มีปัญหาสิวที่หน้าผาก สิวขึ้นเยอะในบริเวณหน้าผากสงสัยว่าเกิดจากอะไร มีวิธีรักษาให้สิวที่หน้าผากหายอย่างไร หมอจะมาแนะนำวิธีการดูแลรักษาสิวที่หน้าผาก พร้อมกับบอกสาเหตุของสิวที่หน้าผากในบทความนี้ค่ะ
สิวที่หน้าผากเกิดจากอะไร
สาเหตุที่มีสิวขึ้นที่หน้าผากเกิดจากหลายๆ สาเหตุ หลายปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดสิว ซึ่งสาเหตุที่พบได้บ่อยว่าทำให้เกิดสิวที่หน้าผากมีดังนี้
-
รูขุมขนอุดตัน
เนื่องจากหน้าผากอยู่ในบริเวณ T-zone ซึ่งมีต่อมไขมันมากกว่าจุดอื่นจึงทำให้บริเวณหน้าผากมีความมันกว่าจุดอื่นๆ น้ำมันจึงเข้าไปอยู่ในรูขุมขนผสมกับเซลล์ผิวที่ตายแล้ว หรือสิ่งสกปรก ทำให้รูขุมขนอุดตันได้ง่ายกว่าปกติง่ายเพราะน้ำมัน
-
ต่อมไขมันผิดปกติ
มีน้ำมันผลิตออกมาจากต่อมไขมันเป็นจำนวนมากเกินทำให้บริเวณหน้าผากที่มีความมันอยู่แล้วมันยิ่งขึ้นไปอีก สิ่งสกปรกต่างๆ จึงติดอยู่บนใบหน้าทำให้รูขุมขนอุดตัน
-
เชื้อแบคทีเรีย
C.acnes (Cutibacterium Acnes) คือเชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหน้าและกินความมัน น้ำมันบนผิวเป็นอาหารเพื่อเจริญเติบโต ถ้ามีจำนวนแบคทีเรียมากเกินไปสามารถเกิดเป็นสิวอักเสบได้
-
ความเครียด
หากเครียดบ่อยๆ หรือเกิดความเครียดอยู่เป็นประจำสามารถทำให้ฮอร์โมนในร่างกายแปรปรวนได้ เพราะเมื่อเครียดร่างกายจะปล่อยฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ออกมามากจนไปกระตุ้นให้ต่อมไขมันทำงานมากขึ้น
-
ฮอร์โมน
เมื่อใกล้เข้าสู่ช่วงที่จะเป็นประจำเดือน หรือมีความเครียดสูงฮอร์โมนในร่างกายจะไม่คงที่มีฮอร์โมนเพศชาย หรือฮอร์โมนคอร์ติซอลสูงกระตุ้นการทำงานของต่อมไขมัน กระตุ้นให้เกิดสิวหลายๆ ชนิดมักเรียกกันว่าสิวฮอร์โมน
-
ล้างหน้าไม่สะอาด
เราไม่สามารถหลีกเลี่ยงสิ่งสกปรกให้มาอยู่บนใบหน้าได้ จึงต้องล้างหน้าให้สะอาดเพื่อกำจัดสิ่งสกปรกออกไป แต่ถ้าล้างหน้าไม่สะอาดสิ่งสกปรกก็จะสะสมกันเรื่อยๆ จนเกิดเป็นสิวได้
-
สภาพอากาศ
ต้องเจอกับความร้อนบ่อยๆ ทำให้เหงื่อออกเยอะสามารถทำให้เกิดเป็นสิวผดได้ หรือเจอกับอากาศหนาว อากาศแห้งที่ทำให้หน้าแห้งขาดความชุ่มชื้นต่อมไขมันก็จะผลิตน้ำมันออกมาเป็นจำนวนมากเพื่อทำให้หน้าไม่แห้งซึ่งทำให้รูขุมขนอุดตันเกิดเป็นสิวได้
-
ผลิตภัณฑ์ที่ใช้
สกินแคร์ ยาสระผม หรือเครื่องสำอางที่ใช้ไม่เหมาะสมกับผิวหน้ามีส่วนผสมของพาราเบน ซิลิโคน ทำให้ผิวเกิดการอุดตันได้จากผลิตภัณฑ์ที่ใช้
สิวที่หน้าผากมีแบบไหนบ้าง
บริเวณหน้าผากสามารถพบประเภทสิวได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับสาเหตุ และการดูแลใบหน้าโดยประเภทสิวที่หน้าผากพบเจอได้บ่อยมีดังนี้
-
ประเภทสิวไม่อักเสบ
คือสิวที่เกิดจากการอุดตันของรูขุมขนไม่มีอาการเจ็บ บวมแดงรอบๆ สิว มักเรียกกันว่าสิวอุดตัน โดยแบ่งได้เป็น 2 ชนิดคือ
-
ประเภทสิวอักเสบ
คือสิวที่เกิดจากแบคทีเรียรวมตัวกับสิ่งสกปรก ไขมันต่างๆ ที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนจนเกิดเป็นสิวอักเสบขึ้นมามีด้วยกันดังนี้
-
- สิวไต ลักษณะสิวเป็นตุ่มนูนขนาดปานกลางไม่เล็กไม่ใหญ่ อาจมีอาการแดงรอบๆ สิว และรู้สึกเจ็บเล็กน้อย เป็นสิวไม่มีหัวเมื่อจับแล้วจะรู้สึกว่าเป็นก้อนแข็งใต้ชั้นผิว
- สิวหัวช้าง เป็นสิวอักเสบรุนแรงที่มีลักษณะสิวเป็นตุ่มนูนขนาดใหญ่ไม่มีหัวสิว มีอาการบวมแดงรอบๆ สิวอย่างชัดเจน เมื่อสัมผัสแล้วจะรู้สึกเป็นก้อนและเจ็บปวดมาก
- สิวหนอง เป็นสิวอักเสบที่มีหัวสิวเห็นชัดสังเกตง่าย มีลักษณะเป็นตุ่มนู่น แดงเล็กน้อยรอบๆ สิว หัวสิวมีสีเหลือง หรือเขียวเนื่องจากมีหนองอยู่ภายในหัวสิว รู้สึกเจ็บเล็กน้อยเมื่อสัมผัส
-
ประเภทสิวเทียม
คืออาการจากโรคผิวหนังต่างๆ แต่มีลักษณะคล้ายกับสิวจึงมักเรียกกันว่าสิว แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่สิวมีดังนี้
- สิวผด เป็นประเภทสิวเทียมที่พบบ่อยที่สุดในบริเวณหน้าผาก มีลักษณะเป็นตุ่มเล็กๆ 1 – 2 มิลลิเมตร อาจมีอาการคัน และแดงรอบๆ สิวผดเล็กน้อย
- สิวหิน เป็นเนื้องอกในท่อเหงื่อที่ไม่เป็นอันตราย มักพบเห็นได้บ้างในบริเวณหน้าผากแต่ไม่บ่อยเท่าสิวผด มีลักษณะเป็นตุ่มนูนเล็กๆ จับแล้วรู้สึกว่าเป็นก้อนแข็ง
- สิวข้าวสาร เป็นซีสต์ใต้ผิวหนังที่ไม่อันตราย มีลักษณะคล้ายกับสิวหิน หรือสิวอุดตัน แต่บางทีอาจจะมีอาการคันในบริเวณที่เป็นสิวข้าวสาร
สิวที่หน้าผากบอกโรคอะไร
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่าตำแหน่งของการเกิดสิวสามารถบอกได้ว่าเรากำลังเป็นโรคอะไรอยู่ ซึ่งการที่มีสิวที่หน้าผากก็สามารถบอกได้เหมือนกันว่าร่างกายของเราอาจจะมีปัญหาอะไร โดยถ้าเป็นสิวที่หน้าผากบ่อยๆ อาจบ่งบอกว่ามีปัญหาเกี่ยวกับระบบย่อยอาหาร มีความผิดปกที่ลำไส้ได้ จากการที่ทานอาหารไม่มีประโยชน์ ทานผักน้อยทำให้ร่างกายย่อยอาหารได้ลำบาก
วิธีรักษาสิวที่หน้าผาก
การรักษาสิวที่หน้าผากให้หายมีด้วยกันอยู่หลายวิธี โดยวิธีรักษาสิวที่หน้าผากจะขึ้นอยู่กับลักษณะ ประเภทสิวที่ขึ้นมาเพื่อแก้ไขให้สิวที่หน้าผากหายได้อย่างตรงจุด ซึ่งมีวิธีรักษาสิวที่หน้าผากดังนี้
-
กดสิว
เหมาะสำหรับผู้ที่มีสิวอุดตัน โดยจะนำหัวสิวออกมาด้วยการใช้เครื่องมือกดหัวสิวออกมาก่อนที่จะกลายเป็นสิวอักเสบ แต่ควรกดสิวกับผู้เชี่ยวชาญไม่งั้นหลังกดสิวเสร็จอาจจะมีปัญหารอยสิวตามมาได้
-
เลเซอร์สิว
เหมาะกับสิวไม่มีหัวอย่างสิวหัวขาว สิวหิน สิวข้าวสาร โดยใช้เครื่องเลเซอร์อย่าง Co2 Laser ยิงไปที่สิวเพื่อเปิดหัวสิวจากนั้นทำการกดหัวสิวออกมา ซึ่งหลังจากทำเลเซอร์สิวจะมีรอยแดงเล็กน้อยจากนั้นก็จะหายไปเองค่ะ
-
ฉีดสิว
วิธีนี้จะใช้สารสเตียรอยด์ฉีดเข้าไปที่สิวจากนั้นสิวจะค่อยๆ ยุบตัวลงจนหายไปเองภายใน 2 – 3 วัน และสามารถช่วยลดอาการอักเสบของสิวได้ ซึ่งการฉีดสิวเหมาะกับสิวที่ไม่มีหัวอย่างสิวหัวช้าง สิวไต
-
ฉายแสงลดสิว
หากมีปัญหาสิวที่หน้าผากเป็นสิวอักเสบเยอะสามารถฉายแสงลดสิวได้ เพราะจะช่วยลดการอักเสบของสิวได้ดี โดยมีแสงสองสีที่สามารถลดสิวได้คือ แสงสีฟ้า และแสงสีแดง ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิว ลดการทำงานของต่อมไขมัน ลดการอักเสบของสิวได้ดี
-
แผ่นแปะสิว
เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นสิวหนองที่หน้าผาก โดยนำแผ่นแปะสิวแปะเข้าไปในบริเวณที่เป็นสิวหนองจากนั้น แผ่นแปะสิวจะดูดหนองออกมาจนหมดจากนั้นสิวก็จะแห้งและหายไป
-
ยารักษาสิว
มีทั้งแบบทา และแบบรับประทาน สำหรับยารักษาสิวแบบทาจะเป็นยาที่มีส่วนผสมของ Retinol, Glycolic acid, Salicylic acid, Benzoyl peroxide, Antibiotics, Clindamycin ซึ่งช่วยลดการอุดตันของสิว ลดการอักเสบ ยับยั้งการเกิดสิวได้ ส่วนยารับประทานจะมียาฆ่าเชื้อที่สามารถกำจัดเชื้อแบคทีเรียที่ทำให้เกิดสิวได้ วิตามินลดสิวอย่าง Zinc, วิตามินอี และยาคุมลดสิวที่สามารถปรับให้ฮอร์โมนในร่างกายคงที่ทำให้สิวหายได้ดี
การดูแลและป้องกันสิวที่หน้าผาก
เพื่อลดการเกิดสิวที่หน้าผากให้บริเวณหน้าผากมีสิวขึ้นน้อยลง ควรรู้จักวิธีป้องกันสิวที่หน้าผากซึ่งมีด้วยกันหลายวิธีตั้งแต่วิธีป้องกันสิวที่สามารถทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้านจนไปถึงเข้าคลินิกเพื่อป้องกันสิว โดยวิธีป้องกันสิวที่หน้าผากมีด้วยกันทั้งหมดดังนี้ค่ะ
-
ล้างหน้าให้สะอาด
หากล้างหน้าให้ถูกวิธี ล้างหน้าให้สะอาดก็สามารถลดการเกิดสิวได้ เป็นวิธีที่ทำได้ง่ายๆ เพียงแค่ต้องล้างหน้าทุกวัน หากแต่งหน้าต้องใช้คลีนซิ่งล้างเครื่องสำอางทุกครั้ง ก่อนที่จะใช้โฟมล้างหน้าต่ออีกทีเพราะการที่ล้างหน้าอย่างเดียวไม่เพียงพออาจมีเครื่องสำอางหลงเหลืออยู่
-
เมโสหน้าใส
เป็นสารสกัดที่มีประโยชน์ และวิตามินลดสิวได้รวมอยู่ในเมโสหน้าใส เมื่อฉีดเมโสหน้าใสแล้วจะช่วยฟื้นฟูผิวให้มีสุขภาพดีขึ้น ลดรอยสิว ลดการเกิดสิวป้องกันสิวในอนาคตได้
-
ยาคุม
นอกจากยาคุมลดสิวได้แล้วจะยังสามารถป้องกันสิวที่เกิดในอนาคตได้ด้วย ช่วยควบคุมให้ฮอร์โมนในร่างกายคงที่ทำให้ต่อมไขมันทำงานได้อย่างปกติไม่ผลิตน้ำมันออกมามากจนเกินไป ป้องกันสิวที่จะเกิดในอนาคตได้ดี
-
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะกับผิว
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ก่อให้เกิดสิว ไม่มีส่วนผสมอย่างพาราเบน ซิลิโคน สารกันเสียเพราะสารพวกนี้สามารถทำให้เกิดการอุดตันได้ง่ายมีสิวหลายๆ ชนิดตามมา และหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีอย. เนื่องจากอาจมีสารสเตียรอยด์ผสมอยู่ในครีมทำให้เกิดเป็นสิวสเตียรอยด์ได้
สรุป
สิวที่หน้าผากเกิดได้จากหลายปัจจัยอย่างรูขุมขนอุดตัน หรือแบคทีเรียทำให้สิวหลายๆ ชนิดขึ้นมาบนหน้าผาก ซึ่งสิวที่หน้าผากสามารถรักษาได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับชนิดสิวโดยเลือกวิธีรักษาให้เหมาะสมกับสิวบนหน้าผากค่ะ