เมโสหน้าใส คืออะไร? ฉีดไปแล้วจะมีอันตรายและผลข้างเคียงไหม
เมโสหน้าใส (Mesotherapy) คือ การทำทรีทเม้นท์บำรุงผิวหน้า เพื่อฟื้นฟูสภาพผิวด้วยการฉีดเอนไซม์ ฮอร์โมน วิตามินและตัวยาที่มีสารสกัดจากธรรมชาติเข้าไปใต้ชั้นผิว ทำให้มีประสิทธิภาพในการบำรุงผิวหน้าสูง ตัวยาซึมซับเข้าสู้ผิวได้ดี ถือเป็นวิธีลัดในการบำรุงผิวอย่างล้ำลึกแทนการทาครีมบำรุงทั่วไปที่ได้รับความนิยมอย่างมาก
เมโสหน้าใสช่วยอะไรบ้าง เหมาะกับใคร ?
การฉีดเมโสหน้าใสจะช่วยซ่อมแซมเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพ กระตุ้นการทำงานของเซลล์ใหม่และการสังเคราะห์อิลาสตินใต้ชั้นผิว เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว ฟื้นบำรุงผิวให้กระจ่างใสให้ผิวหน้าแลดูฉ่ำวาว แต่งหน้าติดทนนาน และช่วยลดรอยดำจากสิว จุดด่างดำ ฝ้ากระให้จางลงได้ เรียกได้ว่าการฉีดเมโสสามารถช่วยแก้ไขปัญหาผิวหน้าได้อย่างครอบคลุมเลยค่ะ
โดยการฉีด meso หน้าใสจะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาผิวและความต้องการดังนี้

- เหมาะสำหรับผู้ที่ทาครีมบำรุงหลายตัวแล้วแต่ยังไม่เห็นผลลัพธ์ดีเท่าที่ควร
- ผู้ที่ต้องการบำรุงฟื้นฟูผิว ให้ผิวกระจ่างใส ชุ่มชื้น ลดริ้วรอย รอยดำ รอยแดง
- ผู้ที่ไม่มีเวลาในการดูแลผิวมากนัก ทำงานหนัก มีเวลาพักผ่อนน้อย
- ผู้ที่ต้องใช้ผิวหน้าอย่างเร่งด่วน ต้องเร่งบำรุงผิวหน้า

การทำเมโสหน้าใสมีข้อดี ดังนี้
- ตัวยาสามารถซึมซับได้รวดเร็วกว่าการทาครีมบำรุงทั่วไป
- เห็นผลไวกว่าการทาครีมบำรุงผิวหลายเท่า
- ให้ผลลัพธ์ที่ดี สามารถแก้ปัญหาผิวได้หลากหลาย
- ใช้เวลาในการทำไม่นาน ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำเสร็จ
ข้อดีของการทำเมโสหน้าใส
ฉีดเมโสหน้าใสแบบไหนดี ?
ตัวยา meso หน้าใสมีอยู่หลายชนิด หลายยี่ห้อด้วยกัน ที่พัชชาคลินิกมีตัวยาเมโสหน้าใส 3 ตัว คนไข้สามารถเลือกตัวยาที่เหมาะสมกับปัญหาผิวที่มีได้ ดังนี้
- Skin booster ช่วยฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื้น ผิวเงาฉ่ำวาว แก้ปัญหาผิวแห้ง แต่งหน้าไม่ติด มีผดผื่น เมื่อฉีดอย่างต่อเนื่องจะทำให้ผิวแข็งแรง กระจ่างใสขึ้น ลดรอยด่างดำปรับสีผิวให้สม่ำเสมอได้
- Meso ฝ้ากระ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฝ้า กระ จุดด่างดำ จะช่วยทำให้รอยดำจางลงอย่างต่อเนื่อง เมื่อรักษาอย่างสม่ำเสมอ
- Meso glow ช่วยบำรุงผิวให้ขาวกระจ่างใส ชุ่มชื้น ฉ่ำเงา แบบเร่งด่วน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวเยอะ หรือต้องการใช้ผิวหน้าแบบเร่งด่วน
- มาเด้คอลลาเจน เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสิว ผดผื่น รอยดำ รอยแดง ผิวแพ้ง่าย ตัวนี้จะช่วยขับสารพิษ กระตุ้นสร้างคอลลาเจนให้ผิวกลับมาเรียบเนียนกระจ่างใส ผิวแข็งแรงขึ้น
นอกจากเมโสหน้าใสจะมีหลากหลายแบบแล้วยังมีวิธีการฉีดเมโสหน้าใสอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ
-
ฉีดเมโสหน้าใสแบบสะกิด
วิธีการฉีดเมโสหน้าใสเป็นวิธีการฉีดเมโสแบบเก่าที่จะใช้เข็มฉีดยาสะกิดไปทั่วใบหน้าเป็นจุดเล็กๆ บริเวณผิวชั้นตื้น เพื่อให้เมโสซึมเข้าสู่ผิว และกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เจ็บค่อนข้างน้อยกว่าวิธีฉีดเมโสหน้าใสแบบ 16 จุด แต่มีผลข้างเคียงหลังจากฉีดด้วยวิธีนี้เล็กน้อย อาจเกิดรอยช้ำจากเข็ม รอยแดงหลังฉีด หรืออาจติดเชื้อผิวอักเสบหากเครื่องมือไม่สะอาด ดังนั้นควรเลือกคลินิกที่แพทย์มีความเชี่ยวชาญและสะอาดถูกหลักอนามัยค่ะ
-
ฉีดเมโสหน้าใสแบบ 16 จุด
วิธีการฉีดเมโสหน้าใส 16 จุดเป็นวิธีการฉีดเมโสแบบใหม่ โดยจะฉีดตามการไหลเวียนของต่อมน้ำเหลืองลงลึกเข้าไปในชั้นผิวประมาณ 5 มิลลิเมตร ตัวยาเมโสลงเข้าสู่ผิวได้ดี ไม่เกิดรอยเข็ม ไม่ช้ำ ผลลัพธ์เห็นได้ไว และอยู่ได้ยาวนานกว่าการฉีดเมโสหน้าใสแบบสะกิด แต่จะเจ็บกว่าเมโสแบบสะกิด มีอาการบวมในจุดที่ฉีดเล็กน้อย 3 – 4 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ
เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังทำเลยไหม ?
การทำเมโสหน้าใสจะไม่ได้ให้ผลลัพธ์เลยทันทีหลังทำ โดยจะค่อยๆ เริ่มเห็นผลในระยะเวลาประมาณ 7-14 วัน และหากทำการรักษาอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้เห็นผลลัพธ์ที่ดีกว่าและอยู่ได้ยาวนานยิ่งขึ้น
เมโสหน้าใสต้องทำกี่ครั้งถึงเห็นผล ?

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดนั้นควรมาฉีดเมโสหน้าใสต่อเนื่องกันอย่างน้อย 4 – 6 ครั้ง โดยในช่วงเดือนแรกควรฉีดติดต่อกันสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และหลังจากนั้นค่อยๆ เว้นระยะเป็น 2 – 3 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้ง เพื่อให้สภาพผิวยังดีอยู่ค่ะ แต่ผลลัพธ์ก็ขึ้นอยู่กับปัญหาผิวที่มีและสภาพผิวของแต่ละบุคคล นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับการใช้ชีวิตประจำวัน และการดูแลผิวตามปกติของคนไข้ด้วยค่ะ
ยกตัวอย่างเช่น คนไข้ที่มีปัญหาฝ้า กระ ถ้ามีการทาครีมกันแดดอย่างสม่ำเสมอ ไม่โดนแสงแดดเยอะ เมื่อมีการใช้เมโสฝ้ากระรักษาควบคู่กันไป จะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและเห็นผลได้ไวยิ่งขึ้นค่ะ
แล้วทำไมบางคนฉีดเมโสแล้วไม่เห็นผล

- เลือกตัวยาที่ไม่เหมาะกับปัญหาผิวหน้า ทำให้ตัวยาไม่ได้ออกฤทธิ์แก้ไขปัญหาได้ไม่ตรงจุด
- การฉีดเมโสเข้าไปตื้นเกินไปหรือลึกเกินไปจนถึงบริเวณชั้นไขมัน จะทำให้ตัวยาไม่ได้ออกฤทธิ์อย่างเต็มที่
- การใช้ชีวิตประจำวันที่ต้องเจอมลภาวะ หรือทำให้ผิวมีภาวะเครียดอยู่ตลอดเวลา การฉีดเมโสไปจะทำให้เห็นผลได้ไม่เต็มที่
ฉีดเมโสหน้าใสอันตรายไหม ?
การฉีดเมโสหน้าใสคือการฉีดด้วยสารจากธรรมชาติ ไม่ก่อให้เกิดอันตรายใดๆ แต่หากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ผ่าน อย. ซื้อตัวยามาฉีดเอง ฉีดกับหมอกระเป๋า หรือฉีดกับคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน ไม่มีความสะอาด อาจทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ หรือผลข้างเคียงที่รุนแรงตามมาได้ค่ะ
หลังฉีดเมโสหน้าใส มีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?
การฉีดเมโสหน้าใสนั้นเป็นหัตถการที่มีความปลอดภัย แต่ในบางท่านอาจพบผลข้างเคียงจากการทำได้บ้าง แต่ไม่มีความรุนแรงใดๆ ได้แก่
- อาจเกิดรอยเขียวช้ำตรงบริเวณที่ฉีด แต่รอยนี้จะค่อยๆจางลงภายใน 1 สัปดาห์
- มีรอยแดงและบวมจากเข็มเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด จะหายได้เองประมาณ 1-3 วัน
- อาจเกิดการอักเสบ ซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้หากใช้ผลิตภัณฑ์เมโสที่ไม่มีคุณภาพ เป็นของปลอม ไม่ผ่านอย. และแพทย์ไม่มีประสบการณ์
- หลังทำเสร็จจะมีตุ่มบวมยา แต่จะค่อยๆยุบลงและกลืมเข้าไปกับผิว

ภาพจาก : dress-en.techinfus.com
การดูแลหลังทำ
หลังฉีดเมโสหน้าใสควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ดังนี้
- หลีกเลี่ยงแสงแดดแรงๆหลังทำประมาณ 48 ชั่วโมง
- ทาครีมกันแดดเพื่อช่วยป้องกันผิวจากแสงแดดได้
- งดล้างหน้าประมาณ 4-6 ชั่วโมงหลังทำ จากนั้นสามารถล้างหน้าได้ตามปกติ
- งดการแต่งหน้า ทาครีมบำรุงหลังทำเสร็จ 1 คืน
- งดการสัมผัสหรือนวดผิวบริเวณที่ทำ 1 คืน
ฉีดเมโสหน้าใสที่ไหนดี ?
การเลือกคลินิกฉีด meso หน้าใส ควรเลือกคลินิกที่สะอาดได้มาตรฐาน ที่สำคัญควรมีแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญคอยให้คำแนะนำและดูแลรักษา เนื่องจากแพทย์ที่จะได้แนะนำตัวยาที่เหมาะสมกับเรา คำนวณปริมาณยาที่ต้องใช้อย่างถูกต้องและมีเทคนิคการฉีดที่ดี ทำให้ผลลัพธ์ออกมาดีและมีความปลอดภัยค่ะ

สรุป
การทำเมโสหน้าใสเป็นวิธีลัดในการบำรุงผิวหน้าอย่างล้ำลึก ซึ่งช่วยตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาผิวหน้าที่หลากหลาย ทั้งช่วยในการผลัดเซลล์ผิว กระตุ้นสร้างคอลลาเจน ช่วยแก้ปัญหารอยดำรอยแดงต่างๆ อย่างครอบคลุมทุกปัญหาผิว โดยจะเห็นผลประมาณ 7-14 วันหลังทำ ซึ่งควรทำอย่างต่อเนื่องทุก 1-2 สัปดาห์ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและยาวนานมากยิ่งขึ้น
