Ulthera เป็นเทคโนโลยีด้านความงามที่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน หากใครที่กำลังสงสัยว่า Ulthera คืออะไร ดีอย่างไร ทำไมถึงเป็นที่พูดถึงกันมาก ควรทำบ้างดีไหม ในบทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ Ulthera ที่หลายคนอยากรู้มาให้แล้วค่ะ
Ulthera คืออะไร
Ulthera คือ เทคโนโลยีที่ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้กระชับขึ้นได้ ด้วยการใช้คลื่นเสียงความถี่สูงที่เฉพาะเจาะจง (Focused Ultrasound) คิดค้นขึ้นโดยแพทย์ผิวหนังชื่อดัง Dr.Rox Anderson ได้จัดจำหน่ายครั้งแรกในปี 2004 และเป็นเครื่องเดียวที่ได้รับการรับรองจาก FDA สหรัฐอเมริกา

โดย Ulthera สามารถยกกระชับผิวหน้าได้ลงลึกถึงผิวชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับการผ่าตัดดึงหน้า นอกจากนี้ยังมีจอที่สามารถแสดงชั้นผิวของคนไข้ตอนกำลังทำจึงสามารถยิง Ulthera ยกกระชับได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Ulthera ดีไหม ช่วยอะไรบ้าง
การทำ Ulthera เทียบเท่ากับการทำศัลยกรรมดึงหน้าเพราะสามารถยิงคลื่นพลังงานเสียงแล้วเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนประมาณ 65 – 70 องศาลงไปเป็นจุดเล็กๆ อย่างสม่ำเสมอลงลึกได้ถึงผิวชั้น SMAS โดยไม่ก่อให้เกิดการไหม้ของผิวชั้นบน

เครื่อง Ulthera มีหัวยิงให้เปลี่ยนถึง 3 หัวเพื่อใช้แก้ปัญหาในแต่ละชั้นผิวที่แตกต่างกัน พร้อมกับหน้าจอแสดงสภาพผิวหนังกับชั้นผิวของคนไข้ในขณะที่กำลังทำเพื่อรักษาได้แม่นยำมากขึ้น ทำให้สามารถใช้เทคนิค Ulthera SPT ที่สามารถแก้ปัญหาของคนไข้แต่ละบุคคลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดได้

หลังจากที่ทำ Ulthera ชั้นผิวจะค่อยๆ หดตัวลง จากผิวที่หย่อนคล้อยกลายเป็นผิวกระชับตึงขึ้น ช่วยกระตุ้นสร้างคอลลาเจน อีลาสตินในชั้นผิว และสลายไขมันส่วนเกินที่ไม่จำเป็นออกไป โดยที่ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำเหมือนการศัลยกรรมเลย แต่อาจมีอาการหลังทำเล็กน้อยอย่างหลังทำ Ulthera หน้าบวมซึ่งเป็นอาการที่เกิดขึ้นได้ปกติ ถึงแม้ว่าหน้าจะบวมแต่ก็ไม่ได้บวมมาก บวมแค่เล็กน้อยเท่านั้นและจะค่อยๆ หายไปเอง มีอาการหลังทำเล็กน้อยค่ะ
อ่านบทความเพิ่มเติมเพื่อให้หลังทำได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน ไม่มีปัญหากวนใจได้ที่ : ทำ Ultera ที่ไหนดี
Ulthera เหมาะกับใคร

-
ผู้ที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไป
เป็นช่วงอายุที่เหมาะสมในการทำ Ulthera เนื่องจากเป็นช่วงอายุที่เริ่มเกิดริ้วรอย และการผลิตคอลลาเจน อีลาสตินใต้ชั้นผิวลดน้อยลง แต่ถ้ารู้สึกมีริ้วรอย และผิวหน้าไม่กระชับเหมือนเมื่อก่อน แม้อายุจะยังไม่ถึง 30 ก็สามารถทำได้ค่ะ
-
ผู้ที่มีปัญผิวหน้าหย่อนคล้อย
กรอบหน้าไม่กระชับ ไม่ชัด คิ้วตก ตาตก ผิวหน้าหย่อนคล้อย มีริ้วรอย ยังไม่อยากทำศัลยกรรมดึงหน้า สามารถทำ Ulthera เพื่อยกกระชับผิวได้
-
ผู้ที่มีไขมันส่วนเกิน
มีปัญหาเหนียง แก้มเยอะ แขนใหญ่ห้อย มีหน้าท้อง Ulthera สามารถช่วยลดไขมันส่วนเกินให้หายไปได้ หลังทำ Ulthera เหนียง ไขมันแขน และหน้าท้องน้อยลง
บริเวณไหนทำ Ulthera ได้บ้าง
การทำ Ulthera สามารถทำได้หลายจุดบนร่างกาย โดยมีจุดที่สามารถทำ Ulthera ได้มีดังนี้

-
ใบหน้า
ลดความหย่อนคล้อยได้สามารถทำ Ulthera ทั่วใบหน้าได้ ผิวกระชับเต่งตึงขึ้น ลดริ้วรอยร่องลึกต่างๆ ให้หายไป อย่างร่องน้ำหมาก ร่องแก้ม
-
ใต้คาง ลำคอ เหนียง
ยกกระชับลำคอที่หย่อนคล้อย ลดปัญหาไขมันที่สะสมบริเวณเหนียงให้กรอบหน้าเรียวสวยชัดขึ้น
-
บริเวณคิ้ว รอบดวงตา
ทำ Ulthera รอบดวงตาช่วยยกคิ้ว แก้ปัญหาหนังตาตก ริ้วรอยรอบดวงตา ลดถุงใต้ตา ตีนกาให้หายไป
-
หน้าอก
แก้ปัญหาความหย่อนคล้อย และริ้วรอยบริเวณเนินอก ลดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าอกด้านข้าง
-
หน้าท้อง ท้องแขน
ลดไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าท้อง และท้องแขน กระชับให้ผิวที่หย่อนคล้อยเข้ารูปมากขึ้น
หลังจากทำ Ulthera กี่วันเห็นผล
หลังจากที่ทำ Ulthera สามารถเห็นผลทันทีตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำว่าผิวกระชับขึ้น 30% และเห็นผลลัพธ์ชัดเจนว่าผิวยกกระชับมากขึ้น ไขมันใต้ผิวลดน้อยลงเมื่อผ่านไป 1 – 3 เดือนหลังจากทำ Ulthera ค่ะ
อ่านบทความเพิ่มเติม : Ulthera กี่วันเห็นผล
ราคา Ulthera เท่าไร
ในการยิง Ulthera ในแต่ละครั้งจะเรียกเป็นไลน์ หรือช็อต ดังนั้นราคา Ulthera จะขึ้นอยู่กับจำนวนช็อต หรือไลน์ที่ใช้ยิงในแต่ละบริเวณที่ต้องการแก้ไข ซึ่งแต่ละบริเวณก็จะใช้จำนวนช็อตไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับปัญหาของคนไข้ว่ามากน้อยแค่ไหน ซึ่งแพทย์จะประเมินให้ว่าคนไข้ควรใช้กี่ช็อตในการรักษาค่ะ
แต่ละคลินิกจะมีราคา Ulthera ต่างแตกกันไปขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของคลินิกในตอนนั้น โดยปกติราคาจะอยู่ประมาณที่ 100 บาท/1 ช็อตค่ะ
Ulthera ต่างกับ Hifu , Thermage อย่างไร
ทั้ง Ulthera , Hifu และ Thermage ต่างก็เป็นเครื่องยกกระชับที่ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้กลับมาเต่งตึงขึ้นเหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันไปอย่างเช่นประสิทธิภาพของเครื่อง ความแม่นยำ ความสามารถในการยกกระชับ และระยะเวลาของผลลัพธ์หลังทำ โดยต่างกันดังนี้ค่ะ

-
Ulthera
ใช้พลังงานคลื่นเสียง สามารถลงลึกถึงผิวชั้น SMAS ส่งพลังงานร้อนลงไปในชั้นผิวเป็นจุดเล็กๆ ที่สม่ำเสมอกันทั่วทุกบริเวณมีความแม่นยำสูง เพราะสามารถเห็นชั้นผิวของคนไข้ตอนยิงได้ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดี เห็นผลลัพธ์หลังทำทันทีประมาณ 30% อยู่ได้นาน 1 ปี ยกกระชับได้ดีที่สุด
-
Hifu
ใช้พลังงานคลื่นเสียง สามารถลงลึกถึงผิวชั้น SMAS ส่งพลังงานความร้อนลงไปในชั้นผิวเป็นจุดเล็กๆ สามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ ยกกระชับได้ปานกลาง เห็นผลลัพธ์หลังทำทันทีหลังทำประมาณ 20% อยู่ได้นาน 3 – 6 เดือน
-
Thermage
ใช้พลังงานความร้อนจากคลื่นวิทยุ สามารถลงลึกถึงผิวหนังชั้นแท้ (Dermis) และชั้นไขมัน ส่งพลังงานความร้อนลงไปในชั้นผิวเป็นจุดใหญ่ๆ ช่วยสลายไขมันได้ดี กระตุ้นคอลลาเจน กระชับผิวหน้ารูขุมขนให้เล็กลงได้ เห็นผลลัพธ์หลังทำทันทีประมาณ 20% อยู่ได้นาน 1 ปี อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : Ulthera vs Hifu
สรุป
Ulthera เป็นเครื่องมือช่วยยกกระชับชนิดหนึ่งที่สามารถลงลึกได้ถึงผิวชั้น SMAS ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยให้ตึงขึ้นได้โดยไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ และสามารถใช้ยกกระชับผิวของคนไข้ได้อย่างละเอียดเพราะมีหน้าจอให้ดูชั้นผิวของคนไข้ นอกจากจะใช้ยกกระชับใบหน้าได้ยังยกกระชับร่างกายส่วนอื่นๆ ได้ด้วย ผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นานถึง 2 ปี
