การร้อยไหมหน้าเรียวยกกระชับหน้า เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เพราะเห็นผลทันทีหลังทำ ไม่ต้องพักฟื้นนาน เมื่อสอดเข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง เงี่ยงไหมจะเกี่ยวกับเนื้อเยื่อและชั้นไขมันให้ยกขึ้น ทำให้ผิวดูยกกระชับ หน้าเรียวอ่อนเยาว์ได้รูป แต่หลายคนยังมีความกังวลว่าร้อยไหมดีไหม มีข้อดี ข้อเสีย และผลข้างเคียงอะไรบ้าง หรือร้อยไปแล้วจะเกิดพังผืดไหม หมอมีคำตอบมาให้แล้วค่ะ
ประโยชน์ของการร้อยไหม
- ช่วยยกกระชับส่วนที่หย่อนคล้อย เช่น กระเปาะแก้ม กรอบหน้า เหนียง ทำให้ดูยกกระชับ วีเชฟ กรอบหน้าชัด
- ช่วยลดปัญหารอยพับร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ที่เกิดจากผิวหย่อนคล้อยให้ดูตื้นขึ้น
- ช่วยในเรื่องของแก้มตอบ หากคนที่มีแก้มตอบและมีเนื้อกระเปาะแก้มที่หย่อน หลังร้อยไหมแก้มตอบจะดูเต็มขึ้น
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ให้ผิวดูฟูแน่นขึ้น หน้าใส ลดปัญหารูขุมขนกว้าง หลุมสิว หากใช้จำนวนไหมที่มากพอ
ข้อดีของการร้อยไหม
- ช่วยยกกระชับในส่วนที่หย่อนคล้อยได้ เห็นผลทันทีหลังทำเสร็จ
- เป็นเทคนิคที่ช่วยยกกระชับ ปรับรูปหน้าโดยที่ไม่ต้องผ่าตัด เจ็บตัวน้อย ไม่ต้องพักฟื้นนาน สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ
- สามารถแก้ไขปัญหาร่องน้ำหมาก มุมปากตก ร่องแก้มที่เกิดจากความหย่อนคล้อยของผิวได้
- สามารถแก้ไขปัญหาแก้มตอบให้ดูเต็มขึ้นได้ ซึ่งลดการใช้ปริมาณฟิลเลอร์ให้น้อยลง
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบริเวณใต้ผิว ทำให้ผิวกระชับขึ้น อิ่มฟู แน่นมากขึ้น จึงสามารถแก้ปัญหาเรื่องรูขุมขนกว้าง ผิวไม่เรียบและหลุมสิวได้
- วัสดุที่นำมาทำไหม สามารถสลายได้เองตามกลไกธรรมชาติของร่างกาย ไม่ตกค้าง และได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก อย. มีความปลอดภัยสูง
ข้อเสียของการร้อยไหม
- หลังจากการร้อยไหมอาจเกิดอาการบวมหรือช้ำได้ เนื่องจากต้องใช้เข็มในการแทงเข้าไปใต้ชั้นผิว โดยอาการบวมจะค่อยๆหายไปได้เอง ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน
- อาจเกิดรอยคลื่น รอยบุ๋ม หรือริ้วหลังทำบริเวณผิว แต่สามารถหายได้เองประมาณ 2 – 4 สัปดาห์ เนื่องจากไหมดึงรั้งผิวขึ้นมา จะพบได้ในเคสที่ผิวนิ่มหรือหลวม
- หากมีไขมันบนใบหน้าค่อนข้างมาก หลังร้อยอาจทำให้ใบหน้าดูบวม เนื่องจากไหมจะยกเนื้อขึ้นมาในบริเวณช่วงหน้าแก้มและโหนกแก้ม หลังร้อยไปสักระยะหนึ่งไหมอาจจะตกเร็วเพราะปริมาณไขมันที่ทำให้ไหมหน่วง แนะนำให้ทำการฉีดสลายไขมันด้วยเมโสแฟตก่อนการร้อยไหม
- ต้องงดการนอนตะแคงไปในช่วงแรก ทำให้เกิดความไม่สะดวกได้ในบางราย
ผลข้างเคียงของการร้อยไหม
การร้อยไหมอาจจะเกิดผลข้างเคียงได้หลังทำ แต่ในปัจจุบันเทคนิคการร้อยไหมได้มีการพัฒนามากขึ้น ทำให้เกิดผลข้างเคียงน้อยลงและมีความปลอดภัยสูง ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นนั้นสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทดังนี้
ผลข้างเคียงทั่วไป อาการดังกล่าวเป็นอาการที่พบได้ตามปกติจากการร้อยไหม และจะหายได้เองโดยไม่ส่งผลอันตรายใดๆ
- รอยเขียวช้ำหลังการร้อยไหม
เนื่องจากมีการจิ้มเข็มลงไปใต้ชั้นผิว มีโอกาสไปโดนเส้นเลือดจึงทำให้เกิดอาการเขียวช้ำได้ และหายได้เองใน 1 – 2 สัปดาห์ การประคบเย็นในช่วง 2 – 3 วันแรกสามารถช่วยลดอาการดังกล่าวได้ ซึ่งหมอได้เคยเขียนวิธีดูแลตัวเองเพิ่มเติมไว้แล้วที่ วิธีเตรียมตัวก่อนร้อยไหมและดูแลหลังร้อยไหม
- อาการบวมหลังร้อยไหม
เนื่องจากหลังทำจะเกิดแผลใต้ผิวหนัง คนไข้จะมีอาการบวมและระบมใต้ผิวได้ประมาณ 1 – 2 สัปดาห์ รอยคลื่น ริ้วไหม และรอยบุ๋มบนผิว เนื่องจากไหมจะทำการดึงยกกระชับผิวขึ้นไปจะมีโอกาสพบได้มากในเคสที่ผิวนิ่ม หรือผิวหลวมเหลว
โดยอาการดังกล่าวจะค่อยๆดีขึ้นจากการซ่อมแซมใต้ชั้นผิว และเรียบเป็นปกติได้ใน 2 – 4 สัปดาห์ สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับอาการบวมหลังร้อยไหมได้ที่ ร้อยไหมบวมกี่วัน
ผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ เป็นอาการที่ไม่ควรเกิดขึ้นหลังการร้อยไหม
- เกิดการติดเชื้อบริเวณที่ร้อยไหม หลังทำคนไข้จะมีอาการปวดบวมแดงมากขึ้นเรื่อยๆเมื่อเวลาผ่านไป เกิดจากขั้นตอนการร้อยไหมที่ไม่สะอาดหรือมีการปนเปื้อนของเชื้อโรค
- อาจเกิดอาการปากเบี้ยว หรือชาบริเวณที่ร้อยไหมไป เมื่อยาชาหมดฤทธิ์แล้วก็ยังมีอาการอยู่ เนื่องจากความชำนาญของแพทย์ไม่มากเพียงพอ ทำให้โดนเส้นประสาทขณะร้อยไหม
- แพ้วัสดุในการร้อยไหม ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้น้อยมากๆ
- ไหมโผล่ที่บริเวณรูไหมเข้า เกิดจากการที่แพทย์ตัดและล็อคปมไหมไม่ดีพอ เห็นเป็นเส้นไหมตื้นๆบนผิวตามแนวการร้อย เกิดจากการร้อยไหมผิดชั้นหรือร้อยตื้นจนเกินไป
อ่านเพิ่มเติม : ร้อยไหมอันตรายไหม
ร้อยไหมเป็นพังผืดเหมือนกับการผ่าตัดดึงหน้าหรือไม่ ?
การร้อยไหมเป็นหัตถการที่ Minimally or Non-invasive procedure คือเป็นวิธีการยกกระชับใบหน้าที่แผลมีขนาดเล็ก บาดเจ็บน้อย และใช้ระยะเวลาในการพักฟื้นน้อย
ดังนั้นการร้อยไหมจึงเกิดพังผืดได้น้อย และไม่เป็นแผลเป็นใหญ่ใต้ผิวแบบการผ่าตัดดึงหน้าที่เป็นหัตถการใหญ่ซึ่งมีการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อเยอะ ทำให้มีโอกาสเกิดพังผืดเยอะตาม และใช้ระยะเวลาการพักฟื้นนาน
การร้อยไหมจะทำให้เกิดการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ชั้นผิวตามแนวไหมจากตัวไหมที่ร่างกายถือเป็นสิ่งแปลกปลอมอย่างหนึ่ง และการเกิดแนวแผลของเนื้อเยื่อใต้ผิวจากตัวไหมจะกระตุ้นทำให้ผิวบริเวณนั้น
- เกิดการซ่อมแซมเซลล์ผิว
- เกิดการสร้างและจัดเรียงตัวใหม่ของคอลลาเจน
โดยระยะเวลาที่จะเกิดการสร้างคอลลาเจนจะอยู่ที่ประมาณ 1 – 3 ปี ขึ้นอยู่กับวัสดุและชนิดของเส้นไหม ซึ่งการสร้างคอลลาเจนนี้เองคือผลลัพธ์ที่แท้จริงจากการร้อยไหม
หลังร้อยจะสังเกตเห็นว่าใบหน้าดูยกกระชับขึ้นเยอะมากแต่เวลาผ่านไปจะค่อยๆ คล้อยลงมา และผิวจะค่อยๆ สร้างคอลลาเจนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนได้ผลลัพธ์ในการยกกระชับที่เป็นธรรมชาติจากการร้อยไหมที่แท้จริง
โดยการร้อยไหมจะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาระดับน้อยถึงปานกลาง แต่ในเคสที่มีปัญหาความหย่อนคล้อยระดับรุนแรง หรืออายุมากกว่า 55 ปี ขึ้นไป ที่มีความกังวลในเรื่องของความหย่อนคล้อย อยากเก็บให้ดูยกกระชับขึ้นได้เยอะและอยู่ได้ยาวนานควรเลือกการผ่าตัดดึงหน้าจะดีกว่า
แต่ทั้งนี้ใครที่ไม่อยากผ่าตัด สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์ประเมินก่อนว่าถ้าร้อยไหมแทนจะยกกระชับได้มากแค่ไหน และเราจะพอใจกับผลลัพธ์ที่จะได้หรือไม่ค่ะ
ตัวอย่างผู้ที่มีความหย่อนคล้อยระดับรุนแรง
สรุป
การร้อยไหมนั้นคือวิธีการยกกระชับผิว โดยใช้เส้นไหมที่สลายได้เองใส่เข้าไปใต้ชั้นผิวหนัง และให้เงี่ยงของตัวไหมยึดเกาะกับผิว เพื่อเกี่ยวและยกกระชับผิวขึ้นตามตำแหน่งที่ต้องการ ทำให้ใบหน้าที่หย่อนคล้อยยกกระชับขึ้น อีกทั้งยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวได้อีกด้วยซึ่งจะแตกต่างจากการผ่าตัดดึงหน้า
โดยการร้อยไหมนั้นจะใช้เวลาพักฟื้นที่น้อยหรือไม่ต้องพักฟื้นเลย แผลมีขนาดเล็ก บาดเจ็บน้อย เกิดพังผืดได้น้อย ส่วนการผ่าตัดดึงหน้าถือเป็นหัตถการใหญ่ จะมีการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อที่เยอะ และจะต้องใช้เวลาในการพักฟื้นนาน ซึ่งสำหรับใครที่กังวลว่าจะร้อยไหมดีไหม สามารถทักแชทเข้ามาปรึกษาหมอก่อนได้ค่ะ