สิวที่แก้มขึ้นเยอะเกิดจากอะไร สิวขึ้นที่แก้มบ่อยไม่ยอมหายสักที ใครที่มีปัญหานี้รู้สึกกังวลใจอยู่ ไม่รู้จะรักษาสิวที่แก้มอย่างไร หมอจะคลายความกังวลใจด้วยการเจาะลึกเกี่ยวกับสิวที่แก้มให้ทุกๆ คนได้รู้จักกันในบทความนี้ค่ะ
สิวที่แก้มเกิดจากอะไร
ถึงแม้ว่าแก้มจะไม่ได้อยู่ในบริเวณ T-Zone แต่ก็สามารถพบสิวขึ้นได้เยอะเหมือนกัน โดยสาเหตุของสิวที่แก้มนั้นเกิดจากดังนี้
-
รูขุมขนอุดตัน
เซลล์ผิวที่ตายแล้ว สิ่งสกปรกต่างๆ รวมตัวกับความมัน ไขมันบนผิวเข้าไปอุดตันอยู่ในรูขุมขนทำให้เกิดสิวหลายๆ ชนิดตามมาได้ง่าย
-
แบคทีเรีย
C.acnes คือแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวเจริญเติบโตได้ดีเมื่อเจอกับความมันบนใบหน้า และเมื่อมีจำนวนเยอะขึ้นจะกระตุ้นให้เกิดเป็นสิวอักเสบได้
-
ฮอร์โมน
ถ้าฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวนจากการมีประจำเดือน ความเครียดสูงจะทำให้ฮอร์โมนแอนโดรเจนในร่างกายมากเกินไปจะกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้นผลิตน้ำมันออกมาเยอะ และกระตุ้นให้เกิดสิว
-
ของที่ใช้ไม่สะอาด
ไม่ว่าจะเป็นมือ โทรศัพท์มือถือ ผ้าต่างๆ อาจมีสิ่งสกปรก แบคทีเรียติดอยู่และเมื่อเอาไปโดนบริเวณแก้มสิ่งสกปรกเหล่านั้นจะไปติดอยู่บนแก้มแทน สามารถทำให้แก้มระคายเคืองและเกิดเป็นสิวได้
สิวที่แก้มมีแบบไหนบ้าง
สิวที่แก้มสามารถพบประเภทสิวได้หลายชนิดโดยมีดังนี้
-
สิวที่แก้มแบบไม่อักเสบ
เป็นสิวที่ไม่มีอาการบวมแดงรอบสิว หรือรู้สึกเจ็บเมื่อสัมผัสแต่จะเป็นตุ่มเล็กๆ นูนขึ้นมาทำให้ผิวหน้าไม่เรียบเนียนซึ่งเรียกกันว่าสิวอุดตัน แบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด
-
- สิวหัวขาว เป็นสิวอุดตันหัวปิดไม่มีหัวสิวขึ้นมาจึงสังเกตเห็นได้ยาก ต้องสัมผัสถึงจะรู้สึกว่าผิวไม่เรียบเนียนเป็นตุ่มนูนเล็กๆ หายปล่อยทิ้งไว้ไม่รักษาสามารถกลายเป็นสิวอักเสบได้
- สิวหัวดำ เป็นสิวอุดตันแบบหัวเปิดสามารถเห็นหัวสิวจึงสังเกตได้ง่าย โดยมีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็กๆ มีหัวสิวเป็นจุดดำๆ อยู่ตรงกลาง
-
สิวที่แก้มแบบอักเสบ
เป็นสิวที่มีอาการบวมแดงรอบๆ สิว รู้สึกเจ็บเมื่อสัมผัส แต่จะมากน้อยขึ้นอยู่กับชนิดของสิว โดยสิวอักเสบมีได้ดังนี้
- แบบไม่มีหัว
เป็นสิวอักเสบแบบไม่มีหัวสิวขึ้นมาให้เห็น หัวสิวอยู่ใต้ชั้นผิวแต่สามารถสังเกตได้ง่ายเพราะมีอาการแดงรอบๆ สิว ซึ่งสิวไม่มีหัวแบ่งได้เป็น 2 ชนิดคือ
-
- สิวไต เป็นสิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนขนาดปานกลาง อาจมีอาการบวมแดงรอบๆ สิว และรู้สึกเจ็บในช่วงแรกและจะหายไป เมื่อสัมผัสจะรู้สึกว่าเป็นก้อนแข็งอยู่ใต้ผิวหนัง
- สิวหัวช้าง เป็นสิวที่มีลักษณะตุ่มนูนขนาดใหญ่ มีอาการบวมแดงรอบๆ สิวอย่างชัดเจน เมื่อสัมผัสที่สิวจะรู้สึกเจ็บมาก และมีก้อนแข็งๆ อยู่ใต้ผิวหนัง
-
แบบมีหัวสิว
เป็นสิวอักเสบแบบมีหัวสิวขึ้นมาบนผิวหนังไม่ได้อยู่ใต้ชั้นผิว จึงสังเกตและมองเห็นได้ง่าย โดยมีดังนี้
- สิวหนอง เป็นสิวที่มีลักษณะเป็นตุ่มนูนขนาดเล็กไม่ใหญ่มาก ภายในหัวสิวมีหนองอยู่จึงสามารถเห็นหัวสิวเป็นสีเหลือง หรือสีเขียวได้ เมื่อสัมผัสจะรู้สึกเจ็บเล็กน้อย
-
สิวที่แก้มแบบสิวเทียม
เป็นโรคผิวหนังต่างๆ ที่มีลักษณะคล้ายกับสิวจึงทำให้หลายๆ คนสับสน และมักเรียกว่าสิว แต่จริงๆแล้วไม่ใช่สิวซึ่งมีดังนี้
-
- สิวข้าวสาร เป็นซีสต์ไขมันใต้ผิวหนังที่ไม่อันตรายสามารถพบได้ในช่วงบริเวณโหนกแก้ม มีลักษณะเป็นสีข้าว หรือสีเดียวกับผิวหนัง ขนาดค่อนข้างเล็กบางทีอาจรู้สึกคัน
- สิวหิน เป็นเนื้องอกในต่อมท่อเหงื่อแต่ไม่อันตราย พบได้ในช่วงบริเวณแก้มช่วงบนอย่างโหนกแก้ม ลักษณะคล้ายกับสิวข้าวสารแต่มีสีขุ่นออกเหลืองกว่า และไม่รู้สึกคัน
- สิวผด เป็นอาการแพ้ทางผิวหนังมักขึ้นเป็นตุ่มเล็กๆ กระจายตัวในบริเวณใกล้ๆ กัน มีลักษณะคล้ายกับสิวหัวขาวทำให้เกิดความเข้าใจผิดได้
สิวที่แก้มบอกโรคอะไร
หากเป็นสิวที่แก้มสามารถบอกได้ว่าอาจจะกำลังเป็นโรค หรือมีปัญหาเกี่ยวกับบระบบภายในร่างกายบางอย่างได้ ซึ่งถ้าเป็นสิวที่แก้มส่วนบนอาจมีปัญหาเกี่ยวกับระบบหายใจอย่างปอด เป็นไซนัส แพ้ควันบุหรี่ หรือเป็นหวัดเรื้อรัง ส่วนสิวที่แก้มส่วนล่างสามารถบอกได้ว่าอาจมีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพในช่องปากอย่างมีอาการปวดฟัน ฟันผุ เหงือกอักเสบได้ค่ะ
วิธีรักษาสิวที่แก้ม
ปัญหาสิวที่แก้มจะหมดหากรู้วิธีรักษาสิวที่แก้มอย่างถูกวิธี ซึ่งควรเลือกใช้วิธีที่เหมาะสมกับแต่ละชนิดสิวเพื่อให้สิวที่แก้มหายไป ซึ่งมีวิธีรักษาสิวที่แก้มดังนี้
-
กดสิวที่แก้ม
เหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาสิวอุดตันอย่างสิวหัวขาว สิวหัวดำที่แก้ม โดยจะใช้เครื่องมือกดสิวเปิดรูขุมขนออกเพื่อให้หัวสิวออกมา ถึงแม้จะเป็นวิธีที่ดูง่ายแต่ถ้าเชี่ยวชาญไม่เพียงพออาจทำให้เกิดรอยสิวตามมาได้
-
เลเซอร์สิวที่แก้ม
คล้ายกับวิธีกดสิวเหมาะสำหรับคนที่มีสิวหัวขาว สิวข้าวสาร สิวหิน หรือสิวอักเสบแบบไม่มีหัว เพราะเครื่องเลเซอร์สามารถยิงเพื่อเปิดหัวสิวได้ดีกว่าการกดสิว สามารถนำสิวที่กดออกยากออกมาได้ง่ายกว่า และไม่มีปัญหาเรื่องรอยสิวตามมา
-
ฉีดสิวที่แก้ม
วิธีนี้จะใช้สารสเตียรอยด์ฉีดเข้าไปที่สิวเพื่อให้สิวยุบตัวลง โดยจะใช้เวลาประมาณ 2 – 3 วันจากนั้นสิวจะค่อยๆ หายไปเอง เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวที่แก้มอย่างสิวไต สิวหัวช้างที่เป็นก้อนแข็งใต้ชั้นผิว
-
ฉายแสงลดสิวที่แก้ม
การฉายแสงลดสิวสามารถช่วยลดการอักเสบของผิวได้ดี จึงเหมาะกับผู้ที่มีสิวอักเสบทุกชนิด นอกจากจะลดการอักเสบได้แล้วยังช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว ลดความมันบนใบหน้า และลดการทำงานของต่อมไขมันได้
-
ไฟฟ้าจี้สิวที่แก้ม
เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิวข้าวสาร สิวหินที่แก้ม โดยจะใช้คลื่นพลังงานไฟฟ้าจี้เข้าไปที่สิวให้หัวสิวเปิด จากนั้นทำการกดสิวข้าวสาร สิวหินออกมาให้หมด วิธีนี้ควรทำกับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้นเพราะอาจผิวไหม้ได้
-
แผ่นแปะสิวที่แก้ม
แผ่นแปะสิวเหมาะสำหรับรักษาสิวหนองเพราะมีส่วนผสมของไฮโดรคอลลอยด์ (Hydrocolloid) ที่ช่วยดูดหนองออกมาทำให้สิวแห้งไว้ขึ้น และยังป้องกันไม่ให้สิวหนองอักเสบมากขึ้นด้วยค่ะ
-
ยารักษาสิวที่แก้ม
มีอยู่ 2 รูปแบบคือ แบบรับประทาน และแบบทาสามารถเลือกใช้ตามความต้องการ หรือจะใช้ควบคู่กันก็ได้ โดยยารักษาสิวที่แก้มแบบทานั้นควรที่จะมีส่วนผสมของ Retinol, Glycolic acid, Salicylic acid, Benzoyl peroxide, Clindamycin ที่ช่วยฆ่าเชื้อสิว ละลายหัวสิว ลดการเกิดสิวได้ดี ส่วนยาแบบรับประทานมีทั้งยาฆ่าเชื้อ วิตามินลดสิวอย่างวิตามินอี วิตามินเอ หรือ Zinc และยาคุมที่ช่วยทั้งปรับฮอร์โมนให้คงที่ ลดสิวฮอร์โมนดี
ทำไมเป็นสิวที่แก้มไม่หาย
การที่เป็นสิวที่แก้มอยู่บ่อยๆ แม้จะรักษาไปแล้วแต่สิวที่แก้มก็กลับมาขึ้นอีก อาจจะเกิดจากฮอร์โมนในร่างกายไม่คงที่ทำให้เกิดเป็นสิวฮอร์โมนขึ้นได้บริเวณแก้ม หรือของที่ใช้ไม่สะอาดจึงทำให้สิ่งสกปรกติดอยู่ที่แก้มบ่อยๆ ถึงแม้จะรักษาสิวไปแล้วก็กลับมาขึ้นมาใหม่ได้จึงควรดูแลของใช้ให้สะอาดค่ะ แต่ถ้ามีความกังวลใจมากแนะนำให้เข้ามาปรึกษาหมอเพื่อหาสาเหตุของสิวที่แก้ม และทำการรักษาอย่างตรงจุดค่ะ
วิธีป้องกันสิวที่แก้ม
วิธีป้องกันสิวที่แก้มดูแลไม่ให้สิวเกิดขึ้นมีด้วยกันอยู่หลายวิธี โดยมีด้วยกันทั้งหมดดังนี้
-
ล้างหน้าให้สะอาด
การดูแลผิวหน้าล้างหน้าให้สะอาดเป็นขั้นตอนแรกๆ ที่สามารถป้องกันสิวได้เพียงล้างหน้าอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง หากล้างหน้าไม่สะอาดจะเกิดการสะสมของสิ่งสกปรก ความมันต่างๆ บนใบหน้า ทำให้รูขุมขนอุดตันและเกิดสิวได้ง่าย
-
เมโสหน้าใส
เป็นวิธีป้องกันสิวโดยตรงเพราะจะฉีดเมโสหน้าใสเข้าไปที่ผิว ซึ่งในเมโสหน้าใสประกอบไปด้วยวิตามินต่าง สารสกัดต่างๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายทำให้ผิวแข็งแรงมากขึ้น ป้องกันการเกิดสิวได้ดี
-
ยาคุม
นอกจากยาคุมลดสิวได้แล้วยังสามารถป้องกันสิวที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ด้วย หากมีปัญหาฮอร์โมนไม่คงที่จนทำให้เกิดสิวอยู่บ่อยๆ ยาคุมจะช่วยปรับให้ฮอร์โมนกลับมาปกติและลดการเกิดสิวได้ดี แต่ควรปรึกษาหมอก่อนรับประทานนะคะ
-
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์บางชนิดมีส่วนผสมที่ทำให้เกิดสิว รูขุมขนอุดตันได้ง่ายเช่น พาราเบน สารกันเสีย ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสารพวกนี้เพื่อป้องกันการเกิดสิวค่ะ
-
ทำความสะอาดของใช้
หากของที่ใช้ในชีวิตประจำวันไม่สะอาด สกปรกก็จะก่อให้เกิดสิวได้ง่ายขึ้น จึงควรดูแลของใช้ให้สะอาดอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์ ผ้าเช็ดหน้า หรือปลอกหมอน
สรุป
สิวที่แก้มสามารถรักษาให้หายได้หากรู้ว่าเป็นสิวประเภทไหนอยู่เพื่อที่จะได้เลือกใช้วิธีการรักษาสิวได้อย่างเหมาะสม และควรดูแลผิวหน้าอย่างถูกต้องเพื่อป้องกันการเกิดสิวที่แก้มในอนาคต ไม่ให้สิวที่แก้มกลับมาอีกค่ะ