หน้าผากเป็นจุดที่มีริ้วรอยขึ้นได้ง่ายมาก เมื่ออายุมากขึ้นก็จะยิ่งเห็นริ้วรอยหน้าผากชัดขึ้น จริงแล้วๆ ริ้วรอยบนหน้าผากสามารถแก้ได้หลายวิธี แต่การฉีดโบท็อกซ์หน้าผากเป็นหนึ่งในวิธีการที่น่าสนใจ เนื่องจากเห็นผลได้ดี ไม่ต้องพักฟื้น หากใครที่กำลังสนใจฉีดโบท็อกซ์หน้าผากแต่ยังตัดสินใจไม่ได้ หมอได้รวบรวมที่คำตอบทุกคนสงสัยมาให้แล้วในบทความนี้ค่ะ
สารบัญ
ลดริ้วรอยหน้าผากด้วยโบท็อกซ์
การฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก คือการนำโบทูลินั่ม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin type A) หรือโบท็อกซ์ จะฉีดไปที่บริเวณหน้าผาก หรือเหนือคิ้ว ซึ่งตัวโบท็อกซ์จะออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท ส่งผลให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อที่หดเกร็งบนหน้าผาก กล้ามเนื้อลดการทำงานลงชั่วคราว ช่วยลดริ้วรอยให้หน้าผากตึงกระชับขึ้น

ริ้วรอยบนหน้าผากจะหายไปหลังฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยที่หน้าผาก เมื่อแสดงสีหน้าอารมณ์บริเวณหน้าผากเช่น เลิกคิ้ว ย่นหน้าผาก ก็จะไม่มีริ้วรอยขึ้นมาให้เห็น และยังช่วยป้องกันริ้วรอยถาวรบนหน้าผากที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้อีกด้วย
โบท็อกซ์หน้าผากราคาเท่าไหร่

ฉีดโบท็อกซ์หน้าผากราคาจะต่างกันไปตามยี่ห้อโบท็อกซ์ ปริมาณยูนิตที่ใช้ฉีด และยังขึ้นอยู่กับการตั้งราคาของแต่ละคลินิกที่แตกต่างกันไป ส่วนที่พัชชาคลินิกของเรามีราคาโบท็อกซ์หน้าผากดังนี้ค่ะ
- Botox nabota ริ้วรอย 3,900 บาท
- Botox nabota ริ้วรอยคู่กับ lifting 4,900 บาท
- Botox aestox 100 ยูนิต 6,900 บาท
- Botox dysport 120 ยูนิต 13,900 บาท
- Botox allergan 50 ยูนิต 7,900 บาท
ควรใช้กี่ยูนิตฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก
โบท็อกซ์หน้าผากจะใช้ปริมาณโบท็อกซ์ที่ฉีดประมาณ 15 – 20 ยูนิต หน้าผากจะดูไร้ริ้วรอยเป็นธรรมชาติ หากใช้ปริมาณโบท็อกซ์มากกว่าที่เหมาะสมกับหน้าผากของเรา จะทำให้หน้าผากตึงดูไม่เป็นธรรมชาติ ขยับใบหน้าลำบาก และยังทำให้หนังตาตก คิ้วตกได้ จึงควรเลือกฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ เพราะแพทย์ที่มีประสบการณ์สามารถคำนวนปริมาณโบท็อกซ์ที่เหมาะกับคนไข้ได้
โบท็อกซ์หน้าผากอันตรายไหม
หลายคนอาจกลัวการฉีดโบท็อกซ์จากข่าวที่เคยอ่านกันเช่น ฉีดโบท็อกซ์แล้วปากเบี้ยว หน้าตึง ขยับหน้าไม่ได้ จึงกลัวว่าโบท็อกซ์อันตรายไหมแต่จริงๆ แล้วโบท็อกซ์ไม่อันตราย
เนื่องจากโบท็อกซ์ที่นำมาใช้ในทางการแพทย์และวงการเสริมความงามได้รับการรับรองจากอย. นอกจากนี้ยังมีการนำโบท็อกซ์มาใช้ในการรักษาโรคต่างๆ อีกด้วย เช่น โรคปวดหัวไมเกรน โรคออฟฟิศซินโดรม

ดังนั้นการฉีดโบท็อกซ์หน้าผากไม่เป็นอันตรายถ้าใช้ในปริมาณที่เหมาะสม ฉีดกับแพทย์ที่มีประสบการณ์ และใช้โบท็อกซ์ได้รับรองจากอย.ไทย สามารถตรวจสอบได้ว่าโบท็อกซ์เป็นของแท้ แต่ถ้าหากใช้มากเกินไปจะทำให้การแสดงสีหน้ามีปัญหา ดูไม่เป็นธรรมชาติ
ฉีดโบท็อกซ์หน้าผากที่ไหนดี
ก่อนที่จะตัดสินใจฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก ทุกคนควรเลือกคลินิกที่จะฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก เพราะหากไปเจอคลินิกที่ไม่ดี ใช้ของปลอมจะทำให้มีปัญหาหลังจากฉีดได้ค่ะ

ดังนั้นควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน เดินทางสะดวก สะอาดปลอดภัย หมอมีความชำนาญประเมินปริมาณที่ต้องฉีดได้ สามารถตรวจสอบได้ว่าเป็นโบท็อกซ์แท้ที่ผ่านอย.ไทย ไม่ใช่การนำเข้าหรือหิ้วแบบผิดกฎหมาย และการฉีดโบท็อกซ์ควรจะเป็นหมอฉีดให้เท่านั้น ไม่ใช่ใช้ผู้ช่วยแพทย์มาฉีดโบท็อกซ์ให้ค่ะ
สามารถอ่านต่อเพิ่มเติมได้ที่ : ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี
วิธีดูแลหลังฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก
- หลังฉีดโบท็อกหน้าผากควรขยับกล้ามเนื้อบริเวณหน้าผากทันที ด้วยการยักคิ้วขึ้นลงไปมา 5 – 10 นาที เพื่อให้ตัวยาโบท็อกซ์กระจายไปทั่วกล้ามเนื้อหน้าผากทั้งหมดไม่กระจุกอยู่ที่เดียว
- หลังฉีดโบท็อกหน้าผาก ควรงดนอนราบ นอนตะแคง หรือก้มหน้าสัก 3 – 4 ชั่วโมง เพราะจะทำให้โบท็อกซ์ที่ฉีดไปเคลื่อนที่ไปอยู่บริเวณอื่น เนื่องจากเลือดไหลเวียนบริเวณหน้ามากกว่าปกติ
- หลีกเลี่ยงการโดนแดดหลังฉีดโบท็อกซ์ในช่วงแรกๆ หมั่นทาครีมกันแดดทุกวัน

- หลีกเลี่ยงการโดนความร้อนทุกชนิดเช่น ซาวน่า ใช้น้ำอุ่นล้างหน้า เลเซอร์ หรือการกินชาบูที่มีไอร้อนมาปะทะหน้าในช่วง 2 – 4 สัปดาห์หลังฉีด
- ห้ามกินอาหารที่เผ็ดจัด หรือของหมักดองหลังจากฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก 2 สัปดาห์เช่น แอลกอฮอลล์ ส้มตำ
- งดการออกกำลังกายหลังฉีดโบท็อกซ์หน้าผาก 24 ชั่วโมง
- งดการสูบบุหรี่ เพราะจะทำให้โบท็อกซ์สลายไวขึ้น
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : หลังฉีดโบท็อกซ์ควรดูแลตัวเองอย่างไร
