หลุมสิวเมื่อเป็นแล้วทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน ใครที่เป็นหลุมสิวอยู่คงรู้สึกกังวลใจเพราะไม่รู้ว่าจะรักษาหลุมสิวให้หายอย่างไร ในบทความนี้หมอได้รวบรวมวิธีรักษาหลุมสิวหลายๆ แบบมาให้มากถึง 7 วิธีด้วยกันค่ะ
ฟิลเลอร์รักษาหลุมสิว
การรักษาหลุมสิวด้วยฟิลเลอร์หลุมสิวเหมาะสำหรับผู้ที่มีหลุมสิวประเภท Rolling Scar และ Box Scar หากเป็นหลุมสิวประเภท Ice pick Scar ฟิลเลอร์จะไม่สามารถช่วยได้ โดยการฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวจะช่วยทำให้หลุมสิวดูตื้นขึ้นทันทีหลังจากที่ฉีด ผิวหน้าดูเรียบเนียนอย่างเห็นได้ชัด
แต่การฉีดฟิลเลอร์หลุมสิวนั้นต้องเลาะพังผืดของหลุมสิวออกให้หมดก่อนที่จะฉีด เนื่องจากพังผืดจะทำให้การสร้างคอลลาเจนของฟิลเลอร์ทำได้ไม่เต็มที่ โดยพังผืดจะพบได้บ่อยในหลุมสิวประเภท Box Scar และ Ice Pick Scar
เลเซอร์แก้หลุมสิว
การรักษาหลุมสิวด้วยการเลเซอร์สามารถรักษาหลุมสิวได้ทุกประเภททั้ง Rolling Scar, Box Scar Ice Pick Scar ซึ่งการเลเซอร์หลุมสิวจะใช้พลังงานแสงที่สามารถเปลี่ยนเป็นความร้อนได้ยิงลงไปในบริเวณที่เป็นหลุมสิวหลังจากที่ทำแล้วหลุมสิวจะดูตื้นขึ้น เพราะเลเซอร์เข้าไปกระตุ้นคอลลาเจนให้สร้างผิวใหม่ขึ้นมาแทนหลุมสิว
แต่ควรทำเลเซอร์หลุมสิวติดต่อกันเดือนละครั้งอย่างน้อย 3 ครั้งขึ้นไปถึงจะเห็นผลลัพธ์หลุมสิวว่าตื้นขึ้นอย่างชัดเจน โดยมีเครื่องเลเซอร์อยู่หลายตัวที่สามารถรักษาหลุมสิวได้เช่น Picosecond Laser, Fractional Laser, Q-Ray Laser, IPL
รักษาหลุมสิวด้วย Subcision
Subcision หลุมสิวเป็นวิธีการรักษาหลุมสิวด้วยการใช้เข็มที่มีขนาดเล็กสอดเข้าไปใต้ผิวหนังในบริเวณที่เป็นหลุมสิว จากนั้นเข็มที่สอดเข้าไปจะตัดพังผืดของหลุมสิวให้หลุดออก วิธีการรักษาหลุมสิวนี้จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้
โดยจะเหมาะกับหลุมสิวประเภท Rolling Scar และ Box Scar อีกทั้งยังสามารถทำร่วมกับการเลเซอร์หลุมสิว และฟิลเลอร์หลุมสิวผลลัพธ์ก็จะดีขึ้น เห็นผลลัพธ์ได้ไวขึ้นได้ แต่การรักษาหลุมสิวด้วยวิธี Subcision อาจทำให้เกิดอาการบวมช้ำ มีรอยเขียว และเกิดอาการอักเสบติดเชื้อได้หากดูแลผิวได้ไม่ดีค่ะ
กรอผิวรักษาหลุมสิว
วิธีการกรอผิวรักษาหลุมสิวนั้นจะใช้เกล็ดอัญมณีที่มีขนาดเล็ก และมีความละเอียดมากกรอลงไปในบริเวณที่มีหลุมสิว โดยการกรอผิวจะทำการกรอผิวชั้นหนังกำพร้าออกไป จากนั้นร่างกายจะสร้างผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน ช่วยกระตุ้นคอลลาเจน อีลาสตินในชั้นผิว ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้น แต่จะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนเมื่อทำหลายๆ ครั้งต่อเนื่องกันอย่างน้อย 8 ครั้งขึ้นไป ใช้รักษาได้กับคนที่มีปัญหาหลุมสิวประเภท Rolling Scar และ BoxScar ซึ่งนอกจากจะสามารถรักษาหลุมสิวได้แล้ว ยังช่วยเรื่องรอยสิวเช่นรอยดำให้ดูจางลงได้
Microneedling หลุมสิว
รักษาหลุมสิวด้วย Microneedling เหมาะกับคนที่มีปัญหาหลุมสิวประเภท Rolling Scar และ Box Scar ซึ่งวิธีรักษานั้นจะเป็นการใช้เข็มขนาดเล็กหลายๆ เข็มที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.5 – 2 มิลลิเมตรแทงลงไปในบริเวณที่เป็นหลุมสิวซ้ำหลายๆ ครั้งลงลึกสู่ชั้นผิวประมาณ 1.5 – 2 มิลลิเมตร
ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนสร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมา ทำให้หลุมสิวดูเต็มผิวกลับมาเรียบเนียน หลังจากทำแล้วจะเกิดรอยแดง รู้สึกแสบผิวเล็กน้อย และมีสะเก็ดแผลเล็กๆ ขึ้นมา โดยจะไม่ทิ้งรอยดำเอาไว้ แต่การทำ Microneedling หลุมสิวอาจทำให้เกิดการติดเชื้อใต้ชั้นผิวได้จึงควรดูแลผิวให้ดีหลังจากรักษาหลุมสิวด้วยวิธีนี้ไปแล้ว
ผ่าตัดหลุมสิว
เหมาะสำหรับปัญหาหลุมสิวประเภท Ice Pick Scar ที่เป็นหลุมสิวมีความลึกที่สุกและรักษาได้ยาก และยังสามารถรักษาหลุมประเภท Box Scar ได้ด้วย แต่ต้องมีขนาดหลุมสิวที่กว้างไม่เกิน 3 มิลลิเมตรเพราะถ้ามีขนาดใหญ่จะทำให้เกิดรอยแผลเป็น และแผลไม่สวยได้
ซึ่งวิธีการผ่าตัดหลุมสิวนั้นเป็นการสร้างแผลใหม่ขึ้นมาเพื่อกระตุ้นคอลลาเจน สร้างเนื้อเยื่อขึ้นมาใหม่กลายเป็นผิวที่เรียบเนียนขึ้น โดยจะผ่าผิวบริเวณที่เป็นหลุมสิวออกไปจากนั้นดึงผิวมาให้ชิดกันเพื่อเย็บปิด หลังจากผ่าตัดรักษาหลุมสิวเสร็จแล้วควรหลีกเลี่ยงแสงแดด ดูแลแผลให้ดีไม่ให้โดนน้ำในสัปดาห์แรก และแผลจะค่อยๆ หายรอยแผลดีขึ้นซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 เดือน
ใช้สกินแคร์รักษาหลุมสิว
สกินแคร์ที่สามารถรักษาหลุมสิวได้จะเป็นสกินแคร์ประเภทผลัดเซลล์ผิว เพราะการผลัดเซลล์ผิวจะช่วยลอกผิวชั้นนอกออกกระตุ้นคอลลาเจนทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้โดยสามารถการผลัดเซลล์ผิวได้สามระดับดังนี้
-
ระดับหนังกำพร้า
เหมาะสำหรับรักษาหลุมสิวแบบ Rolling Scar และ Box Scar ที่ไม่ลึกมาก โดยสกินแคร์ที่ใช้ผลัดเซลล์ผิวชั้นนี้ควรมีส่วนผสมของ AHA, BHA, Glycolic Acid, Salicylic Acid, Retinoid
-
ระดับหนังแท้ชั้นตื้น
เหมาะสำหรับรักษาหลุมสิวแบบ Box Scar และ Ice Pick Scar โดยสกินแคร์ที่ใช้ผลัดเซลล์ผิวชั้นนี้ควรมีส่วนผสมของ Trichloroacetic acid
-
ระดับหนังแท้ชั้นลึก
เหมาะสำหรับรักษาหลุมสิวแบบ Ice Pick Scar ที่มีความลึกมาก โดยสารที่สามารถใช้ผลัดเซลล์ผิวในชั้นนี้ได้จะเป็นสาร Phenol ที่ค่อนข้างแรงทำได้เฉพาะกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิวถึงแม้จะช่วยให้หลุมสิวตื้นขึ้น ผิวเรียบเนียนได้ แต่ไม่ควรใช้บ่อยๆ มากกว่า 2 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะอาจทำให้ผิวแห้งลอก ผิวบาง ผิวอ่อนแอมากขึ้นกว่าเดิม และเกิดเป็นประเภทสิวหลายๆ ประเภทตามมาได้
สรุป
วิธีรักษาหลุมสิวมีด้วยกันอยู่หลายวิธีซึ่งแต่ละวิธีจะมีการรักษาที่แตกต่างกันออกไปขึ้น และรักษาประเภทหลุมสิวได้ไม่เหมือนกัน ดังนั้นควรเลือกวิธีรักษาหลุมสิวให้เหมาะกับหลุมสิวที่เป็นอยู่เพื่อให้หลุมสิวตื้นขึ้นเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนค่ะ