การร้อยไหมตอนนี้เป็นที่นิยมอย่างมาก แต่ด้วยข้อมูลข่าวสารต่างๆ ทำให้เกิดความกังวลว่า ร้อยไหมอันตรายไหม ซึ่งผลลัพธ์ในเรื่องของการยกกระชับที่เห็นได้ชัดเจนทันทีหลังทำเสร็จต่างสร้างความประทับใจให้กับคนไข้หลายๆคน แต่บางคนก็พบเจอเหตุการณ์ที่ไม่ดีเกี่ยวกับการร้อยไหม ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าผิดรูป ติดเชื้อใต้ชั้นผิวหนัง หน้าบวม ผิวเป็นคลื่น ขยับใบหน้าไม่ได้ ชาครึ่งหน้า !!!
ร้อยไหมอันตรายไหม ?
“ถ้าเลือกถูก… การร้อยไหมก็ไม่ได้อันตรายอย่างที่คิด” การร้อยไหมให้ปลอดภัยควรจะ
- ทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ใช้เทคนิคที่ถูกต้องและวิธีที่ปลอดภัย
- ใช้ไหมที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน เป็นไหมละลายได้รับรองมาตรฐานอย.
- มีขั้นตอนการจัดเก็บและการทำหัตถการที่ปลอดเชื้อ ไม่มีการปนเปื้อน
- ทำในคลินิกหรือสถานพยาบาลที่น่าเชื่อถือ มีความสะอาด
- มีให้คำแนะนำ ดูแลคนไข้ทั้งก่อนและหลังทำการร้อยไหม
ดังนั้นถ้าเราเลือกถูกและคำนึงถึงหลายปัจจัยข้างต้นก่อนทำการร้อยไหม ก็ไม่ต้องกังวลแล้วค่ะ เพราะการร้อยไหมเป็นหัตถการที่เด่นมากในเรื่องของการยกกระชับผิว สร้างความประทับใจให้คนไข้ในหลากหลายเคส เลยเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดได้จากการร้อยไหม
การร้อยไหมเป็นหัตถการที่คล้ายการผ่าตัดเล็กอย่างนึง จึงทำให้เกิดแผลใต้ผิวในช่วงแรก ดังนั้นอาจมีผลข้างเคียงที่สามารถเกิดได้ตามปกติ และจะหายเป็นปกติเองดังนี้
- อาการบวม เขียวช้ำ บริเวณแนวไหม อาการเหล่านี้จะค่อยๆหายไปเองที่ 1-2 สัปดาห์
- ในบางรายมีรอยรั้งไหม รอยริ้วไหม คลื่นไหมบนผิวให้เห็น จะพบในเคสผิวนิ่มมาก คอลลาเจนใต้ผิวน้อย แต่จะหายได้เองที่ 2-4 สัปดาห์
- หลังร้อยไหมจะมีอาการตึงผิวหน้ามาก ทำให้รู้สึกอ้าปากลำบาก ไม่สบายหน้า ความตึงจะค่อยๆดีขึ้นในสัปดาห์แรก และจะรู้สึกตึงมากสุดแค่ช่วง 1-3 วันหลังร้อยไหม
- จะรู้สึกคลำได้เป็นลำๆตามแนวไหมในช่วงแรก เนื่องจากเป็นอาการบวมของแผลใต้ผิว สุดท้ายจะเรียบเป็นปกติ
แต่จะมีอาการบางอย่างที่เกิดขึ้นกับคนไข้บางท่าน ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการร้อยไหมที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น ส่วนมากมาจากการใช้ไหมที่ไม่ได้มาตรฐาน แพทย์ไม่มีความเชี่ยวชาญ และสถานพยาบาลไม่มีมาตรฐานความปลอดภัย ซึ่งถ้าเกิดอาการดังกล่าวควรแจ้งแพทย์หรือคลินิกที่ทำการรักษาโดยเร็ว
- ผิวบวม แดง เจ็บ มีหนองบริเวณที่ร้อยไหม เกิดจากการติดเชื้อที่ใช้ไหมที่ไม่ได้มาตรฐานหรือมีการปนเปื้อนของเชื้อโรคในขั้นตอนการร้อยไหม
- ไหมทะลุ ไหมโผล่ออกมาให้เห็นนอกผิว โดยปกติปลายไหมที่เกินออกมาแพทย์จะทำการตัดออกตั้งแต่หลังร้อยไหม และซ่อนปมไหมไว้ใต้ผิว หากแพทย์ซ่อนปมของไหมไม่ดี จะทำให้ปลายไหมโผล่ออกมาได้ ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อในอนาคต
- หลังร้อยไหมใบหน้าบวมขึ้นเรื่อยๆ ประคบเย็นไม่ดีขึ้น อาจเกิดจากท่อน้ำลายขาดทำให้น้ำลายมาสะสมอยู่ในผิว ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ใบหน้าชาเฉพาะจุดแม้ยาชาหมดฤทธิ์แล้ว ร่วมกับอาการเจ็บแปร๊บ เกิดจากเส้นประสาทบริเวณนั้นอักเสบจากการร้อยไหม
ข้อดีของการร้อยไหม
การร้อยไหมมีข้อดีและจุดเด่นที่เยอะมาก ทำให้คนไข้หลายคนร้อยไปแล้วกลับมาร้อยอีกหลายๆครั้ง เรียกได้ว่าเข้าแล้วออกยากค่ะ
- แก้ปัญหาผิวที่หย่อนคล้อย มุมปากตก ร่องน้ำหมาก ร่องแก้มให้ยกกระชับขึ้น
- เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนทันทีหลังร้อย และยิ่งพอครบ 4 สัปดาห์ ผิวจะกระชับขึ้น หน้าวีเชฟได้รูปหน้าสวยมากยิ่งขึ้น
- ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว ลดริ้วรอยตื้นๆ ผิวฟูเรียบเนียนมากขึ้น
- ไหมสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้าง ปลอดภัยสูง
- ขั้นตอนการร้อยไหมใช้เวลาไม่นาน ประมาณ 1-2 ชั่วโมง
- ร้อยไหมราคาไม่สูงเท่าการผ่าตัดดึงหน้า ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากในเคสที่ต้องการแก้ไขปัญหาผิวหย่อนคล้อยระดับน้อย ถึง ปานกลาง
- ไม่ต้องเสียเวลาพักฟื้นนานเหมือนการผ่าตัดดึงหน้า
- สามารถปรับรูปหน้าที่ไม่เท่ากัน ให้ดูใกล้เคียงกันมากขึ้น หน้าได้รูปสวยมากขึ้น ในเคสที่ผิวหย่อนคล้อยไม่เท่ากัน
- ในคนไข้ที่ดื้อโบท็อกซ์มาก็สามารถใช้ไหมที่เป็นไหมละลายเส้นเล็กๆร้อยตามริ้วรอยให้เกิดผิวกระชับขึ้นได้อีกด้วย
- บริเวณร่องน้ำหมาก ร่องแก้ม สามารถร้อยไหมเพื่อให้ยกกระชับขึ้นได้ สำหรับคนที่กลัวการเติมฟิลเลอร์ หรือเข็ดกับฟิลเลอร์ที่เคยเติมมาก่อนหน้านี้
- สามารถช่วยให้แก้มตอบดูเต็มขึ้นได้ ทำลดปริมาณฟิลเลอร์ลงได้
ข้อเสียของการร้อยไหม
เนื่องจากการร้อยไหมไม่สามารถแก้ปัญหาบนใบหน้าได้หมด จึงไม่ได้เหมาะกับทุกคน และอาจมีผลข้างเคียงเกิดขึ้นได้บางในช่วงต้นหลังการร้อยไหม
- ไหมเป็นไหมละลายไม่ใช่แค่การร้อยครั้งเดียวแล้วจะอยู่ได้ตลอดไป พอไหมละลายหมดผิวก็จะกลับมาหย่อนคล้อยได้ ตามเดิมจึงต้องร้อยไหมซ้ำๆเรื่อยไปเพื่อให้ผิวกระชับอยู่ตลอด
- การร้อยไหมไม่สามารถให้ผลลัพธ์ในการยกกระชับได้ยาวนานสำหรับผู้ที่มีอายุ มากกว่า 50ปีขึ้นไป, ผิวหลวมขาดคอลลาเจน หรือผู้ที่มีการใช้กล้ามเนื้อบนใบหน้าบ่อยๆ
- การเกิดรอยบุ๋ม รอยรั้งตามแนวไหมได้ในช่วงแรกหลังการร้อยไหม ทำให้ดูไม่เรียบเนียนแต่สามารถหายได้เองและเรียบเป็นปกติในระยะเวลาประมาณ 4 สัปดาห์
- บางคนที่โหนกแก้มสูงอยู่แล้ว ต้องการร้อยไหมจะยิ่งทำให้โหนกแก้มดูสูงมากขึ้น แนะนำให้ปรับแก้ไขรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์จะเหมาะสมกว่า
- สามารถเกิดพังผืดใต้ผิวขึ้นได้ ถ้าหากเลือกวัสดุที่ไม่ได้รับมาตรฐาน แพทย์วางตำแหน่งของไหมที่ไม่ถูกต้อง และร้อยถี่จนเกินไป
- ถ้าหากคนที่มีผิวบอบบาง การใช้ไหมที่เป็นเข็มปลายแหลม จะทำให้เกิดอาการ เขียว บวม ช้ำ ได้มากกว่าคนที่ผิวปกติ
สรุป
การร้อยไหมที่ถูกต้องและถูกวิธี อาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีเทคนิคด้านการร้อยไหม วัสดุที่ใช้ได้รับมาตรฐานโดยมี อย.รับรองว่าปลอดภัย ตัวไหมเป็นไหมที่ละลายและสลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ตกค้าง จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายเลยค่ะ
และที่สำคัญการร้อยไหมเห็นผลทันทีหลังทำ หน้ายกกระชับขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งการศัลยกรรมผ่าตัดดึงหน้า โดยใช้เวลาในการทำไม่นานไม่ต้องเสียเวลาในการฟักฟื้นนาน สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ อีกทั้งค่าใช้จ่ายไม่เยอะเท่าการผ่าตัดดึงหน้าด้วยค่ะ