ร้อยไหมเหนียงสามารถแก้ไขเหนียงที่หย่อนคล้อยให้ดูกระชับขึ้น เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำเสร็จ นอกจากเหนียงดูกระชับขึ้นแล้ว ยังทำให้กรอบหน้าดูชัดขึ้นด้วย แต่ถ้ามีไขมันช่วงเหนียงเยอะแนะนำการฉีดสลายไขมันร่วมกับการร้อยไหมเหนียง จะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้นค่ะ
เหนียงคืออะไร ?
เหนียง หรือ คางสองชั้น (Double Chin) ที่สร้างความไม่มั่นใจให้ใครหลายคน ยิ่งเวลาก้มหน้าลงยิ่งเห็นชัดมาก ที่สำคัญทำให้ไม่เห็นแนวกรอบหน้าที่ชัดเจนเลย
ซึ่งเป็นผลมาจากไขมันใต้ชั้นผิวหนังที่ไปสะสมอยู่บริเวณใต้คางทำให้เกิดเป็นคางสองชั้นขึ้นมาร่วมกับมีความหย่อนคล้อยและขาดความยืดหยุ่นของผิวบริเวณนั้น โดยเกิดจากการที่มีน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นจนมีปริมาณไขมันสะสมเพิ่มขึ้น

ถึงแม้ว่าหลายๆ คนจะเลือกใช้วิธีลดเหนียงด้วยการออกกำลังกายหรือใช้วิธีควบคุมน้ำหนัก คุมอาหาร ผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้วิธีกำจัดเหนียงแบบธรรมชาตินี้ก็อาจให้ผลไม่เป็นที่น่าพึงพอใจนัก ทำให้หลายๆ คนหมดกำลังใจและขาดความมั่นใจ
ในปัจจุบันนี้มีวิธีการกำจัดเหนียงมากมายหลายวิธี การเลือกร้อยไหมเก็บเหนียงก็เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นและเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่คนไข้พัชชาคลินิกเลือกใช้

ร้อยไหมเหนียง ลดเหนียงได้อย่างไร ?
-
ผู้ที่มีปัญหาเหนียงจากเนื้อคางแน่นหรือหย่อนคล้อย
สำหรับท่านที่มีปัญหาเหนียงใต้คางแน่น หรือมีเนื้อคางที่หย่อนคล้อยอยากจะกำจัดออกด้วยวิธีที่รวดเร็วเจ็บน้อยไม่ต้องพักฟื้นนาน การเลือกวิธีร้อยไหมเหนียงสามารถช่วยยกกระชับผิวบริเวณใต้คางที่หย่อนคล้อยได้

โดยไหมจะเกาะกับชั้นไขมันบริเวณเหนียงและยกกระชับขึ้นเหมือนการถูกขึงให้ตึง เหนียงจึงดูไม่ป่องและกระชับขึ้นหลังร้อยเสร็จทันที กรอบหน้าจะดูเด่นชัดขึ้นด้วย มองมุมไหนก็สวยค่ะ
-
ผู้ที่มีปัญหาเนื้อไขมันบริเวณใต้คาง
สำหรับคนไข้บางท่านที่มีเนื้อไขมันบริเวณใต้คางที่แน่นและหนาจนเกินไป การเลือกใช้วิธีร้อยไหมเหนียงอย่างเดียวจะไม่ค่อยตอบโจทย์ค่ะ เพราะการร้อยไหมจะเป็นการย้ายตำแหน่งผิวจากเหนียงช่วงตรงกลางไปบริเวณด้านข้างแต่ไม่ลดปริมาณลง

ดังนั้นถ้าไขมันแน่นจะไปกองอยู่ด้านข้างแทน เพื่อผลลัพธ์ที่ดีของคนไข้เราจะแนะนำให้ทำการสลายไขมันส่วนเกินออกไปให้ได้มากที่สุดก่อน แล้วค่อยมาทำการร้อยไหมเพื่อยกกระชับภายหลัง
-
ผู้ที่มีผิวหลวมเหลวขาดคอลลาเจน
สำหรับคนไข้ที่มีปัญหาผิวหลวมเหลวจากการขาดคอลลาเจนเมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น ไม่ค่อยแนะนำให้เลือกวิธีการร้อยไหมเป็นอันดับแรกเนื่องจากเมื่อคอลลาเจนใต้ผิวน้อย ผิวจะไม่แน่นมีช่องว่างเยอะไหมจะเกาะได้ไม่ดี

ขอแนะนำให้ใช้วิธีลดเหนียงด้วยการทำเลเซอร์ในการยกกระชับและกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวก่อนจำพวก HIFU, ULTHERA และ THERMAGE แล้วค่อยมาพิจารณาร้อยไหมเพื่อยกกระชับภายหลังค่ะ
“หากท่านใดที่มีปัญหาไขมันส่วนเกิน อยากลดเหนียง ปรับโครงหน้าและกรอบหน้าให้เด่นชัดขึ้น เรียกความมั่นใจกลับคืนมา แนะนำให้เข้ามาปรึกษาหรือส่งรูปเพื่อให้คุณหมอประเมินแผนการรักษาที่เหมาะสม ตรงจุดและตอบโจทย์กับคนไข้ก่อนได้ค่ะ”
ลักษณะของไหมที่เหมาะกับการร้อยเหนียง
การร้อยไหมเก็บเหนียงแนะนำให้เลือกใช้ไหมด้วยเทคนิคผสมกันระหว่าง “ไหมเงี่ยง” และ “ไหมเรียบ”
โดยไหมเงี่ยงจะทำหน้าที่ยึดเกาะกับชั้นไขมันและกล้ามเนื้อให้ยกกระชับขึ้น คล้ายกับการเกี่ยวเอ็นตกปลา แนวการดึงไหมจะดีไซน์โดยแพทย์ เป็นไปในทิศทางแนวกลางออกไปแนวด้านข้าง และจะต้องมีจุดเกาะ (จุดfix) ที่แข็งแรงคือบริเวณแนวหลังใบหู
ไหมเงี่ยงของทางพัชชาคลินิก

ไหมก้างปลา ตัวไหมมีลักษณะเงี่ยงที่เหมือนก้างปลาเป็นเงี่ยงสองแนว เส้นใหญ่ สามารถยกกระชับและช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและเส้นใยอีลาสตินได้ดี
แต่มีลักษณะเป็นปลายเข็มแหลมอาจเกิดอาการบวม เขียวช้ำ ได้มากกว่าไหมชนิดที่เป็นเข็มปลายทู่

ไหมทอร์นาโด ไหมเส้นใหญ่ มีเงี่ยงรอบทิศทาง 360 องศา ช่วยยึดเกาะกับผิวดี มีประสิทธิภาพการยกกระชับเห็นผลชัดเจน โดยวัสดุมีความยืดหยุ่นสูง ไม่หักหรือเปราะง่าย
เข็มที่ใช้เป็นเข็มปลายทู่แบบตัด ลดโอกาสในการตัดเส้นเลือดใต้ชั้นผิวได้ ช่วยลดการบวม เขียวช้ำ ได้ดีกว่าไหมที่เป็นเข็มปลายแหลม ทำให้แผลหายได้เร็วโดยไม่ต้องพักฟื้นนาน

ไหม Mint เป็นไหมเส้นใหญ่พิเศษใช้สำหรับยกกระชับผิวโดยตรง เงี่ยงไหมหล่อขึ้นมาแบบเฉพาะ (Molding cog) รอบทิศทาง 360 องศา มีลักษณะเป็นแบบ 3 มิติ มีความแข็งแรงกว่าเงี่ยงแบบบาก
ลักษณะของปลายเข็มจะเป็นเข็มปลายทู่มน ช่วยทำให้ลดอาการบวม เขียว ช้ำ ได้ดีมากที่สุด

ไหมโครงตาข่าย (Tesslift soft) เป็นไหมเส้นใหญ่ เงี่ยงไหมคุณสมบัติพิเศษมีสองชั้นด้านในเป็นเงี่ยงแบบหล่อรอบทิศทางแบบสามมิติ ด้านนอกเป็นลักษณะโครงตาข่ายคลุมรอบตัวไหมเพื่อเพิ่มพื้นที่ในการยึดเกาะกับผิวให้แน่นขึ้น
มีความเด่นมากในเรื่องของการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวทำให้ผิวดูกระชับ ลักษณะของปลายเข็มจะเป็นเข็มปลายทู่มน ช่วยทำให้ลดอาการบวม เขียวช้ำได้มาก

ไหมเรียบ หรือไหมคอลลาเจน ทำหน้าที่ในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบริเวณชั้นผิว จะทำให้ผิวที่หย่อนดูกระชับขึ้น โดยลักษณะการร้อยจะร้อยสานกันเป็นร่างแหคล้ายตาข่ายเพื่อให้เกิดการสร้างคอลลาเจนตามแนวไหมทำให้ผิวกระชับเป็นบริเวณกว้าง

ร้อยไหมเหนียงใช้กี่เส้น ?

จำนวนไหมที่ใช้ในการร้อยไหมเหนียงจะมีความแตกต่างกันไปตามชนิดของไหมที่ใช้ ดังนี้
- ไหมก้างปลา ไหมทอร์นาโด ใช้ประมาณ 4-6 เส้น
- ไหมโครงตาข่าย (Tesslift) ใช้ประมาณ 2-4 เส้น
- ไหม Mint fine ใช้ประมาณ 1-2 เส้น
- ไหม Mint easy ใช้ประมาณ 2-3 เส้น
สรุป
การร้อยไหมเหนียง สามารถช่วยยกกระชับเก็บเหนียงที่หย่อนคล้อยขึ้นมาได้ ยิ่งทำร่วมกับการฉีดสลายไขมันหรือเลเซอร์ยกกระชับจะยิ่งได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากขึ้น เทคนิคการร้อยไหมบริเวณเหนียงแนะนำให้เลือกใช้ไหมผสมกันระหว่าง “ไหมเงี่ยง” และ “ไหมเรียบ”
เนื่องจากจะสามารถช่วยดึงยกกระชับไขมันที่หย่อนและกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวทำให้ผิวกระชับมากยิ่งขึ้น ซึ่งไหมที่ใช้เป็นไหมละลายสลายได้เอง มีความปลอดภัย หลังจากร้อยไหมคนไข้จะรู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงทันที และจะเริ่มเห็นผลชัดเจนมากขึ้นภายใน 1 เดือน
