ไหมมิ้นท์ (Mint) เป็นไหมที่เด่นในเรื่องของการยกกระชับ เนื่องจากเงี่ยงไหมมีลักษณะพิเศษ หล่อขึ้นมาแบบสามมิติรอบทิศทาง 360 องศา ทำให้มีความแข็งแรง สามารถยึดเกาะกับผิวได้แน่น และสามารถยกกระชับได้ดีกว่าไหมทั่วไปถึง 4 เท่า เห็นผลชัดเจนในเรื่องของการแก้ปัญหาผิวหย่อนคล้อย ปรับรูปหน้าเรียว ยกมุมปาก ลดร่องแก้ม รวมไปถึงการร้อยไหมยกกระชับช่วงเหนียงที่หย่อนยาน

Patcha clinic ได้รางวัลด้านการร้อยไหมหลากหลายสื่อชั้นนำไม่ว่าจะเป็นแพรว และสุดสัปดาห์ รวมถึงได้รับโล่การันตีว่าเป็นคลินิกที่ร้อยไหมมิ้นท์(MINT lift)สูงอันดับต้นๆของประเทศประจำปี 2021 และ คลินิกที่ร้อยไหมมิ้นท์(MINT lift) สูงเป็นอันดับ 1ของประเทศ ประจำปี 2022
ไหมมิ้นท์ คืออะไร ?
ไหมมิ้นท์ (MINT) ย่อมาจาก Minimal Invasive Non surgical Thread คือ “การร้อยไหมแทนการผ่าตัดดึงหน้า” ซึ่งเป็นคอนเซปต์หลักของตัวไหมมิ้นท์ โดยจะเน้นให้เห็นผลลัพธ์ชัดเจนในเรื่องของการยกกระชับ ไม่ต้องพักพื้นนาน ไม่มีแผลเป็นหลังทำ
MINT LIFT เป็นไหมที่ผลิตจากประเทศเกาหลีใต้ เป็นไหมชนิด Polydioxanone (PDO) สามารถสลายได้เอง ไม่ตกค้างในร่างกาย มีความปลอดภัยสูง และได้รับการรับรองมาตรฐานการประเมินจากหลากหลายประเทศทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา (USFDA), เกาหลี (KFDA), ไทย (ThaiFDA), อินเดีย, เม็กซิโก และ ฝั่งยุโรป (CE mark)
รวมถึงเป็นไหมตัวแรกที่ได้รับการรับรองเรื่องการยกกระชับใบหน้า (Approve Indication Lifting) ในประเทศไทย ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 ประเภท โดยมีคุณสมบัติพิเศษ และข้อบ่งชี้ในการใช้งานที่แตกต่างกัน
ไหมมิ้นท์ มีกี่ชนิด ?

Mint fine
- เป็นไหมเข็มปลายทู่แบบมน W-type ขนาดเข็มเบอร์ 18G
- เส้นไหมมีความยาว 15 cm ขนาดเส้นไหม USP 2-0
- ผลิตจากวัสดุ Polydioxanone (PDO)
- ลักษณะเงี่ยงไหมเป็นแบบ Bi-directional cogs 3D รอบทิศทาง 360 องศา
- ใช้สำหรับยกกระชับใบหน้าและลำคอ ยกคิ้ว
- เหมาะกับคนไข้ที่มีผิวบาง และมีความหย่อนคล้อยระดับน้อยถึงปานกลาง

Mint easy
- เป็นไหมเข็มปลายแหลมสองด้าน ขนาดเข็มเบอร์ 19G
- เส้นไหมมีความยาว 43 cm ขนาดเส้นไหม USP 1-0
- ผลิตจากวัสดุ Polydioxanone (PDO)
- ลักษณะเงี่ยงไหมเป็นแบบ Bi-directional cogs 3D รอบทิศทาง 360 องศา , U shape
- ใช้สำหรับยกกระชับใบหน้า เหนียง
- เหมาะกับคนไข้ที่มีผิวหนา และมีความหย่อนคล้อยระดับปานกลางถึงมาก ต้องการแรงดึงเยอะ

Mint mono
- เป็นไหมเส้นเล็ก เข็มแหลมขนาดเข็มมี 4 เบอร์ 25G, 27G, 29G และ 30G
- เส้นไหมมีความยาวตั้งแต่ 30-90 mm
- ขนาดของเส้นไหมมี 3 ขนาด USP 5-0, 6-0 และ 7-0
- ผลิตจากวัสดุ Polydioxanone (PDO)
- เป็นไหมเส้นเรียบ ไม่มีเงี่ยง ขนาดเล็ก
- ใช้สำหรับกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เก็บรายละเอียดให้ผิวแน่นกระชับขึ้น
มีคุณสมบัติที่โดดเด่นจากไหมอื่นอย่างไร ?

- เงี่ยงของไหมมิ้นท์ มีลักษณะพิเศษเป็นเงี่ยงผ่านเทคโนโลยีการหล่อ (Press molding technology) ขึ้นมา ทำให้มีความแข็งแรงทนต่อแรงดึง

- เส้นไหมมีแกนกลางที่แข็งแรง และมีเงี่ยงกางออกมา ซึ่งเงี่ยงไม่ขยับหรือหักได้ง่ายเหมือนไหมเงี่ยงแบบบาก

- เงี่ยงไหมหล่อขึ้นมาแบบ 3D เรียงตัวรอบเส้นไหม 360 องศา เงี่ยงกางออกจากเส้นไหม 30-35 องศา

- เส้นไหมมีความแข็งแรง สามารถยกกระชับได้ดี ทนต่อแรงดึงได้มากกว่าไหมทั่วไปถึง 4 เท่า

- เทคนิคการร้อยมีความใกล้เคียงกับการผ่าตัดดึงหน้า โดยเส้นไหมจะเข้าไปเกาะยึดกับชั้นผิวในชั้น SMAS ซึ่งเป็นชั้นที่เหนียวและแข็งแรง ทำให้สามารถยกกระชับได้ดี และเห็นผลยาวนานกว่าไหมทั่วไป

- จะมีการผูกปมไหมก่อนการตัดไหม เพื่อให้มีแรงเกี่ยวยึดกับผิวได้แน่นกว่าไหมทั่วไป
“เห็นผลในเรื่องของการยกกระชับที่ชัดเจนทันทีหลังทำเสร็จ ส่วนการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว ผิวแน่นกระชับจะชัดเจนมากขึ้นที่ 3 เดือน และอยู่ได้ยาวนานถึง 12-18 เดือน”
ผลลัพธ์ที่ได้เป็นอย่างไร ?
การร้อยไหมมิ้นท์ เน้นในเรื่องของการยกกระชับซึ่งเป็นผลมาจาก 2 ปัจจัย
- ปัจจัยแรก ตัวเงี่ยงไหมที่มีความแข็งแรงไปยึดเกี่ยวกับผิวแล้วยกกระชับขึ้น ทำให้เห็นผลลัพธ์ทันทีหลังร้อยเสร็จ แต่จะยังไม่เป็นผลลัพธ์ที่แท้จริง
- ปัจจัยที่สอง ไหมมีการกระตุ้นให้เกิดแผลใต้ชั้นผิว เป็นผลให้มีการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและมีเส้นเลือดมาเลี้ยงผิวบริเวณนั้นมากขึ้น เมื่อมีคอลลาเจนที่มากขึ้นจึงเกิดแรงดึงรั้งให้ผิวดูแน่น ตึงกระชับมากขึ้น และผิวแลดูเปล่งปลั่งจากเส้นเลือดที่มาเลี้ยงผิวมากขึ้น


ผลจากการยกกระชับของไหม ทำให้นำไปใช้เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ต่างๆ มากมาย ได้แก่
- ผิวหน้ากระชับ กระเปาะแก้ม ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก มุมปากตกดีขึ้น
- คิ้วยก หางตายกไม่ดูหย่อนคล้อย
- เหนียงกระชับขึ้น หน้าเรียวเห็นกรอบหน้าชัดขึ้น
- ผิวตัวกระชับขึ้น เช่น แก้ปัญหาใต้ท้องแขนที่หย่อนยาน
อยู่ได้นานแค่ไหน ?

ไหมมิ้นท์ (MINT) เป็นไหมชนิด Polydioxanone (PDO) จะสลายไปเมื่อระยะเวลาผ่านไปประมาณ 6-8 เดือน แต่เส้นไหมมีความพิเศษสามารถกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิวได้ยาวนานกว่านั้น
ทำให้เห็นผลลัพธ์ในเรื่องของการยกกระชับจากการกระตุ้นคอลลาเจนใต้ผิว ส่งผลให้ผิวแน่น มีการหดตัว และดึงรั้งให้ผิวกระชับได้ยาวนานถึง 12-18 เดือน
แต่อย่างไรก็ตามผลลัพธ์อาจแตกต่างกันออกไปตามสภาพผิวของแต่ละบุคคล ปริมาณไขมันที่มีบนใบหน้า การใช้ชีวิตประจำวันของคนไข้ และการดูแลตัวเองหลังจากการร้อยไหม
ข้อดีของการร้อยไหมมิ้นท์

- เงี่ยงไหมที่ชัดเจน แข็งแรง สามารถเกี่ยวกับชั้นผิวได้แน่น เห็นผลลัพธ์ในเรื่องของการยกกระชับทันทีหลังร้อยเสร็จ
- เส้นไหมสามารถสลายได้หมด ไม่ตกค้างในร่างกาย มีความปลอดภัย
- ต่อให้เส้นไหมละลายหมด แต่จะยังคงเหลือเส้นใยอีลาสตินและคอลลาเจนที่สร้างขึ้นคอยประคองผิวอยู่
- เส้นไหมมีความแข็งแรง ทนต่อแรงขยับของกล้ามเนื้อได้มากกว่าไหมทั่วๆ ไป ทำให้ผลลัพธ์อยู่ได้ยาวนาน
- สามารถใช้ไหม MINT MONO ร้อยเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน ทำให้ริ้วรอยดูตื้นขึ้นได้
- สามารถแก้ไขปัญหาแก้มหย่อนคล้อย มุมปากตก ร่องแก้ม เหนียงหย่อนคล้อย กรอบหน้าไม่ชัด และแก้มตอบได้
ข้อเสียของการร้อยไหมมิ้นท์

- หลังร้อยไหม มีโอกาสเกิดรอยเขียวช้ำ อาการบวมได้ ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก แต่สามารถหายได้เอง
- ถ้าแพทย์ผู้ทำการร้อยไหมไม่มีความชำนาญ จะทำให้เกิดแนวรั้งไหมถาวรได้ เนื่องจากไหมมิ้นท์มีเงี่ยงที่แข็งแรงเป็นตะขอเกี่ยวกับชั้นผิวได้แน่น
- หากร้อยไหมทับซ้อนกันมากเกินไป มีโอกาสทำให้เกิดพังผืดใต้ผิวได้
ไหมมิ้นท์ ราคาเท่าไร ?
ราคาไหมมิ้นท์จะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละรุ่น โดยเริ่มต้นที่ประมาณหลักหมื่นต้นๆ จะสังเกตเห็นได้ว่าไหมมิ้นท์มีราคาที่ค่อนข้างสูงกว่าไหมชนิดอื่น เนื่องจากเส้นไหมใช้วัสดุที่มีความแข็งแรง เงี่ยงไหมที่ผ่านการหล่อด้วยเทคโนโลยีการผลิตเฉพาะที่ทำให้ยกกระชับได้ดีกว่าไหมทั่วไปถึง 4 เท่า
โดยไหมมิ้นท์ที่Patcha clinic แต่ละรุ่นมีราคาดังนี้

- Mint Fine เริ่มต้นที่ 4 เส้น ราคา 14,000.-
- Mint Easy เริ่มต้นที่ 2 เส้น ราคา 15,000.-
ดูโปรโมชั่นไหม Mint เพิ่มเติมที่: ราคาร้อยไหม
รีวิวร้อยไหมมิ้นท์
ผลลัพธ์ของการร้อยไหมมิ้นท์ จะยกกระชับให้เห็นเลยทันทีหลังร้อยไหมเสร็จ โดยผลลัพธ์ที่ได้จะแตกต่างกันไปในปัญหารูปหน้าของแต่ละบุคคล


คำแนะนำสำหรับการร้อยไหม


- หลังร้อยไหมอาจเกิดอาการบวมช้ำได้ แนะนำให้ประคบเย็นตามแนวไหมในช่วง 3 วันแรก
- จะมีอาการตึง ระบบไหมได้ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เนื่องจากไหมดึงยกกระชับผิวขึ้น
- ใส่ผ้ารัดหน้าเพื่อช่วยประคองผิวในช่วง 2-4 สัปดาห์แรก
- ทานยาที่แพทย์สั่งให้ครบ โดยเฉพาะยาฆ่าเชื้อ และหากมีอากการปวดสามารถทานยาแก้ปวดได้
- งดการแสดงสีหน้าแรงๆ อ้าปากกว้างไปก่อนในช่วง 4 สัปดาห์แรก
- งดอาการหมักดอง อาหารรสจัด แอลกอฮอล์ช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังร้อยไหม
- หากมีอาการผิดปกติหลังร้อยไหม เช่น ใบหน้าบวมขึ้น มีอาการเจ็บมากขึ้น หรือยังมีอาการชาอยู่แม้ว่ายาชาจะหมดฤทธิ์ไปแล้ว แนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพิ่มเติม
- เมื่อไหมเข้าที่ประมาณ 4 สัปดาห์แล้ว หากยังมีจุดไหนที่ยังกังวลบนใบหน้าสามารถปรึกษาแพทย์เพื่อทำการร้อยไหมเพิ่มเติมได้
อ่านเพิ่มเติม: วิธีดูแลหลังร้อยไหม
สรุป
ไหมมิ้นท์ เป็นวัสดุ Polydioxanone (PDO) สามารถสลายได้เอง ไม่ตกค้าง และด้วยความพิเศษของไหมมิ้นท์ที่มีเทคโนโลโยการผลิตที่เฉพาะ เงี่ยงไหมเป็นแบบหล่อ มีความแข็งแรงทนต่อแรงดึง สามารถยึดเกาะกับชั้นผิวได้ดี ทำให้เห็นผลลัพธ์ในเรื่องของการยกกระชับได้ดีและยาวนานกว่าไหมทั่วไป

นอกจากนี้ยังสามารถกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิว เพื่อช่วยพยุงผิวให้แน่นตึงกระชับได้ยาวนานถึง 12-18 เดือน และได้รับการรับรองจากหลากหลายประเทศทั่วโลกว่ามีประสิทธิภาพที่ดี มีความปลอดภัยสูง ไหมมิ้นท์จึงเป็นที่นิมอย่างมากในตอนนี้เลยค่ะ
