ปัจจุบันการร้อยไหมในประเทศไทยเป็นที่นิยมมากขึ้น และมีไหมหลายชนิดที่ได้รับรองมาตรฐานอย.ไทยในเรื่องของการยกกระชับ หมอเชื่อว่าหลายท่านคงเลือกไม่ถูกว่าจะใช้ไหมยี่ห้อไหนดี ที่จะเหมาะสมสำหรับเรา ไหม Licellvi ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวที่มีความน่าสนใจ ในบทความนี้หมอจะอธิบายให้เข้าใจอย่างละเอียดว่าไหม Licellvi คืออะไร มีข้อดีอย่างไร ปัจจุบันมีใช้กันอยู่กี่แบบ และ ร้อยไปแล้วจะอยู่ได้นานเท่าไร
ไหม Licellvi คืออะไร
ไหม Licellvi เป็นไหมจากประเทศเกาหลีใต้ ที่ถูกผลิตและคิดค้นโดยบริษัท J World Company by HUGEL, Korea โดยที่ประเทศเกาหลีใต้จะใช้ชื่อไหมชนิดนี้ว่า Blue Rose ในประเทศไทยได้มีการนำไหมชนิดนี้เข้ามาอย่างถูกต้อง โดยบริษัท Suremed KR และเปลี่ยนชื่อเป็น ไหม Licellvi ที่มีใช้อยู่ในปัจจุบัน
ตัวไหม Licellvi ผลิตมาจากวัสดุ Polydioxanone (PDO) ซึ่งเป็นวัสดุที่มีความปลอดภัยสูง สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ และมีโอกาสแพ้น้อยมาก ที่สำคัญยังได้รับการรับรองมาตรฐานจาก CE Mark, KFDA และ อย.ไทย (THFDA) รวมถึงมีการจัดจำหน่ายในหลากหลายประเทศทั่วโลก
คุณสมบัติเด่นและข้อดีของไหม Licellvi
สำหรับคุณสมบัติที่เป็นจุดเด่นของไหม Licellvi มีดังนี้
1. เงี่ยงไหมแบบหล่อ (Molding) มีความแข็งแรงสูง
เทคโนโลยีการผลิตแบบ “Press Sculpt” ทำให้เงี่ยงไหมเป็นแบบหล่อขึ้นมา และช่วยลดการแตกหักของเส้นไหมได้ดี
2. ลักษณะของเงี่ยงไหมออกแบบมาเพื่อลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อข้างเคียง
3. มีการทำการทดลองเปรียบเทียบกับแบรนด์อื่น พบว่าไหม Licellvi มีแรงตึงและความแข็งแรง (Tensile strength) ที่สูง ไม่หัก หรือ เปราะง่าย
4. วัสดุ PDO ที่ใช้ควบคุมให้มีความชื้นที่ต่ำ ทำให้ไหมไม่เสียสภาพได้ง่าย
5. บรรจุภัณฑ์แบบพิเศษ (Blister Pack) ที่บรรจุ 1เส้นไหม ต่อ 1บรรจุภัณฑ์ ช่วยลดการปนเปื้อนของเชื้อโรค และ ป้องกันความชื้นที่สูงเกินไปของเส้นไหม
6. มี Cap ช่วยล็อคเส้นไหม ทำให้แพทย์ผู้ทำการร้อยไหมใช้งานได้สะดวก เปลี่ยนทิศทางของไหมได้ง่ายดาย
ไหม Licellvi มีกี่แบบ
ไหม Licellvi ที่ใช้ในประเทศไทยมีอยู่ 2แบบ ดังนี้
- S Type
- ลักษณะเงี่ยงไหมเป็นแบบหล่อ สองทิศทางเข้าหากัน (Bidirectional Barb)
- ใช้สำหรับยกกระชับช่วงบริเวณผิวที่หย่อนคล้อย ได้แก่ กระเปาะแก้ม ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก เหนียง และ ยกหางตา หางคิ้ว
- SE Type
- ลักษณะเงี่ยงไหมเป็นแบบหล่อ เรียงสลับกับกันเป็นช่วงๆ (Multidirectional Barb)
- ใช้สำหรับล็อคและยึดเนื้อเยื่อให้แน่น โดยจะมีแรงยึกที่แน่นกว่าแบบ S Type
- นิยมร้อยเสริมกับไหมชนิด S Type เพื่อเพิ่มแรงยึดเกราะให้แน่นขึ้น ส่งผลให้คงสภาพผลลัพธ์ได้ยาวนาน
ลักษณะบรรจุภัณฑ์ของไหม Licellvi
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : ร้อยไหมมีกี่แบบ
ไหม Licellvi แก้ปัญหาอะไรได้บ้าง
ไหม Licellvi เป็นไหมสำหรับการยกกระชับ ดังนั้นสามารถแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยได้หลากหลายบริเวณ ดังนี้
- กระเปาะแก้มหย่อนคล้อย
- ร่องน้ำหมาก มุมปากตก
- ร่องแก้ม หน้าแก้มหย่อนคล้อย
- เหนียง หรือ ผิวใต้คางหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด
- หางคิ้ว หางตาตก
- ลำตัว เช่น ท้องแขน บั้นท้าย หรือ หน้าท้อง
หมอได้มีโอกาสเข้า Workshop ที่ประเทศเกาหลีใต้ ได้พบกับ KOLs ของไหม Licellvi ซึ่งเป็นศัลยแพทย์ชื่อดังของเกาหลีใต้ และได้มีโอกาสแชร์เทคนิคการร้อยไหมของตัวหมอเองกับเทคนิคของตัวไหม Licellvi ซึ่งสำหรับเทคนิคเฉพาะ และ คอนเซ็ปของไหม Licellvi ถือว่ามีความน่าสนใจอย่างมากค่ะ
ร้อยไหม Licellvi กี่วันเห็นผล อยู่ได้นานเท่าไร
หลังร้อยไหม Licellvi ไปคนไข้สามารถสังเกตเห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำค่ะ ว่าผิวดูยกกระชับขึ้น แต่ยังมีความบวมของยาและความบวมจากตัวไหมอยู่ ซึ่งความบวมจะค่อยๆหายไปประมาณ 3-7 วัน หลังจากนั้นผิวจะเริ่มมีการสร้างคอลลาเจนตามแนวเส้นไหมที่มากขึ้น ส่งผลให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนที่สุดประมาณ 4 สัปดาห์ หลังการร้อยไหม
ส่วนการคงสภาพของไหม Licellvi จะอยู่ได้ประมาณ 12 เดือน ซึ่งขึ้นกับหลากหลายปัจจัย ได้แก่ จำนวนเส้นไหมที่ใช้เพียงพอต่อปัญหาที่มีหรือไม่, การดูแลหลังการร้อยไหม, สภาพผิวของคนไข้ รวมไปถึงการขยับใบหน้า การใช้ชีวิตประจำวันของคนไข้ด้วยค่ะ