เทรนด์ปากกระจับ ปรับลุคให้เป็นสาวหวาน เพิ่มความละมุนแบบสายเกา ในไทยตอนนี้ฮิตกันอย่างมากเลยนะคะ โดยวิธีการทำปากกระจับที่กำลังมาแรงตอนนี้ก็คงไม่พ้นการฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์จะเห็นผลลัพธ์ได้ทันที ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นนาน สวยเร็วทันใจขนาดนี้จึงทำให้เป็นที่นิยมอย่างมากเลยค่ะ
ปากกระจับ คืออะไร เป็นแบบไหน ?

เทรนด์ปากกระจับ เป็นเทรนด์ที่มาแรงได้สักพักแล้วนะคะ จนถึงตอนนี้ก็ยังฮิตกันอยู่ ซึ่งจะมีชื่อเรียกต่างกันไป เช่น ปากกระจับเกาหลี ปากกระจับปีกนก โดยลักษณะของปากกระจับ (Horn Chestnut-Shaped Lips) จะมีติ่งกระจับตรงกลาง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อยเหมือนกำลังอมยิ้ม และริมฝีปากล่างมีกระจับล่าง 2 กระเปาะจะดูเหมือนก้นเด็ก ให้ความละมุน และอวบอิ่มอย่างเป็นธรรมชาติ แต่ทั้งนี้จะไม่ได้อวบอิ่มขั้นสุดแบบปากสายฝอค่ะ

ซึ่งปากทรงกระจับถือว่าเป็นทรงปากที่เข้ากับโครงหน้าของคนเอเชียอย่างมากเลยค่ะ และจะสังเกตเห็นได้เลยว่าดาราไอดอลทั้งไทยทั้งเกาหลายคนรูปปากของเขาเป็นทรงปากกระจับกันเยอะมาก นั่นจึงเป็นอีกเหตุผลที่ว่าทำไมปากทรงกระจับถึงเป็นที่นิยมกันอย่างมากในไทยนั่นเอง
ปากกระจับทำด้วยวิธีไหนได้บ้าง ?
การทำปากกระจับในปัจจุบันสามารถทำได้ด้วย 2 วิธีหลักๆ คือ การศัลยกรรมปาก และการฉีดฟิลเลอร์ปาก
-
ศัลยกรรมปากกระจับ
เป็นการผ่าตัดตกแต่งริมฝีปากบนและล่างให้มีขนาดบางและเล็กลงเป็นรูปทรงกระจับ ผลลัพธ์ที่ได้จะได้อยู่ถาวร
-
ฟิลเลอร์ปากกระจับ
การเติมสารไฮยาลูรอนิก แอซิด (HA) ที่บริเวณริมฝีปาก เพื่อปั้นรูปทรงปากให้เป็นทรงปากกระจับ และช่วยเพิ่มวอลลุ่มให้ปากอวบอิ่มชุ่มชื้นเป็นธรรมชาติ ผลลัพธ์จะอยู่ได้นานประมาณ 6-12 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์และการใช้ชีวิตประจำวัน

การฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับจะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหารูปปากและมีความต้องการดังต่อไปนี้
- ผู้ที่มีปัญหาริมฝีปากบาง มีเนื้อปากน้อย ไม่เหมาะกับการศัลยกรรมปาก
- ผู้ที่มีริมฝีปากไม่เท่ากัน มีขอบปากไม่ชัด ไม่เป็นทรงชัดเจน
- ผู้ที่มีปัญหามุมปากตก ปากคว่ำ ทำให้ดูหน้าบึ้งตึง
- ชอบเทรนด์ปากแบบกระจับ ต้องการปรับรูปทรงปากให้เข้ากับใบหน้า
- ไม่ต้องการผ่าตัดศัลยกรรมปากกระจับ ไม่มีเวลาพักฟื้น
ฟิลเลอร์ปากกระจับ vs ศัลยกรรมปากกระจับ

หลายคนอาจยังลังเลว่าจะทำปากกระจับด้วยการฉีดฟิลเลอร์ปากหรือศัลยกรรมปากไปเลยจะดีกว่า ซึ่งทั้งสองหัตถการมีความแตกต่างกันดังนี้ค่ะ
ฟิลเลอร์ปากกระจับ |
ศัลยกรรมปากกระจับ |
ผู้ที่มีริมฝีปากบาง และมีทรงปากเดิมอยู่แล้ว | ผู้ที่มีริมฝีปากหนา ปากไม่เป็นทรง |
เห็นผลลัพธ์ทันที ไม่ต้องพักฟื้น แต่อาจมีอาการบวมฟิลเลอร์ 3-7 วันหลังฉีด | ใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์ และใช้เวลาพักฟื้น ต้องดูแลหลังทำอย่างเคร่งครัด |
ไม่มีรอยแผล แต่อาจมีรอยแดงจากเข็มในช่วงวันแรกหลังทำเสร็จ | มีรอยเย็บแผลหลังทำ จะไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นแผลคีลอยด์ง่าย |
ผลลัพธ์ไม่ได้อยู่ถาวร เนื่องจากฟิลเลอร์สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ ทำให้ต้องกลับมาเติมซ้ำเมื่อฟิลเลอร์สลาย | ผลลัพธ์อยู่ได้ถาวร |
หากไม่ชอบผลลัพธ์สามารถฉีดสลายฟิลเลอร์หรือรอให้ฟิลเลอร์สลายไปเองตามธรรมชาติ | หากไม่ชอบผลลัพธ์ จะไม่สามารถเปลี่ยนทรงปากกลับไปเป็นแบบเดิมได้ |
สรุปแล้วไม่ว่าจะเป็นฟิลเลอร์ปากหรือศัลยกรรมปากต่างก็สามารถทำปากกระจับได้ทั้งคู่ แต่ทั้งนี้ต้องบอกก่อนว่าการศัลยกรรมปากกระจับจะทำให้เห็นความกระจับที่ชัดมากกว่า
แต่ฟิลเลอร์ปากกระจับเองก็เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับหลายคนที่อาจยังไม่พร้อมผ่าตัด ในอนาคตอยากทำทรงปากอื่นแล้วกลัวว่าจะทำไม่ได้ หรือรูปปากเดิมของเราไม่เหมาะกับการศัลยกรรมปาก

ซึ่งใครที่กำลังกังวลว่ารูปปากของเราเหมาะกับวิธีไหน จะฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับได้หรือไม่ หรือการศัลยกรรมปากกระจับจะเหมาะกับเรามากกว่าไหม แนะนำให้ทักเข้ามาปรึกษาหมอ หรือส่ง reference ทรงปากที่อยากได้เพื่อประเมินรูปหน้าเบื้องต้นก่อนได้ค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ ราคาเท่าไร ?
การฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ จะเริ่มต้นที่ 1 CC และเนื้อฟิลเลอร์ที่ใช้ควรเป็นเนื้อแน่น มีความยืดหยุ่นสูง ปั้นทรงง่าย จะทำให้ได้ทรงปากกระจับที่เป็นธรรมชาติ โดยในแต่ละคลินิกราคาการฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับก็จะต่างกันไป ขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่ใช้ เทคนิคและความชำนาญของแพทย์

ซึ่งฟิลเลอร์ที่พัชชาคลินิกมีและเหมาะสมกับการฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ มีราคาดังนี้
- Filler Restylane classic ราคา 10,900.-/cc (ราคาปกติ 14,900.-/cc)
- Filler Restylane kysse ราคา 12,900.-/cc (ราคาปกติ 18,900.-/cc)
- Filler Juvéderm volift ราคา 12,900.-/cc (ราคาปกติ 18,900.-/cc)
ดูโปรโมชั่นฟิลเลอร์เพิ่มเติม : ราคาฟิลเลอร์
ฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับที่ไหนดี ?
ก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับ การเลือกคลินิกที่จะใช้บริการและความชำนาญของแพทย์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ควรศึกษาให้ดีก่อนทุกครั้งเพื่อความปลอดภัย โดยหมอมีแนวทางคร่าวๆ ในการเลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับตามขั้นตอนต่อไปนี้เลยค่ะ
- คลินิกที่เลือกใช้บริการต้องเป็นคลินิกที่มีใบประกอบการจากสาธารณสุข สามารถให้ตรวจสอบได้ว่าใช้ฟิลเลอร์ที่ได้มาตรฐาน ผ่านอย.ไทย แกะกล่องให้ดูต่อหน้าและสามารถนำกลับบ้านได้
- แพทย์มีประสบการณ์และความชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์ปาก สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างตรงจุด และแนะนำฟิลเลอร์ที่ใช้ได้อย่างเหมาะสมกับปัญหาและความต้องการ
- มีรีวิวฟิลเลอร์ปาก เปรียบเทียบก่อนทำหลังทำที่เห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจน
- อ่านความคิดเห็นจากการเข้าใช้บริการคลินิกทาง social media หรือทางเว็บไซต์ต่างๆ เช่น wongnai, google
สรุป
การฉีดฟิลเลอร์ปากกระจับเป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่สนใจสำหรับผู้ที่อยากทำปากกระจับ โดยจะเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการศัลยกรรมปากกระจับ มีรูปปากเดิมที่ไม่เหมาะกับการศัลยกรรมปาก หรือไม่ต้องการใช้เวลาพักฟื้นนาน ซึ่งการฉีดฟิลเลอร์จะเห็นผลลัพธ์ได้ทันที และไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้นเหมือนกับการทำศัลยกรรม
แต่ทั้งนี้ฟิลเลอร์ปากกระจับเองก็อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกคน ต้องพิจารณาถึงรูปปากเดิมของเราที่มีอยู่ด้วยนะคะ โดยแนะนำให้ปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อวางแนวทางการรักษาที่เหมาะสมกับเราเพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ออกมาสวยตรงใจค่ะ
