ประเภทรอยสิวมีกี่แบบ เป็นแบบไหนบ้าง

รอยสิวที่เกิดขึ้นหลังจากเป็นสิวมีอยู่ด้วยกันหลายประเภทรอยสิว ไม่ได้มีอยู่แค่แบบเดียวซึ่งหลายๆ คน อาจจะไม่รู้มาก่อน ดังนั้นในบทความนี้หมอจะมาแนะนำเกี่ยวกับประเภทรอยสิวว่ามีกี่ประเภท แต่ละประเภทเป็นแบบไหน มีลักษณะเป็นอย่างไรค่ะ

ประเภทรอยสิวแบบรอยดำ

เป็นประเภทรอยสิวที่เกิดได้จากปัญหาสิวอักเสบ สิวอุดตัน หรือการรักษาสิวด้วยวิธีที่ไม่ถูกต้องอย่างการแกะ หรือบีบสิวทำให้เกิดการระคายเคืองของผิวกลายเป็นแผลและตกสะเก็ด และเข้าไปกระตุ้นให้เมลาโนไซต์ (Melanocytes) ที่เป็นเซลล์ทำหน้าที่ในการผลิตเมลานินผลิตเม็ดสีเมลานินออกมามากกว่าปกติ จนเกิดรอยสิวขึ้นมาทำให้สีผิวไม่สม่ำเสมอ ซึ่งประเภทรอยสิวแบบรอยดำนั้นมีลักษณะเป็นจุดสีเข้มตั้งแต่สีน้ำตาลไปจนถึงดำเป็นรอยที่เห็นได้ง่าย

ประเภทรอยสิวแบบรอยดำ

โดยประเภทสิวแบบรอยดำนั้นมักจะพบได้บ่อยในคนที่ผิวมีสีเข้ม เนื่องจากเซลล์เมลาโนไซต์ที่อยู่ใต้ผิวหนังจะสร้างเม็ดสีเมลานินให้กับคนที่มีผิวเข้ม ผิวคล้ำได้มากกว่าคนที่ผิวขาวค่ะ แต่รอยดำนั้นสามารถหายไปเองตามธรรมชาติได้ไม่ได้อยู่บนผิวอย่างถาวร ซึ่งจะค่อยๆ จางลงเรื่อยๆ จนกลับมาเป็นสีผิวเดิมแต่ใช้ระยะเวลานานประมาณ 4 6 เดือน หากอยากให้รอยดำหายไปจากผิวไวกว่านี้ต้องทำการรักษารอยสิวด้วยวิธีรักษารอยสิวอย่างถูกต้องค่ะ

ประเภทรอยสิวแบบรอยแดง

เป็นรอยสิวที่เกิดได้จากการที่มีปัญหาสิวอุดตัน สิวอักเสบ และการเอามือไปบีบสิว แกะสิว ซึ่งเป็นวิธีการรักษาสิวที่ผิดวิธีและไม่ควรทำเพราะสามารถทำให้สิวอักเสบมากขึ้นได้ด้วย โดยประเภทรอยสิวแบบรอยแดงมีลักษณะเป็นจุดสีแดง ม่วง หรือชมพูได้ เพราะร่างกายพยายามฟื้นฟูผิว รักษาสิว ลดการอักเสบของสิวให้หายด้วยการทำให้เส้นเลือดใต้ชั้นผิวขยายตัวเพื่อกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้ง่ายมากขึ้นจึงทำให้เป็นรอยแดงขึ้นมาบนผิวให้เห็น และมักจะพบรอยแดงได้มากในคนที่มีผิวขาว หากเป็นคนที่มีผิวสีเข้มจะพบรอยแดงได้ยากกว่า

ประเภทรอยสิวแบบรอยแดง

รอยแดงสามารถหายไปเองตามธรรมชาติได้เหมือนกับประเภทรอยสิวแบบรอยดำ โดยจะใช้ระยะเวลาในการให้ผิวกลับมาเป็นแบบเดิมไร้รอยแดงประมาณ 2 4 เดือน ซึ่งเป็นระยะเวลาที่เร็วที่สุดในทุกประเภทรอยสิวแล้ว แต่ถ้าหากอยากให้รอยแดงหายไปจากผิวไวกว่านี้ก็ควรรักษารอยสิวด้วยวิธีการต่างๆ อย่างถูกวิธีค่ะ

ประเภทรอยสิวแบบหลุมสิว

เป็นรอยสิวที่เกิดได้จากสิวอักเสบชนิดรุนแรงอย่างสิวหัวช้างเนื่องจากการอักเสบลงลึกจนถึงผิวชั้นลึกจนเมื่อร่างกายรักษาสิวให้หาย พยายามทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียนแบบเดิมได้ยากเพราะคอลลาเจนในผิวหนังที่ใช้ซ่อมแซมผิวไม่เพียงพอ หรือมีการบาดเจ็บอยู่ลึกมากทำให้เกิดเป็นหลุมสิวขึ้นมาหลังจากที่สิวหายไปแล้ว ซึ่งหากเป็นรอยสิวแบบหลุมสิวต้องทำการรักษาให้หายได้อย่างเดียวหลุมสิวไม่สามารถหายได้เองตามธรรมชาติได้ โดยประเภทรอยสิวแบบหลุมสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 รูปแบบดังนี้

ประเภทรอยสิวแบบหลุมสิว
  • หลุมสิวแบบ Rolling Scar

เป็นหลุมสิวที่มีระดับความรุนแรงน้อยที่สุด มีความกว้างประมาณ 4 – 5 มิลลิเมตร หลุมสิวชนิดนี้มีลักษณะวงกลม หรือวงรี เห็นขอบหลุมสิวไม่ชัด หลุมสิวลึกลงไปในผิวเป็นแบบแอ่งกระทะ แต่ไม่ลึกมากค่อนข้างตื้นเป็นหลุมสิวที่มีระดับความลึกน้อยกว่าชนิดอื่น และรักษาให้หายได้ง่ายที่สุด

  • หลุมสิวแบบ Boxcar Scar

    เป็นหลุมสิวที่มีระดับความรุนแรงปานกลาง มีความกว้างประมาณ 3 – 4 มิลลิเมตร หลุมสิวชนิดนี้มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยม เห็นขอบหลุมสิวชัดเจน หลุมสิวลึกลงไปในผิวเป็นแบบกล่องสี่เหลี่ยม แต่หลุมสิวยังไม่ลงไปลึกมากถึงผิวชั้นรูขุมขน ยังสามารถรักษาหลุมสิวชนิดนี้ให้หายได้ง่ายกว่าหลุมสิวแบบ Ice Pick Scar

  • หลุมสิวแบบ Ice Pick Scar

    เป็นหลุมสิวที่มีระดับความรุนแรงมากที่สุด มีความกว้างน้อยกว่า 2 มิลลิเมตร ลักษณะของหลุมสิวเป็นแบบปากหลุมสิวแคบ สามารถเห็นขอบหลุมสิวได้ชัดเจน ลงลึกลงไปในชั้นผิวเป็นรูปตัววี หรือรูปกรวยจนถึงชั้นรูขุมขน จึงรักษาได้ยากกว่าหลุมสิวชนิดอื่นๆ และใช้เวลาในการรักษาให้หลุมสิวชนิดนี้หายค่อนข้างนาน

สรุป

ประเภทรอยสิวมีด้วยกันทั้งหมดอยู่ 3 ประเภทคือ รอยดำ รอยแดง และหลุมสิว ซึ่งรอยสิวแต่ละแบบก็มีลักษณะรอยสิว การเกิดของรอยสิวที่แตกต่างกันออกไปบางชนิดอาจหายได้เองตามธรรมชาติ แต่บางชนิดไม่สามารถหายเองตามธรรมชาติได้ และมีวิธีการรักษาตั้งแต่ระดับที่รักษาได้ง่ายไปจนถึงรักษายากค่ะ

ทีมแพทย์พัชชาคลินิก

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพของเว็บไซต์ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ โดยการเข้าใช้งานเว็บไซต์นี้ถือว่าท่านได้อนุญาตให้เราใช้คุกกี้ตาม นโยบายคุกกี้ของเรา อ่านเพิ่มเติม

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save