หลุมสิวเป็นปัญหาผิวทำให้เกิดความกังวลใจเมื่อเป็นขึ้นมา และใครหลายๆ คนอยากที่จะหลีกเลี่ยงการเป็นหลุมสิว ซึ่งในบทความนี้หมอจะมาบอกข้อมูลเกี่ยวกับหลุมสิวทั้งหมดว่าหลุมสิวคืออะไร หลุมสิวเกิดจากอะไร มีหลุมสิวแบบไหนบ้าง รวมถึงวิธีการป้องกันไม่เกิดหลุมสิวในอนาคตค่ะ
หลุมสิวคืออะไร
หลุมสิว (Acne Scars) คือรอยสิวที่มีลักษณะเป็นหลุมอยู่บนผิวมีขนาดไม่ใหญ่มากประมาณ 3 – 5 มิลลิเมตรขึ้นอยู่กับชนิดหลุมสิว ซึ่งหลุมสิวนั้นสามารถสังเกตเห็นหลุมสิวได้ง่าย เพราะหลุมสิวบนผิวจะทำให้ผิวขรุขระไม่เรียบเนียนเมื่อสัมผัส และเห็นหลุมสิวได้ด้วยตาเปล่าว่าผิวเป็นหลุมลึก แม้แต่งหน้าก็ไม่สามารถกลบหลุมสิวได้
นอกจากนี้หลุมสิวนั้นยังเป็นประเภทรอยสิวที่รักษายากที่สุด เพราะหลุมสิวสามารถลงลึกได้ถึงชั้นรูขุมขน และความลึกในระดับนี้เป็นจุดที่ทำให้รักษาได้ยาก หลุมสิวจึงหายได้ยากมากค่ะ
หลุมสิวเกิดจากอะไร
สาเหตุของหลุมสิวเกิดจากทั้งการรักษาสิวผิดวิธี และประเภทสิวบางชนิดที่ขึ้นมาบนผิวและทำให้มีโอกาสเกิดเป็นหลุมสิวหลังจากที่สิวหายไปแล้ว ซึ่งมีสาเหตุการเกิดหลุมสิวทั้งหมดดังนี้
-
บีบสิว
การบีบสิวนอกจากจะทำให้เกิดรอยสิวอย่างรอยดำ รอยแดงแล้ว ยังสามารถทำให้เกิดหลุมสิวได้ด้วย เพราะการบีบสิวทำให้ผิวอักเสบมากขึ้นอาจลงลึกไปในชั้นผิวแท้เกิดการยุบตัวของผิวหนังกลายเป็นหลุมสิวขึ้นมา
-
ร่างกายสมานแผลได้ไม่ดี
คอลลาเจนในผิวมีน้อยไม่เพียงพอต่อการซ่อมแซมผิว ทำให้ผิวฟื้นฟูได้ไม่เต็มที่ ไม่สามารถสร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาทดแทนใหม่เพื่อสมานแผลที่เกิดจากสิวได้
-
สิวหัวช้าง
เป็นสิวอักเสบชนิดรุนแรง มีก้อนแข็งใต้ผิวที่มีขนาดใหญ่จึงทำให้หลังจากเป็นสิวหัวช้างเกิดหลุมสิวได้ง่ายหากรักษาไม่ถูกต้อง หรือปล่อยสิวทิ้งไว้ไม่รักษา
-
สิวหนอง
เป็นสิวอักเสบที่ไม่รุนแรง แต่หนองสามารถจะทำลายเนื้อเยื่อ และผิวหนังในบริเวณที่เป็นสิวได้หากไม่รักษาสิวหนอง หรือรักษาผิดวิธีอย่างการบีบสิวมีโอกาสเกิดเป็นหลุมสิวได้
หลุมสิวมีกี่แบบ
หลุมสิวไม่ได้มีเพียงแค่แบบเดียว แต่มีด้วยกันถึง 3 แบบ โดยแต่ละแบบจะมีลักษณะหลุมสิวที่แตกต่างกันออกไปดังนี้
-
หลุมสิวแบบ Rolling Scar
เป็นหลุมสิวที่อยู่ในระดับไม่รุนแรงมากสามารถรักษาให้หายได้ง่าย มีลักษณะเป็นวงกลม หรือวงรี และลึกลงไปในชั้นผิวคล้ายกับแอ่งก้นกระทะกว้างประมาณ 4 – 5 มิลลิเมตร ซึ่งเป็นหลุมสิวที่กว้างที่สุด แต่ระดับความลึกของหลุมสิวประเภทนี้ไม่ได้ลึกมาก และขอบของหลุมสิวจะมองเห็นได้ไม่ชัดเหมือนกับหลุมสิวแบบอื่นๆ
-
หลุมสิวแบบ Box Scar
เป็นหลุมสิวที่อยู่ในระดับรุนแรงปานกลางสามารถรักษาให้หายได้ มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมกว้างประมาณ 3 –4 มิลลิเมตรเห็นขอบหลุมสิวได้อย่างชัดเจน และลึกลงไปในชั้นผิวเป็นรูปแบบกล่องสี่เหลี่ยมความกว้างของปากหลุมสิวกับก้นหลุมสิวจะกว้างเท่ากัน ส่วนระดับของความลึกนั้นจะไม่ลึกถึงชั้นรูขุมขนจึงทำให้รักษาให้หลุมสิวหายได้อยู่
-
หลุมสิวแบบ Ice Pick Scar
เป็นหลุมสิวที่มีระดับความรุนแรงมากที่สุดในทุกประเภทหลุมสิว สามารถรักษาให้หายได้ค่อนข้างยากกว่าประเภทอื่นๆ ลักษณะหลุมสิวจะเห็นเป็นจุดๆ บนชั้นผิวกว้างไม่เกิน 2 มิลลิเมตรซึ่งเป็นปากหลุมสิวที่แคบที่สุด สามารถเห็นขอบหลุมสิวได้อย่างชัดเจน และลึกลงไปในชั้นผิวเป็นทรงกรวยลึกมีความลึกได้ถึงประมาณ 0.5 มิลลิเมตรซึ่งลึกถึงชั้นรูขุมขนได้จึงทำให้การรักษาหลุมสิวหายได้ยากกว่าหลุมสิวแบบอื่นๆ
ถึงแม้จะมีหลุมสิวขึ้นมาบนผิว หรือเป็นหลุมสิวชนิดที่รุนแรงรักษาได้ยากก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะมีวิธีรักษาหลุมสิวอยู่หลายวิธี ซึ่งสามารถรักษาหลุมสิวแต่ละประเภทที่เป็นให้หายได้
วิธีป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิว
สำหรับใครที่ไม่อยากเป็นหลุมสิว มีหลุมสิวขึ้นมาบนผิวทำให้ผิวไม่เรียบเนียน หรือกำลังหาวิธีป้องกันไม่ให้เกิดหลุมสิวขึ้นมาบนผิวอีกก็มีวิธีป้องกันการเกิดกันหลุมสิวดังนี้
-
ไม่บีบสิว
หลีกเลี่ยงการบีบสิว แกะสิว เพราะจะทำให้การอักเสบลงลึกไปในชั้นผิวมากกว่าเดิม ร่างกายจึงมีความลำบากในการสมานแผลได้ยากขึ้นและใช้เวลานานขึ้น หากรักษาไม่หายก็จะเกิดเป็นหลุมสิว หรือเป็นแผลเป็นได้
-
รักษาสิวอย่างถูกวิธี
ควรหาวิธีรักษาสิวให้ถูกวิธีเหมาะสมกับประเภทสิวที่เกิดขึ้นมา หากรักษาด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้อง หรือปล่อยสิวถึงไว้ไม่รักษา จะทำให้สิวเกิดการอักเสบมากกว่าเดิมมีโอกาสมากขึ้นที่ทำให้เกิดหลุมสิว
-
เสริมเกราะป้องกันผิว
ถ้าเกราะป้องกันผิวแข็งแรงจะลดการเกิดสิวได้น้อยลง ไม่ทำให้ผิวแพ้ง่าย ลดโอกาสที่จะเป็นหลุมสิวหลังจากเป็นสิว ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Ceramide, Urea, Hyaluronic Acid หรือกินวิตามินอย่างวิตามินซี โอเมก้า 3 จะช่วยให้เกราะป้องกันผิวแข็งแรงขึ้น
-
เพิ่มคอลลาเจนในชั้นผิว
ถ้ามีคอลลาเจนในชั้นผิวน้อยผิวจะเสื่อมสภาพได้ง่าย เกิดผิวหย่อนคล้อย ผิวแห้ง และซ่อมแซมแผลได้ช้าลงด้วย ดังนั้นควรจะเพิ่มคอลลาเจนในร่างกายด้วยการกินอาหารที่มีวิตามินซีสูง เนื้อสัตว์ที่ไม่ติดมัน หรืออาหารเสริมที่ช่วยเพิ่มคอลลาเจน และควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ทากันแดดอยู่เป็นประจำเพื่อรักษาคอลลาเจนในผิวให้อยู่ได้นานขึ้นค่ะ
หลุมสิวหายเองได้ไหม
หลุมสิวไม่สามารถหายได้เอง เพราะหลุมสิวไม่ได้เป็นแค่รอยสิวทั่วไป แต่เป็นรอยสิวที่ลงลึกไปในชั้นผิว ทำให้ผิวเป็นหลุม ผิวยุบลงไป ร่างกายจึงไม่สามารถสมานแผลรักษาหลุมสิวให้หายได้
หลุมสิวจึงจะอยู่บนผิวอย่างถาวรหากไม่ทำการรักษา ต้องใช้วิธีทางการแพทย์รักษาหลุมสิวเท่านั้นที่จะทำให้หลุมสิวค่อยๆ ดีขึ้น ผิวกลับมาเรียบเนียนไม่ขรุขระค่ะ
สรุป
หลุมสิวเป็นรอยสิวที่ไม่รักษาให้หายได้เองตามธรรมชาติ ซึ่งหลุมสิวนั้นเกิดขึ้นได้จากการรักษาสิวผิดวิธีอย่างการแกะสิว บีบสิว และสิวบางประเภททำให้มีโอกาสเกิดหลุมสิวได้ง่ายขึ้น โดยมีหลุมสิวด้วยกัน 3 แบบแต่ละแบบจะมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปทั้งรูปร่างของหลุมสิว ความลึกของหลุมสิว และระดับความรุนแรงก็จะไม่เท่ากันด้วย