ฉีดโบท็อกซ์แล้วหนังตาตก อันตรายไหม แก้ไขได้อย่างไร

ฉีดโบท็อกซ์หนังตาตกเกิดจากอะไร

ฉีดโบท็อกซ์แล้วหนังตาตก คืออาการที่เปลือกตาเปิดขึ้นไม่สุดหลังจากฉีดโบท็อกซ์ มักพบในคนที่ฉีดโบท็อกซ์บริเวณหน้าผาก ระหว่างคิ้ว และตีนกา สามารถแยกได้เป็น 2 กรณีค่ะ กรณีแรกคือเกิดจากคิ้วตก เลิกคิ้วไม่ขึ้นจากการฉีดโบท็อกซ์บริเวณหน้าผากเยอะเกินไป ทำให้รู้สึกหนักตา จนดูเหมือนตาตก

กรณีที่สองคือหนังตาตกจริงๆ โดยเปลือกตามีลักษณะปิดลงบดบังการมองเห็น อาจเกิดขึ้นข้างเดียวหรือทั้ง 2 ข้างก็ได้ โดยสาเหตุที่แท้จริงอาจเกิดจากปัจจัยดังต่อไปนี้

• ฉีดโบท็อกซ์ผิดตำแหน่ง ทำให้โบท็อกซ์เข้าไปในกล้ามเนื้อที่ใช้เปิดปิดตา ส่งผลให้กล้ามเนื้อทำงานไม่เต็มที่ จนเกิดอาการหนังตาตก
• ฉีดโบท็อกซ์ปลอม หรือโบท็อกซ์ที่ไม่มีมาตรฐาน เนื่องจากโบท็อกซ์เหล่านี้มีการเก็บรักษาที่ผิดวิธี หรือการผลิตไม่ได้มาตรฐานตั้งแต่ต้น ทำให้เมื่อฉีดไปแล้วโบท็อกซ์ออกฤทธิ์ผิดพลาด
• โบท็อกซ์แท้ที่ผสมน้ำเกลือเยอะเกินไป ก่อนฉีดโบท็อกซ์ต้องทำการเจือจางตัวยาด้วยน้ำเกลือเพื่อนำมาฉีดเข้ากล้ามเนื้อ โดยหากมีปริมาณน้ำเกลือที่เยอะเกิน จะทำให้ควบคุมบริเวณกระจายตัวได้ยาก อาจทำให้โบท็อกซ์ออกฤทธิ์ในจุดที่ไม่ต้องการ
• การดูแลที่ผิดวิธีหลังฉีดโบท็อกซ์ เช่น มีการนวดคลึง สัมผัสบริเวณฉีดโบท็อกซ์ หรือการนอนราบ นอนตะแคง อาจทำให้โบท็อกซ์ไหลไปยังบริเวณที่ไม่ต้องการได้เช่นกัน

วิธีแก้ไขหลังฉีดโบท็อกซ์หนังตาตก

• รอให้โบท็อกซ์สลายไปเอง โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 4 – 6 เดือน ดวงตาจะกลับมาเป็นปกติ
• ใช้การประคบร้อน ทำซาวน่า หรือการอบไอน้ำ จะทำให้โบท็อกซ์สลายเร็วขึ้น
• การทำหัตถการกลุ่มเครื่องยกกระชับที่เกิดความร้อนบริเวณผิว เช่น Ulthera,  Ultraformer, Hifu หรือ Thermage
• การใช้ยาหยอดตาเพื่อทำให้กล้ามเนื้อตาทำงานได้ดีขึ้น โดยสามารถช่วยได้ชั่วคราว ระหว่างรอให้โบท็อกซ์สลาย