากหลาย ดังนั้นหากฉีดถูกตำแหน่งและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้เหมาะสม ผลลัพธ์จะดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด และหากไม่พึงพอใจหรือเกิดปัญหาก็สามารถฉีดให้สลายไปได้หมด แต่เมื่อเทียบกับตัวอื่นแล้ว ราคาจะสูงที่สุด

  1. การเติมไขมันใต้ตา

เป็นสารของร่างกายเราเอง ทำให้ไม่เกิดอาการแพ้ เน้นฉีดเพื่อการเติมเต็ม ไม่สามารถฉีดยกกระชับได้เหมือนฟิลเลอร์ เซลล์ไขมันมีคุณสมบัติเป็น stem cell ทำให้ผิวบริเวณนั้นมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ด้วย แต่หากไม่พึงพอใจหรือเกิดปัญหาไม่สามารถฉีดให้สลายไปได้ทันทีเหมือนฟิลเลอร์ และปริมาณในการเติมช่วงแรกจะต้องเติมให้เยอะไว้ก่อน เพราะเซลล์ไขมันจะติดแค่ 30% และรอเข้าที่ประมาณ 1 เดือน

  1. ร้อยไหมเติมเต็มใต้ตา

การร้อยไหมเส้นไหมจะอยู่ในรูปของแข็งเป็นเส้นๆ ทำให้ไม่สามารถเติมเต็มได้เรียบเนียนเท่าฟิลเลอร์หรือไขมัน และจะทำให้เกิดพังพังผืดใต้ผิวเป็นลำบริเวณที่ใส่ไหม โดยส่วนตัวหมอไม่ค่อยแนะนำวิธีนี้ค่ะ เพราะเห็นผลได้ไม่นานและไม่เป็นธรรมชาติ

1. ฟิลเลอร์

ส่วนตัวหมอคิดว่าฟิลเลอร์เป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด เนื่องจากถูกออกแบบมาให้มีหลายโมเลกุลเพื่อแก้ไขปัญหาในแต่ละชั้นผิวที่หลากหลาย

ดังนั้นหากฉีดถูกตำแหน่งและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ได้เหมาะสม ผลลัพธ์จะดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด และหากไม่พึงพอใจหรือเกิดปัญหาก็สามารถฉีดให้สลายไปได้หมด แต่เมื่อเทียบกับตัวอื่นแล้ว ราคาจะสูงที่สุด

2. การเติมไขมัน

เป็นสารของร่างกายเราเอง ทำให้ไม่เกิดอาการแพ้ เน้นฉีดเพื่อการเติมเต็ม ไม่สามารถฉีดยกกระชับได้เหมือนฟิลเลอร์ เซลล์ไขมันมีคุณสมบัติเป็น stem cell ทำให้ผิวบริเวณนั้นมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้ด้วย

แต่หากไม่พึงพอใจหรือเกิดปัญหาไม่สามารถฉีดให้สลายไปได้ทันทีเหมือนฟิลเลอร์ และปริมาณในการเติมช่วงแรกจะต้องเติมให้เยอะไว้ก่อน เพราะเซลล์ไขมันจะติดแค่ 30% และรอเข้าที่ประมาณ 1 เดือน

3. ร้อยไหมเติมเต็ม

การร้อยไหมเส้นไหมจะอยู่ในรูปของแข็งเป็นเส้นๆ ทำให้ไม่สามารถเติมเต็มได้เรียบเนียนเท่าฟิลเลอร์หรือไขมัน และจะทำให้เกิดพังพังผืดใต้ผิวเป็นลำบริเวณที่ใส่ไหม

โดยส่วนตัวหมอไม่ค่อยแนะนำวิธีนี้ค่ะ เพราะเห็นผลได้ไม่นานและไม่เป็นธรรมชาติ

สรุป

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาใต้ตาคล้ำ ขอบตาดำ ใต้ตาลึก มีริ้วรอยบริเวณใต้ตา หรือมีปัญหาถุงใต้ตาในระดับน้อยถึงปานกลางแต่ไม่ต้องการผ่าตัด โดยบริเวณรอบดวงตาเป็นส่วนที่มีความบอบบาง การฉีดฟิลเลอร์ควรใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ฟิลเลอร์ที่ใช้ต้องเหมาะสมกับการเติมเต็มใต้ตา ได้มาตรฐาน ผ่านอย.ไทย และฉีดกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัย รวมถึงได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีและเห็นผลที่สุด

ทีมแพทย์พัชชาคลินิก

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของเว็บไซต์ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายคุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า