ถ้าใครที่กำลังอยากจะแก้ปัญหาด้วยการฉีดโบท็อกซ์ถุงใต้ตา เพราะมีปัญหาถุงใต้ตาหย่อนคล้อยมากวนใจ ทำให้รู้สึกขาดความมั่นใจ ส่องกระจกหรือถ่ายรูปก็จะเห็นว่าใบหน้าดูเหนื่อย ดูแก่กว่าวัย แนะนำให้อ่านบทความนี้ให้จบก่อนแล้วค่อยตัดสินใจว่าจะควรฉีดโบท็อกซ์ถุงใต้ตาหรือไม่ค่ะ
ฉีดโบท็อกซ์ถุงใต้ตาอันตรายไหม
การฉีดโบท็อกซ์ถุงใต้ตา โบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตานั้นไม่อันตรายหากเลือกคลินิกที่เชื่อถือได้มาตรฐาน ใช้โบท็อกซ์แท้ผ่านอย.ไทย และแพทย์มีความเชี่ยวชาญมากพอเนื่องจากการฉีดโบท็อกซ์ถุงใต้ตาเป็นจุดที่ต้องละเอียด ไม่อย่างนั้นถุงใต้ตาจะหย่อนลงมามากกว่าเดิม และไม่ใช่คนไข้ที่มีถุงใต้ตาทุกคนจะฉีดโบท็อกซ์ได้ จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษและแพทย์ต้องมีความเชี่ยวชาญเป็นอย่างมาก

อีกทั้งไม่ควรใช้ปริมาณโบท็อกซ์เยอะจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เกิดผลข้างเคียงตามมาได้ เช่น หางตาตก ตาปิดไม่สนิท ตาไม่เท่ากัน หรืออาจจะรู้สึกปวดในบริเวณที่ฉีด
หากใครกังวลอยากฉีดโบท็อกซ์แต่ไม่รู้ว่าจะฉีดที่ไหนดีสามารถอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : ฉีดโบท็อกซ์ที่ไหนดี
โบท็อกซ์ถุงใต้ตาช่วยลดถุงใต้ตาได้จริงไหม
ถุงใต้ตาเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยเมื่ออายุมากขึ้นซึ่งเกิดจากการที่กล้ามเนื้อรอบด้วยตาอ่อนแรงหย่อนคล้อยทำให้ไขมันที่คอยช่วยพยุงกล้ามเนื้อหน้าแก้มและไขมันใต้ตาไหลออกมาอยู่ที่ผิวด้านนอกทำให้เห็นเป็นถุงใต้ตาบวมๆ อยู่ใต้ตา

ลักษณะการทำงานของกล้ามเนื้อรอบดวงตา หมอขอแบ่งกล้ามเนื้อรอบดวงตาเป็นบริเวณด้านบน และ บริเวณด้านล่าง ตามรูป โดยเมื่อกล้ามเนื้อหดตัวกล้ามเนื้อจะบีบเข้าโดยแยกกันระหว่างด้านบนและด้านล่าง
สำหรับคนไข้ที่มีถุงใต้ตา หากยิ้มแล้วถุงใต้ตาดีขึ้น (จากการที่กล้ามเนื้อรอบตาส่วนล่างหดตัวแล้วพยุงไขมันที่ไหลออกมาเป็นถุงใต้ตากลับเข้าไป) ร่วมกับมีริ้วรอยตีนตา ในคนไข้กลุ่มนี้สามารถฉีดโบท็อกซ์บริเวณหางตา ในตำแหน่งหางตาส่วนบนเพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อตาส่วนบน ซึ่งจะทำให้กล้ามเนื้อตาส่วนล่างทำงานมากขึ้นและมีแรงพยุงถุงใต้ตามากขึ้น “ทำให้ถุงใต้ตาดีขึ้นเมื่อฉีดโบท็อกซ์”
แต่หากฉีดโบท็อกซ์เข้าไปที่ถุงใต้ตาโดยตรงเพื่อให้ถุงใต้ตายุบ หมอขอบอกเลยค่ะว่าไม่สามารถทำได้ เพราะเมื่อถุงใต้ตาที่หย่อนคล้อยจากกล้ามเนื้อ เจอกับตัวยาโบท็อกซ์ที่ฉีดเข้าไป จะลดการทำงานของกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ให้คลายตัวลง ผลลัพธ์จากการฉีดโบท็อกซ์ที่ถุงใต้ตาโดยตรง จึงทำให้ถุงใต้ตาดูหย่อนคล้อยและเด่นชัดมากกว่าก่อนฉีดอีกค่ะ

หมอจึงขอสรุปให้ว่าฉีดโบท็อกซ์ถุงใต้ตา ไม่สามารถแก้ปัญหาถุงใต้ตาได้ในทุกคน เพราะฉะนั้นจึงควรเลือกวิธีอื่นในการแก้ปัญหาถุงใต้ตาแทน เช่น การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หรือผ่าตัดไขมันถุงใต้ตา ทั้ง 2 วิธีนี้เป็นวิธีที่สามารถแก้ไขปัญหาถุงใต้ตาได้อย่างตรงจุดมากกว่าการเลือกฉีดโบท็อกซ์ถุงใต้ตา
แต่ถ้าเป็นการฉีดโบท็อกซ์ริ้วรอยใต้ตาเพื่อลดริ้วรอย เช่น รอยตีนกา รอยย่นใต้ตา ริ้วรอยที่เห็นเมื่อแสดงสีหน้า สามารถฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยบริเวณนั้นได้ ถ้าหากเป็นริ้วรอยแบบถาวรที่แม้จะไม่ได้แสดงสีหน้าแต่ก็ยังเห็นริ้วรอย โบท็อกซ์สามารถแก้ไขได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้นค่ะ
ฉีดโบท็อกซ์ถุงใต้ตาหรือฟิลเลอร์ใต้ตาดีกว่ากัน
ถ้าอยากแก้ไขถุงใต้ตาที่หย่อนคล้อยฟิลเลอร์ใต้ตาดีกว่าโบท็อกซ์ถุงใต้ตาอยู่แล้วค่ะ ตามที่หมอได้บอกไปว่าถ้าฉีดโบท็อกซ์ถุงใต้ตาไม่ได้ช่วยกระชับถุงใต้ตาให้ยกขึ้นหรือหายไป แต่โบท็อกซ์จะไปคลายกล้ามเนื้อที่กำลังช่วยพยุงถุงใต้ตาอยู่ทำให้ถุงใต้ตาหย่อนคล้อยมากกว่าเดิม

แต่การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเติมไปที่ชั้นลึกเพื่อพยุงโครงสร้างผิวที่อ่อนแรงหย่อนคล้อย แล้วเติมชั้นตื้นให้ถุงใต้ตาดูเต็มไม่เป็นถุงใต้ตา หากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแค่ชั้นตื้นไม่ได้ฉีดชั้นลึกเพื่อพยุงโครงสร้าง หลังฉีดในช่วงแรกๆ ใต้ตาจะดูเต็มอยู่แต่พอผ่านไปสักระยะฟิลเลอร์ก็จะเห็นเป็นก้อนย้อยลงมาทำให้ถุงใต้ตาดูใหญ่ขึ้น
เนื่องจากผิวมีความอ่อนแรงหย่อนคล้อยอยู่แล้วจึงไม่สามารถรับน้ำหนักของฟิลเลอร์ได้อีก ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายๆ คนฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแล้วเป็นก้อนค่ะ

ดังนั้นหากอยากจะแก้ปัญหาถุงใต้ตาแต่ยังไม่อยากผ่าตัดถุงใต้ตา ขอแนะนำเป็นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาแทนแต่ควรเลือกฉีดกับคลินิกที่เชื่อถือได้ แพทย์มีความเชี่ยวชาญ มีเทคนิคที่ดี เพราะถ้าหากฉีดออกมาแล้วเป็นก้อนจะต้องมาฉีดสลายฟิลเลอร์ค่ะ
สรุป
การฉีดโบท็อกซ์ถุงใต้ตาไม่อันตราย แต่ไม่สามารถช่วยลดถุงใต้ตาให้หายไปได้ในทุกคน หากฉีดโบท็อกซ์ที่ถุงใต้ตาโดยตรง จะทำให้ถุงใต้ตาดูหย่อนคล้อยมากขึ้นกว่าตอนก่อนทำ หากต้องการลดและยกกระชับถุงใต้ตาแนะนำเป็นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา หรือผ่าตัดไขมันถุงใต้ตาแทน
เป็นวิธีที่สามารถช่วยแก้ปัญหาถุงใต้ตาหย่อยคล้อยได้อย่างตรงจุด ทำแล้วเห็นผลได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนทันทีหลังทำเสร็จ แต่ต้องเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน และแพทย์ต้องมีความเชี่ยวชาญ ไม่เช่นนั้นหากเป็นแพทย์ที่ไม่มีประสบการณ์มาทำให้จะมีปัญหาตามมาหลังทำก็ได้ค่ะ