ริ้วรอยบนใบหน้าไม่ว่าจะเป็น ริ้วรอยหน้าผาก ร่องแก้ม ใต้ตา เป็นปัญหากวนใจสำหรับใครหลายๆ คน ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจเหมือนเมื่อก่อน แต่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะริ้วรอยสามารถดูแลแก้ไขให้ลดน้อยลงได้
ริ้วรอยเกิดจากอะไร
ริ้วรอย คือ ปัญหาผิวรูปแบบหนึ่ง ซึ่งจะเกิดเป็นรอยยับ ร่องเส้นขึ้นมาบนผิวหนัง มักพบได้มากในจุดที่มีการขยับบ่อยๆ เช่นใบหน้า ข้อพับ สามารถเกิดได้ทั่วร่างกาย ปกติแล้วริ้วรอยจะเริ่มเกิดเมื่ออายุ 25 ปีขึ้นไป แต่บางคนก็อาจจะเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ ริ้วรอยในตอนแรกยังไม่ลึกแต่จะค่อยๆ ลึกขึ้นหากไม่รักษาจะกลายเป็นริ้วรอยถาวร
สาเหตุที่ทำให้มีริ้วรอยเกิดจากการที่ผิวเสื่อมสภาพลง ทำให้คอลลาเจน และอีลาสตินในผิวหนังของเราลดน้อยลง ขาดความชุ่มชื้น อุ้มน้ำได้น้อยลง อ่อนแอมากขึ้น จึงเกิดริ้วรอยขึ้นบนใบหน้าได้ง่าย โดยสาเหตุที่ผิวเสื่อมสภาพลงเกิดจากเหตุดังนี้
- อายุมากขึ้น เมื่ออายุมากขึ้นฮอร์โมนเอสโทรเจนจะน้อยลงทำให้ผิวจะยืดหยุ่นน้อยลง และเปราะปรางมากขึ้น คอลลาเจน อีลาสตินที่อยู่ในผิวผลิตได้น้อยลง ความชุ่มชื้นในผิวหายไป ไขมันในชั้นผิวก็จะลดลง ใบหน้าขาดความยืดหยุ่น ผิวไม่แข็งแรงเหมือนเมื่อก่อน ทำให้เกิดริ้วรอยร่องลึกได้ง่ายมากขึ้น
- การแสดงสีหน้า การขยับใบหน้าเพื่อแสดงสีหน้า เช่น การยิ้ม การหัวเราะ ทำให้เกิดริ้วรอยแบบตื้นได้ แต่จะยังไม่แสดงริ้วรอยให้เห็นในตอนที่ผิวยังมีคอลลาเจนยืดหยุ่นได้ดี เมื่ออายุ 30 ปีขึ้นไปริ้วรอยจากการแสดงสีหน้าจะเริ่มเห็นได้อย่างชัดเจน เนื่องจากผิวหน้าความยืดหยุ่นน้อยลงแล้ว

- ความเครียด เมื่อเกิดความเครียดร่างกายจะหลั่งสารคอร์ติซอลออกมา สารนี้จะไปทำลายคอลลาเจนในชั้นผิว ทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้น ไม่ยืดหยุ่น
- แสงแดด ในแสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลตอยู่ซึ่งรังสีนี้เป็นตัวเร่งที่ทำให้ผิวหนังของเราขาดความชุ่มชื้น ใบหน้าแห้ง เพราะรังสีอัลตราไวโอเลตไปทำลายคอลเจน และอีลาสตินในผิวหนัง ผิวจึงอ่อนแอ ยืดหยุ่นน้อยลง เป็นต้นเหตุของมะเร็งผิวหนังด้วย
- สูบบุหรี่ บุหรี่เป็นตัวเร่งให้ผิวแก่ไวขึ้นมีอายุมากกว่าอายุจริง เพราะสารนิโคตินในบุหรี่มีผลต่อการผลิตคอลลาเจนในผิวหนังทำให้ผิวหนังผิดคอลลาเจนน้อยลง ผิวเสื่อมสภาพเกิดริ้วรอยง่าย
ประเภทริ้วรอย
บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่าริ้วรอยนั้นมีหลายประเภทแต่จริงๆ แล้วริ้วรอยมีการแบ่งประเภทซึ่งประเภทริ้วรอยมีดังนี้

- ริ้วรอยแบบตื้น เป็นริ้วรอยในระยะแรก เกิดจากผิวหนังชั้นบนมีความแห้ง ขาดน้ำ ผิวมีความชุ่มชื้นไม่เพียงพอ ทำให้เกิดริ้วรอยซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบริเวณรอบดวงตา ริมฝีปาก แก้ม
- ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้า เมื่อแสดงสีหน้าจะเกิดริ้วรอยไปตามการขยับของใบหน้า และในเมื่อการแสดงสีหน้าขยับบริเวณเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้จึงเป็นปกติที่จะเกิดริ้วรอย เพราะทุกคนจะค่อยๆ เสียคอลลาเจนกับอีลาสตินในทุกปี การคืนตัวของผิวหนังจะน้อยลงเรื่อยๆ ทำให้รอยย่นที่เกิดเมื่อแสดงสีหน้าสามารถพัฒนาไปเป็นริ้วรอยถาวรได้
- ริ้วรอยถาวร เมื่อคอลลาเจนและอีลาสตินในผิวลดเหลือน้อยลงจนผิวยืดหยุ่นได้น้อยลงมาก ริ้วรอยก็จะคงอยู่บนใบหน้า ไม่สามารถคืนรูปได้เนื่องจากเป็นริ้วรอยที่เกิดในผิวหนังชั้นแท้ แม้ไม่ได้แสดงสีหน้าก็จะยังเห็นว่ามีริ้วรอยอยู่
แก้ไขริ้วรอยด้วยโบท็อกซ์
โบท็อกซ์ริ้วรอยสามารถแก้ริ้วรอยจากการแสดงสีหน้าได้ จะฉีดไปที่มัดกล้ามเนื้อเมื่อฉีดไปแล้วกล้ามเนื้อจะผ่อนคลาย ริ้วรอยที่เป็นรอยพับก็จะคลี่ออกผิวบริเวณนั้นก็จะเรียบตึง สามารถฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยในบริเวณที่มีริ้วรอยบนใบหน้าได้ทุกที่ ป้องกันริ้วรอยก่อนวัย ชะลอริ้วรอยไม่ให้กลายเป็นริ้วรอยถาวรได้

แต่ต้องฉีดให้พอดีตามที่แพทย์แนะนำถ้าฉีดมากเกินไปใบหน้าจะตึงเกินและขยับใบหน้าได้ลำบาก เห็นผลหลังฉีด 2 – 3 วัน และเห็นผลลัพธ์เต็มที่เมื่อ 2 สัปดาห์ขึ้นไป โบท็อกซ์อยู่ได้ประมาณ 6 เดือนแล้วจะค่อยๆ สลายไปขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกซ์และตำแหน่งที่ฉีดด้วยค่ะ
ฉีดฟิลเลอร์เติมเต็มริ้วรอย
ฟิลเลอร์เป็นการฉีดเติมเต็มโดยใช้สาร Hyaluronic Acid ฉีดเติมเต็มไปในจุดที่ต้องการ สามารถใช้แทนคอลลาเจนที่ชั้นผิวเสียไปได้ ฟิลเลอร์สามารถเติมริ้วรอยร่องลึกได้ดีจึงเติมเต็มได้ทั้งริ้วรอยแบบตื้น และริ้วรอยถาวร เติมเต็มริ้วรอยได้หลายที่ เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก ร่องลึกบริเวณตา
นอกจากจะช่วยเรื่องเติมเต็มริ้วรอยแล้ว ฟิลเลอร์ยังช่วยเรื่องความชุ่มชื้นเนื่องจากฟิลเลอร์มีความสามารถอุ้มน้ำได้ดี เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว ผิวดูกระชับเต่งตึง ควรปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนฉีดฟิลเลอร์เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ดูสวยเป็นธรรมชาติ
เลเซอร์ลดริ้วรอย
เมื่อยิงเลเซอร์เข้าไปในชั้นผิวเลเซอร์จะยิงริ้วรอยที่ผิวชั้นบนออกและยังกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินให้เพิ่มมากขึ้นได้ ผิวที่ก็จะยืดหยุ่น อิ่มฟู ริ้วรอยบนใบหน้าลดลง แต่อาจจะรู้สึกเจ็บระหว่างทำ แต่สามารถรักษาริ้วรอยแบบตื้นได้เท่านั้น
เนื่องจากเป็นการยิงความร้อนจากเครื่องเลเซอร์สู่ใบหน้า ต้องคอยดูแลฟื้นฟูผิวเป็นอย่างดีหลังทำ และควรให้แพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเป็นคนทำ เพราะใบหน้าอาจจะไหม้จากเลเซอร์ได้
ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวลดริ้วรอย
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าที่มีส่วนผสมของสารต้านอนุมูลอิสระ เพราะมีส่วนช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอย และช่วยลดเลือนริ้วได้ สารต้านอนุมูลอิสระที่ควรมีในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าได้แก่ วิตามินซี (Vitamin C) วิตามินอี (Vitamin E) วิตามินบี 3 (Vitamin B3) โคเอนไซม์ คิวเทน (CoQ10) นอกจากสารต้านอนุมูลอิสระแล้วยังมีสารตัวอื่นๆ เช่น กรดไฮยาลูรอนิก (Hyaluronic Acid) AHA ก็สามารถช่วยลดริ้วรอยได้ หลังจากที่ใช้เซรั่มลดริ้วแล้วควรจะใช้มอยส์เจอไรเซอร์ด้วยเพื่อเก็บความชุ่มชื้นในผิว ให้ผิวกลับมายืดหยุ่น อุ้มน้ำได้เหมือนเดิม
