ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาราคาเท่าไหร่ ฉีดยี่ห้อไหนดี

ฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนดี

คำถามสำหรับหลายๆ คนที่กำลังหาข้อมูลเรื่องการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือจะเลือกยี่ห้อไหนดี ฉีดแบบไหนดี เพราะในปัจจุบันมีฟิลเลอร์มากมายหลายยี่ห้อ แต่การเลือกยี่ห้อหรือชนิดของฟิลเลอร์นั้น จะขึ้นอยู่กับสรีระและปัญหาใต้ตาของแต่ละคน โดยหมอขอแนะนำว่าให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินและวิเคราะห์ปัญหาของแต่ละคนก่อน เพื่อที่จะได้เลือกฟิลเลอร์ให้เหมาะสมในแต่ละบุคคล ส่งผลให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูสวยเป็นธรรมชาติ โดยหมออยากจะเล่าและอธิบายถึงความแตกต่างเพื่อให้คนไข้ได้มีข้อมูลประกอบการตัดสินใจ

สารบัญ

ฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร ?

โดยปกติแล้วฟิลเลอร์แต่ละชนิดนั้นจะมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป มีอายุการใช้งานที่ไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าปัญหาของแต่ละคนจะเหมาะกับยี่ห้อไหน ซึ่งยี่ห้อที่ทางคลินิกแนะนำสำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีหลักๆ ด้วยกัน 3 ยี่ห้อ ดังนี้

ยี่ห้อฟิลเลอร์ใต้ตา

ฟิลเลอร์ Neuramis

  • Neuramis Deep – มีลักษณะเนื้อเจลแข็ง โมเลกุลจะมีความแข็งกว่าฟิลเลอร์ตัวอื่นๆ มีความคงตัว สามารถใช้เติมเต็มบริเวณฐานใต้ตาได้ 

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ Neuramis

ฟิลเลอร์ Restylane

  • Restylane Vital Light – เป็นชนิดที่มีโมเลกุลขนาดเล็ก เนื้อละเอียด มีความนิ่มที่สุด เป็นฟิลเลอร์ที่มีส่วนผสมของยาชา ใช้สำหรับเก็บรายละเอียด หรือฉีดบริเวณผิวชั้นตื้น แก้ไขปัญหาริ้วรอยเล็กๆรอบดวงตา หรือร่องตื้นบริเวณรอบดวงตา
  • Restylane Classic – เป็นเนื้อเจลโมเลกุลใหญ่ เนื้อฟิลเลอร์แข็งปานกลาง มีส่วนผสมของยา ใช้ในการฉีดบริเวณไขมันใต้ตาชั้นลึก เพื่อแก้ไขปัญหาเบ้าตาลึกหรือร่องใต้ตาลึก
  • Restylane Lyft – เป็นเนื้อเจลโมเลกุลใหญ่ เนื้อแข็ง มีคุณสมบัติในการลิฟท์หน้าได้ดี มีส่วนผสมของยาชา ใช้ฉีดบริเวณแนวกระดูกเบ้าตาเพื่อแก้ไขปัญหาใต้ตาลึกและถุงใต้ตา
  • Restylane Defyne – เป็นเนื้อเจลโมเลกุลใหญ่ เนื้อแข็งแต่สามารถกลืนกับผิวได้ดีเหมาะสำหรับคนไข้ที่มีผิวบาง และมีคุณสมบัติในการลิฟท์หน้าได้ดี มีส่วนผสมของยาชา ใช้ฉีดบริเวณแนวกระดูกเบ้าตาเพื่อแก้ไขปัญหาใต้ตาลึกและถุงใต้ตา

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ Restylane

ฟิลเลอร์ Juvederm

  • Juvederm Volite – มีลักษณะเป็นเนื้อละเอียด เนื้อนิ่มเหลวที่สุด มีส่วนผสมของยาชา ใช้สำหรับเป็น skin booster แก้ไขริ้วรอยรอบดวงตาให้ตื้นขึ้น ผิวดูฟูอิ่มน้ำ
  • Juvederm Volift – มีลักษณะเป็นเนื้อแข็งปานกลางและฟู มีส่วนผสมของยา ใช้ในการฉีดบริเวณไขมันใต้ตาชั้นลึก เพื่อแก้ไขปัญหาเบ้าตาลึกหรือร่องใต้ตาลึก
  • Juvederm Voluma – มีลักษณะเป็นเนื้อแข็งและฟู ยืดหยุ่นสูง มีความแน่น คงตัว เรียบเนียน มีส่วนผสมของยาชา ใช้ฉีดบริเวณแนวกระดูกเบ้าตาเพื่อแก้ไขปัญหาใต้ตาลึกและถุงใต้ตา

อ่านข้อมูลเพิ่มเติม : ฟิลเลอร์ Juvederm

คนไข้แบบไหนที่ไม่สามารถเติมบริเวณใต้ตาได้เลย ?

คนไข้หลายท่านมีความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการเติมฟิลเลอร์ใต้ตา ส่วนใหญ่จะเลือกใช้ฟิลเลอร์เนื้อนิ่ม เช่น Restylane vital light มาเติมเลย ซึ่งผลลัพธ์ที่ตามมาสำหรับผู้ที่มีใต้ตาลึก หรือถุงใต้ตา จะทำให้ต้องใช้ฟิลเลอร์เนื้อนิ่มในปริมาณที่เยอะเกินความจำเป็นใส่ไปบริเวณชั้นตื้นๆ ทำให้เวลายิ้มเป็นก้อนเป็นลำขึ้นมา หรือเห็นเป็น Tyndall effect เกิดขึ้น

ดังนั้นปัญหาเรื่องใต้ตาของแต่ละบุคคลคนนั้นไม่เหมือนกัน จึงต้องได้รับคำแนะนำหรือการประเมินใบหน้าจากคุณหมอผู้เชี่ยวชาญก่อนถึงจะสามารถเลือกฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับบริเวณใต้ตาของแต่ละบุคคลได้ ซึ่งขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์บริเวณใต้ตานั้นจะแบ่งออกเป็น 2 ขั้นตอนใหญ่ๆ คือ

1. การแก้ไข้ใต้ตาชั้นลึก

ใช้ฟิลเลอร์แบบเนื้อแข็งเพื่อไปซัพพอร์ตโครงสร้างด้านใต้ที่อ่อนตัวไปตามกาลเวลา (Aging proces) ที่ทำให้เกิดชั้นตาลึกหรือมีถุงใต้ตาหย่อนก่อน

โดยโครงสร้างที่ว่าคือไขมันชั้นลึกช่วงหน้าแก้มและใต้ตา แนวกระดูกเบ้าตา เส้นเอ็นที่ยึดบริเวณใต้ตา เพื่อพยุงเสริมขึ้นมา เหมือนย้อนตามโครงสร้างใบหน้าที่เปลี่ยนไปตามเวลาให้กลับมาเหมือนช่วงวัยเด็กจะทำให้ตาดูตื้นดูฟูขึ้น ในขั้นตอนนี้สามารถแก้ปัญหาฐานใต้ตาลึกหรือถุงใต้ตาให้ดูดีขึ้นและเป็นธรรมชาติ โดยฟิลเลอร์ที่ใช้สำหรับการแก้ไขใต้ตาชั้นลึกโดยฉีดเพื่อปรับฐานก่อน มีดังนี้

  • Neuramis Deep – มีลักษณะเป็นเนื้อเจลที่มีโมเลกุลแข็งกว่าตัวอื่นๆ
  • Restylane Classic – เป็นเนื้อเจลโมเลกุลใหญ่ เนื้อแข็งปานกลาง
  • Restylane Lyft – เป็นเนื้อเจลโมเลกุลใหญ่ เนื้อแข็ง มีคุณสมบัติในการลิฟหน้าได้ดี
  • Restylane Defyne – เป็นเนื้อเจลโมเลกุลใหญ่ เนื้อแข็งแต่สามารถกลืนกับผิวได้ดีเหมาะสำหรับคนไข้ที่มีผิวบาง และมีคุณสมบัติในการลิฟท์หน้าได้ดี
  • Juvederm Voluma – ลักษณะเป็นเนื้อแข็งและฟู ยืดหยุ่นสูง มีความแน่น คงตัว เรียบเนียน
  • Juvederm Volift – มีลักษณะเป็นเนื้อแข็งปานกลางและฟู

2. การแก้ไขใต้ตาชั้นตื้น

ใช้ฟิลเลอร์ที่มีโมเลกุลเล็ก เนื้อนิ่ม ฉีดในลักษณะ skin booster

เป็นการฉีดเข้าไปบริเวณชั้นผิวหนัง เพื่อแก้ไขปัญหาในส่วนของริ้วรอยเล็กๆ ร่องลึกที่ต้องการเก็บรายละเอียดเพิ่มเติมหลังจากการแก้ไขโครงสร้างฐานใต้ตามาแล้ว ให้ดูเรียบและดูเต็มขึ้น สามารถฉีดในคนไข้ที่ไม่ได้มีปัญหาใต้ตาที่ลึกมาก ต้องการให้ดูเต็มขึ้นแบบเป็นธรรมชาติ

ในคนไข้ประเภทนี้สามารถฉีดฟิลเลอร์แบบเนื้อนิ่มได้เลยโดยที่ไม่ต้องฉีดแบบเนื้อแข็งเพื่อปรับโครงสร้างฐานก่อนแต่การเติมฟิลเลอร์ขั้นตอนนี้ แต่จะไม่สามารถเติมได้เยอะมาก เนื่องจากการวางฟิลเลอร์นี้จะวางในตำแหน่งเหนือกล้ามเนื้อ ถ้าเติมในปริมาณที่เยอะจนเกินไปทำให้เวลายิ้มจะเป็นก้อนได้ซึ่งเป็นปัญหาที่พบบ่อย

ภาพ Tyndall effect : europepmc.org

กับอีกปัญหาหนึ่งคือ Tyndall effect คือการฉีดฟิลเลอร์ตื้นจนเกินไปทำให้ผิวใต้ตาบริเวณนั้นดูเป็นรอยคล้ำขึ้นซึ่งสอดคล้องกับการกระเจิงของแสงทำให้เห็นผิวบริเวณที่มีฟิลเลอร์ดูคล้ำขึ้น โดยฟิลเลอร์ที่เหมาะสำหรับการแก้ไขใต้ตาชั้นตื้น มีดังนี้

  • Restylane Vital Light – เป็นชนิดที่มีโมเลกุลเล็ก เนื้อละเอียดนิ่ม มีความคงรูป
  • Juvederm Volite – มีลักษณะเป็นเนื้อละเอียด เนื้อนิ่มเนียน กลืนกับผิวได้ดี

ฟิลเลอร์ใต้ตา ใช้ปริมาณเท่าไหร่ ?

ฟิลเลอร์ใต้ตาใช้กี่ซีซี

ก่อนที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้น จะต้องได้รับการประเมินสรีระบริเวณใต้ตาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อน ซึ่งปกติแล้วปริมาณของฟิลเลอร์ที่จะใช้ฉีดในแต่ละเคสนั้นจะไม่เท่ากัน บางคนอาจจะใช้ประมาณ 2 – 3 CC หรือในบางเคสที่มีปัญหาน้อยก็จะแบ่งใช้ฟิลเลอร์เพื่อมาฉีดเพียงแค่ 1 CC เท่านั้น

โดยจะขึ้นอยู่กับว่าปัญหาของแต่ละคนอยู่ในระดับไหน ซึ่งสามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินและวิเคราะห์สรีระใต้ตาก่อนที่จะทำหัตถการเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

adcta-tel
adcta-inboxfacebook
adcta-addline
adcta-tel
adcta-inboxfacebook
adcta-addline

ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานแค่ไหน ?

ฟิลเลอร์จะอยู่ได้นานแค่ไหนนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น ยี่ห้อของฟิลเลอร์ ตำแหน่งที่ฉีด หรือแม้กระทั่งการดูแลหลังทำของแต่ละบุคคล

ซึ่งแต่ละยี่ห้อของฟิลเลอร์นั้นจะแสดงผลลัพธ์ได้นานไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับชนิดของฟิลเลอร์ที่แต่ละคนเลือกที่จะฉีด หรือขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละบุคคลว่าฉีดฟิลเลอร์ชนิดไหนแล้วจะทำให้เห็นผลลัพธ์ได้ดีมากที่สุด

ฟิลเลอร์ Neuramis

  • Neuramis Deep – สามารถแสดงผลลัพธ์ได้ประมาณ 6 – 8 เดือน

ฟิลเลอร์ Restylane

  • Restylane Vital Light – สามารถแสดงผลลัพธ์ได้ประมาณ 6 – 8 เดือน
  • Restylane Classic – สามารถแสดงผลลัพธ์ได้ประมาณ 8 – 12 เดือน
  • Restylane Lyft – สามารถแสดงผลลัพธ์ได้ประมาณ 12 เดือน
  • Restylane Defyne – สามารถแสดงผลลัพธ์ได้ประมาณ 12-18 เดือน

ฟิลเลอร์ Juvederm

  • Juvederm Volite – สามารถแสดงผลลัพธ์ได้ประมาณ 8 – 12 เดือน
  • Juvederm Volift – สามารถแสดงผลลัพธ์ได้ประมาณ 12 – 18 เดือน
  • Juvederm Voluma – สามารถแสดงผลลัพธ์ได้ประมาณ 1 – 2 ปี

ฟิลเลอร์ใต้ตาฉีดแล้วเป็นก้อนเกิดจากอะไร ?

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมในบางคน ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วถึงเป็นก้อน ซึ่งสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นเป็นก้อน มีดังนี้

  • ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตากับแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์หรือมีประสบการณ์ที่ไม่มากเพียงพอ
  • เลือกชนิดของฟิลเลอร์ที่ไม่เหมาะกับสรีระบริเวณใต้ตาของตัวเอง
  • ใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้มาตรฐาน
  • ใช้ฟิลเลอร์ในปริมาณที่มากเกินไป

อ่านเพิ่มเติม: ฟิลเลอร์เป็นก้อนเกิดจากอะไร

ราคาฟิลเลอร์ใต้ตา

ราคาฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตาราคา

ฟิลเลอร์ Neuramis

  • Neuramis Deep – ราคา 6,900.-/cc (ราคาปกติ 9,900.-/cc)

ฟิลเลอร์ Restylane

  • Restylane Vital Light – ราคา  10,900.-/cc (ราคาปกติ 15,900.-/cc)
  • Restylane Classic – ราคา 10,900.-/cc (ราคาปกติ 14,900.-/cc)
  • Restylane Lyft – ราคา 10,900.-/cc (ราคาปกติ 17,900.-/cc)
  • Restylane Defyne – ราคา 10,900.-/cc (ราคาปกติ 18,900.-/cc)

ฟิลเลอร์ Juvederm

  • Juvederm Volite – ราคา 10,900.-/cc (ราคาปกติ 18,900.-/cc)
  • Juvederm volift – ราคา 12,900.-/cc (ราคาปกติ 18,900.-/cc)
  • Juvederm Voluma – ราคา 12,900.-/cc (ราคาปกติ 18,900.-/cc)

รีวิวฟิลเลอร์ใต้ตา

สรุป

โดยปกติแล้วปัญหาสรีระบริเวณใต้ตาของแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน บางคนอาจจะมีปัญหาระดับมากจึงจะต้องฉีดฟิลเลอร์เนื้อแข็งเพื่อปรับโครงสร้างฐานก่อน หรือบางคนอาจจะมีปัญหาที่น้อยจึงไม่ต้องฉีดฟิลเลอร์เนื้อแข็งเพื่อปรับโครงสร้างฐานแต่สามารถฉีดฟิลเลอร์แบบเนื้อนิ่มได้เลย

ก่อนที่จะฉีดฟิลเลอร์นั้นจะต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความปลอดภัย ควรเลือกฉีดกับคุณหมอที่มีประสบการณ์ เลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดตามที่ใจต้องการ

ทีมแพทย์พัชชาคลินิก

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของเว็บไซต์ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายคุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า