Radiesse ผลิตภัณฑ์จากประเทศสหรัฐอเมริกาที่คล้ายกับฟิลเลอร์ แต่ยังมีคุณสมบัติสามารถฟื้นฟูผิว ปรับโครงสร้างผิวให้ดีขึ้นได้หลังฉีด ในบทความนี้หมอจะพาทุกคนมารู้จักกับ Radiesse ตั้งแต่ส่วนประกอบ ไปจนถึงผลลัพธ์ และราคาค่ะ
Radiesse คืออะไร
Radiesse คือ Regenerative Biostimulator สารกระตุ้นฟื้นฟูสภาพผิวที่อยู่ในประเภทฟิลเลอร์ แต่มี Calcium Hydroxylapatite Microsphere (CaHA) เป็นส่วนประกอบหลักแทนไฮยาลูรอนิก ซึ่งเป็นแคลเซียมที่มีในร่างกายอยู่แล้ว มีโครงสร้างเป็นทรงกลม อนุภาคขนาด 24 – 25 ไมครอน Radiesse ได้สังเคราะห์สารนี้ขึ้นมาใช้มาอย่างยาวนานตั้งแต่ปี 2006 คิดค้นโดยบริษัท Merz Aesthetics ซึ่งเป็นผู้นำเข้า และจัดจำหน่ายในไทยด้วยค่ะ
Radiesse มาในรูปแบบหลอดไซริงค์เหมือนกับฟิลเลอร์ ใน 1 หลอดมีปริมาณ 1.5 cc ในปัจจุบันมีอยู่ทั้งหมด 2 รุ่น คือ Radiesse และ Radiesse Plus ต่างกันดังนี้
- Radiesse Classic ไม่มีส่วนผสมยาชา ช่วยยกกระชับผิว กระตุ้นคอลลาเจน ผิวอิ่มฟูขึ้นหลังฉีด โดยจะฉีดเข้าไปที่ผิวชั้นหนังแท้ทั่วๆ ใบหน้า
- Radiesse Plus มีส่วนผสมยาชา เน้นฉีดเฉพาะจุดในบริเวณโหนกแก้ม กรอบหน้า ขมับ ร่องแก้ม ช่วยยกกระชับกรอบหน้าให้ชัดขึ้น
Radiesse ช่วยอะไร
การฉีด Radiesse สามารถช่วยฟื้นฟูได้หลายอย่างดังนี้
-
ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type I 150% ซึ่งจะเพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ช่วยสมานแผล และเพิ่มความชุ่มชื้น ผิวเรียบเนียน เป็นคอลลาเจนหลักที่ทำให้ผิวแข็งแรง
-
ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน Type III 130% ช่วยเพิ่มเนื้อเยื่อ ผิวกระชับขึ้น ปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรง
- ช่วยกระตุ้นการสร้างอีลาสติน 260% เพิ่มความยืดหยุ่นของผิวทำให้เกิดริ้วรอยได้ยากขึ้น
- ช่วยเพิ่ม โปรติโอไกลแคน (Proteoglycan) ซึ่งเป็นน้ำหล่อเลี้ยงผิวที่ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น
- ช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ (Angiogenesis) ทำให้เลือดไหลเวียนได้ดี มีสารอาหารไปเลี้ยงผิว ช่วยให้ผิวสุขภาพดีมีเลือดฝาด
ซึ่งหลักการทำงานของ Radiesse หลังจากที่ฉีดไปแล้วตัวยาจะไม่สร้างการอักเสบ และเข้าไปกระตุ้นการทำงานของ Fibroblasts ที่เป็นต้นกำเนิดการผลิตคอลลาเจน อีลาสติน จากนั้น CaHA จะก่อโครงสร้างกระตุ้นให้ผลิตคอลลาเจนรอบๆ โครงสร้าง
โดย Radiesse สามารถฉีดได้หลายบริเวณดังนี้
- มือ
- หน้าแก้ม
- กรอบหน้า
- ร่องแก้ม
- ร่องน้ำหมาก
- คอ
- หน้าอก
ถ้ามีปัญหาริ้วรอยบริเวณใต้ตา หรือระหว่างคิ้ว ไม่แนะนำให้ฉีด Radiesse แนะนำให้ฉีดเป็นฟิลเลอร์ใต้ตา หรือผลิตภัณฑ์ตัวอื่นที่สามารถฉีดบริเวณใต้ตาได้จะเหมาะกว่าค่ะ
Radiesse อันตรายไหม
Radiesse มีความปลอดภัยสูงเพราะเป็นสารที่สามารถพบได้ในเนื้อเยื่อกระดูก และฟัน ทำให้สารนี้เกิดอาการอักเสบหลังฉีดน้อยมากค่ะ และมีความปลอดภัยสูงได้รับการรับรองจากอย.อเมริกา (USFDA) ยุโรป (CE Mark) และไทย (THFDA)
Radiesse เหมาะกับใคร
- คนที่มีปัญหาริ้วรอยร่องลึก เช่น ร่องแก้ม ร่องน้ำหมาก
- คนที่มีผิวขาดคอลลาเจน ผิวหย่อนคล้อย
- คนที่รูขุมขนกว้าง ผิวขาดความชุ่มชื้น
- คนที่มีรอยแผลเป็น มีปัญหาหลุมสิว
- คนที่บริเวณมือ คอ หน้าอก มีริ้วรอยผิวหย่อนคล้อย
- คนที่ต้องการเพิ่มความชัดของกรอบหน้า
Radiesse ข้อดี – ข้อเสีย
ข้อดีของ Radiesse
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และอีลาสติน
- ลดริ้วรอยตื้นๆ และริ้วรอยลึกได้
- ยกกระชับผิวให้เต่งตึง กระชับมากขึ้น
- ช่วยกระชับรูขุม
- ทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้น
- ไม่เกิดการอักเสบใต้ผิว
- ไม่ต้องพักฟื้นหลังทำ
ข้อเสียของ Radiesse
- ไม่เหมาะสำหรับฉีดบริเวณใต้ตา ปาก ระหว่างคิ้ว
- อาจมีรอยเขียวช้ำจากเข็มเล็กน้อย
-
อาจมีรอยนูนที่เกิดจากแคลเซียมที่ผสมอยู่ในตัวยาได้ หากมีวิธีการฉีดที่ไม่เชี่ยวชาญ
- ราคาค่อนข้างสูง
Radiesse ต้องฉีดกี่ครั้ง
แนะให้ฉีด Radiesse 1 ครั้ง โดยใช้ปริมาณ 1 – 2 cc ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์หลังฉีดทันทีว่าริ้วรอยดูจางลง จากนั้นจะเริ่มสร้างคอลลาเจน อีลาสตินใต้ชั้นผิวทำให้ผิวอิ่มฟูขึ้น โดยผลลัพธ์สามารถอยู่ได้นาน 1 – 2 ปี
ซึ่ง Radiesse มีวิธีฉีดด้วยกัน 2 วิธีดังนี้
- Non Diluted ฉีดแบบฟิลเลอร์ โดยจะเน้นไปที่ฉีดเพื่อสร้างโครงหน้า ความคมชัดของใบหน้า ไม่ได้เน้นไปที่การกระตุ้นคอลลาเจน โดยจะฉีดเฉพาะจุด เช่น กรอบหน้า โหนกแก้ม
- Diluted ฉีดแบบผสมน้ำเกลือ จะเป็นการเน้นกระตุ้นคอลลาเจนเป็นวงกว้าง สามารถฉีดได้ทั่วใบหน้า หรือฉีดเพื่อกระตุ้นคอลลาเจนเฉพาะจุดได้ แต่ถ้าผสมจนเจือจางเกินไปอาจไม่เห็นผลลัพธ์หลังฉีด
Radiesse ราคาเท่าไร
ราคาของ Radiesse จะอยู่ที่ประมาณ 30,000 บาท โดยราคาจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของคลินิก ถ้าหากเจอ Radiesse ที่มีราคาถูกมากเกินไปให้ระวังก่อนที่จะตัดสินใจฉีด เพราะอาจเป็นของปลอมได้เมื่อฉีดไปแล้วอาจเกิดผลข้างเคียงได้ จึงควรเช็คว่าเป็น Radiesse ของแท้ดังนี้
- กล่องต้องไม่เคยเปิด มีการใช้งานมาก่อน
- มีเอกสารกำกับภาษาไทยและเลขทะเบียน อย. ข้างกล่อง
- มี QR code สำหรับสแกนตรวจสอบของแท้ โดยเลขบนกล่อง และในข้อมูลที่สแกนต้องตรงกัน
- มีสติกเกอร์ Certified Injector จาก Merz Aesthetics ที่หน้าคลินิก
- ได้รับ Radiesse Club Card หลังจากฉีดเสร็จ
- สามารถตรวจสอบคลินิกที่มีการใช้ Radiesse ของแท้ได้ที่ www.merzaesthetics.co.th
สรุป
Radiesse ช่วยปรับสภาพผิวจากโครงสร้างผิวชั้นลึก กระตุ้นคอลลาเจน อีลาสตินในชั้นผิว ซึ่งจะช่วยลดริ้วรอยร่องลึก และยกกระชับผิวได้ด้วย โดยสามารถเห็นผลลัพธ์หลังฉีดทันทีว่าริ้วรอยตื้นขึ้น และสร้างคอลเจนที่ทำให้ผิวดูเด็กลงซึ่งผลลัพธ์อยู่ได้นานถึง 2 ปี