ดวงตาเป็นจุดแรกๆ ที่จะแสดงริ้วรอยให้เห็น ดังนั้นการมีตีนกาจึงเป็นเรื่องปกติหากมีอายุที่มากขึ้น แต่ถ้าใครที่กำลังกังวลกับรอยตีนกาและอยากแก้ไขปัญหานี้เพราะรู้สึกไม่มั่นใจ บทความนี้รวมวิธีแก้ไข และการป้องกันริ้วรอยตีนกามาให้แล้วค่ะ
ตีนกาคืออะไร
ตีนกาเป็นรอยย่นที่อยู่ตรงหางตาเป็นขีดเล็กๆ หลายเส้น ที่เรียกว่าตีนกาก็เพราะว่ามีลักษณะคล้ายกับเท้าของอีกา เป็นริ้วรอยที่จะเกิดขึ้นตามธรรมชาติเนื่องจากผิวบริเวณดวงตาบางกว่าส่วนอื่นของใบหน้าถึง 40 เปอร์เซ็นต์ จึงทำให้เป็นจุดที่เกิดริ้วรอยได้ง่าย อีกทั้งร่างกายของเรามีการกระพริบตาประมาณ 15 – 20 ครั้งต่อนาที กล้ามเนื้อดวงตาจึงมีใช้งานอยู่ตลอดเวลา การมีริ้วรอยรอบดวงตาอย่างเช่นตีนกาจึงเป็นเรื่องปกติไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ โดยตีนกาสามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
- ริ้วรอยตีนกาขณะแสดงสีหน้า จะเกิดริ้วรอยตีนกาเมื่อขยับใบหน้าสีแสดงอารมณ์ต่างๆ บนใบหน้า เมื่ออายุมากขึ้นการคืนตัวของผิวหนังจะน้อยลง ทำให้ริ้วรอยประเภทนี้สามารถพัฒนาเป็นริ้วรอยตีนกาแบบถาวรได้
- ริ้วรอยตีนกาแบบถาวร เกิดจากความหย่อนคล้อยจากโครงสร้างผิวหนังเมื่ออายุมากขึ้น หรือเคยมีริ้วรอยตีนกาขณะแสดงสีหน้ามาก่อนมาก่อนแต่ไม่รับการดูแลรักษาเกิดกลายเป็นริ้วรอยตีนกาแบบถาวรอยู่บนผิวหนังชั้นแท้ แม้ไม่ได้แสดงสีหน้าก็สามารถเห็นริ้วรอยตีนกาได้
รอยตีนกาเกิดจากอะไร
ตีนกาจะเริ่มมีเมื่ออายุเข้าสู่ช่วงอายุ 30 ปีขึ้นไป แต่รอยตีนกาอาจจะมีก่อนหรือช้ากว่าอายุ 30 ได้ขึ้นอยู่กับการดูแลผิวรอบดวงตาและกิจวัตรประจำวันของแต่ละคน โดยสาเหตุที่ทำให้เกิดรอยตีนกามีดังนี้
- อายุมากขึ้น ในผิวหนังจะมีคอลลาเจนและอีลาสตินอยู่ซึ่งเป็นตัวที่ทำให้ผิวมีความชุ่มชื้น ยืดหยุ่นแข็งแรง เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะค่อยๆ สูญเสียคอลลาเจนและอีลาสตินไป ผิวหนังจึงขาดความแข็งแรง ชุ่มชื้น และไม่ยืดหยุ่นเหมือนเดิม เกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะบริเวณดวงตาที่บอบบางกว่าบริเวณอื่นเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดตีนกา
- การแสดงสีหน้า บริเวณรอบดวงตาเป็นจุดที่แสดงสีหน้าบ่อยที่สุด ไม่ว่าจะเป็นตอนหัวเราะ ดีใจ โกรธ หรือร้องไห้ เราจะแสดงสีหน้าบริเวณรอบๆ ดวงตาเป็นหลัก เมื่อมีการขยับบ่อยๆ ก็จะเกิดรอยตีนกาขึ้นมา
- แสงแดด ในแสงแดดมีรังสี UV อยู่ซึ่งเป็นตัวทำลายสภาพผิวให้ผิวดำคล้ำ แห้งเสีย เป็นตัวเร่งที่ทำให้ผิวเสื่อมสภาพก่อนวัย เมื่อผิวเสื่อมสภาพก็จะเกิดริ้วรอยตีนกาได้ง่ายขึ้น
- กิจวัตรประจำวัน วิธีการใช้ชีวิตของแต่ละคนก็มีส่วนที่ทำให้เกิดรอยตีนกา อย่างเช่น ล้างหน้าแรงๆ ขยี้ตาบ่อย และการสูบบุหรี่ก็มีส่วนเพราะบุหรี่เป็นตัวเร่งให้ผิวเสื่อมสภาพก่อนวัย
โบท็อกซ์ตีนกา
การฉีดโบท็อกซ์ตีนกาสามารถลดริ้วรอยตีนกาได้ โดยจะฉีดโบท็อกซ์ไปที่บริเวณหางตาเพื่อคลายกล้ามเนื้อที่หดเกร็งจนเป็นริ้วรอยตีนกาชั่วคราว ทำให้ตีนกาลดน้อยลง และตื้นขึ้น หางตาตึงขึ้น แต่ไม่สามารถลดริ้วรอยตีนกาแบบถาวรได้ นอกการจะลดริ้วรอยตีนกาจากการแสดงสีหน้าได้แล้วยังช่วยป้องกันตีนกาที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้
โบท็อกซ์สามารถอยู่ได้นานประมาณ 4 – 6 เดือนขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกซ์ที่ใช้ สามารถกลับมาฉีดซ้ำหลังจากโบท็อกซ์สลายไปเพื่อคงผลลัพธ์ไว้ จะเริ่มเห็นผลลัพธ์ชัดเจนริ้วรอยตีนกาลดน้อยลงเมื่อผ่านไปประมาณ 1 สัปดาห์หลังฉีดโบท็อกซ์
ฉีดฟิลเลอร์ลดริ้วรอยตีนกา
ร้อยไหมลดริ้วรอยตีนกา
การร้อยไหมสามารถแก้ไขริ้วรอยตีนกาแบบถาวรที่เกิดจากผิวขาดคอลลาเจนได้ โดยการร้อยไหมสามารถแก้ไขริ้วรอยตีนกาได้ 2 วิธี คือ
1. การใช้ไหมมีเงี่ยงยกกระชับผิวช่วงหางตา ให้ตึงกระชับ เมื่อผิวตึงขึ้น รอยตีนกา ร่องลึก รอยพับ จะดูดีขึ้น เนื่องจากผิวบริเวณนั้นตึงขึ้น
2. ร้อยไหมเข้าไปในชั้นหนังแท้เพื่อกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว เมื่อเกิดการสร้างคอลลาเจนขึ้นจะทำให้ผิวฟู เรียบเนียน ริ้วรอยตีนกาจึงดูจางลง
เมโสกระตุ้นคอลลาเจนลดรอยตีนกา
การฉีดเมโสจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนที่ลดน้อยลงจากอายุมากขึ้น ผิวเสื่อมสภาพสร้างมากขึ้น อย่างเช่น การฉีด Gouri ที่เป็นสารกระตุ้นคอลลาเจนในรูปแบบ Liquid PCL ที่เป็นของเหลวแบรนด์แรก ฉีดเข้าไปใต้ชั้นผิวที่มีปัญหาแก้ริ้วรอยที่เหี่ยวย่นได้ ช่วยให้ชั้นผิวมีความยืดหยุ่นมากกว่าปัจจุบัน แก้ปัญหาริ้วรอยที่โบท็อกซ์ไม่สามารถแก้ได้เช่น ริ้วรอยตีนกาแบบถาวร สามารถอยู่ได้นานประมาณ 6 – 12 เดือน
แก้ตีนกาด้วยเลเซอร์
เลเซอร์จะเป็นการยิงพลังงานความร้อนลงบนผิวหลายๆ ครั้ง จนไปถึงผิวหนังชั้นแท้เมื่อยิงไปแล้วจะเป็น เห็นผลได้ดีกับริ้วรอยตีนกาแบบถาวร เลเซอร์บางชนิดสามารถช่วยกระชับให้ผิวดูตึงกระชับ การเลเซอร์ยังช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวอีกด้วย
การแก้ปัญหาริ้วรอยตีนกาด้วยเลเซอร์นั้นสามารถทำได้ แต่เห็นผลลัพธ์ช้าและต้องทำซ้ำๆ เป็นประจำต่อเนื่องกัน 3 – 4 ครั้งขึ้นไป ผิวอาจไหม้ได้ถ้าทำกับเครื่องที่ไม่ได้คุณภาพมีมาตรฐาน และแพทย์เชี่ยวชาญไม่เพียงพอ
ลดรอยตีนกาด้วยการทาครีม
ลดตีนกาด้วยการทาครีมเป็นวิธีง่ายๆ ที่ทำได้ทุกคนสำหรับคนที่ไม่มีเวลาเข้าคลินิก ควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของ Retinol เป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยลดริ้วรอยและชะลอการเกิดริ้วรอยได้ นอกจากนี้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลัดเซลล์มีส่วนประกอบ เช่น AHA , Glycolic Acid และ Lactic Acid ก็สามารถลดริ้วรอยได้ แต่การลดรอยตีนกาด้วยการทาครีมนั้นใช้เวลานานต้องทาครีมอย่างเป็นประจำในทุกๆ วัน และไม่สามารถลดริ้วรอยตีนกาแบบถาวรได้
วิธีป้องกันริ้วรอยตีนกา
เราควรปกป้องผิวบริเวณรอบรอบตาให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดริ้วรอยตีนกาขึ้นมา เพราะถ้าเกิดริ้วรอยขึ้นมาแล้วต้องใช้เวลาและใช้เงินในการแก้ไข ดังนั้นควรป้องกันก่อนที่จะเกิดริ้วรอยตีนกาค่ะ
- ทาครีมกันแดด ควรทาครีมกันแดดทุกวันให้ทั่วใบหน้า และรอบดวงตาเพื่อป้องกันรังสี UV จากแสงแดดมาทำลายสภาพผิวจนเกิดเป็นริ้วรอยตีนกา
- ไม่สูบบุหรี่ การสูบบุหรี่กระตุ้นให้ร่างกายผลิตสารอนุมูลอิสระเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดริ้วรอยต่างๆ บนใบหน้า เร่งให้สภาพผิวหน้าเสื่อมก่อนวัยคอลลาเจนและอีลาสตินถูกทำลาย
- เติมผิวให้ชุ่มชื้น บำรุงผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ เพราะการที่ผิวแห้งทำให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายยิ่งเป็นบริเวณตาต้องดูแลให้ชุ่มชื้นเป็นอย่างดีด้วยการ มาส์กหน้า ทามอยส์เจอไรเซอร์ ว่านหางจระเข้
- ทานอาหารที่มีประโยชน์ หากเลือกรับประทานอาหารที่ดีร่างกายก็จะดีไปด้วย อย่างการกินถั่วเหลืองสามารถช่วยเรื่องแสงแดดและกระชับผิวได้ โกโก้มีสารต้านอนุมูลอิสสระ
สรุป
ควรป้องกันรอบดวงตาให้ดีเนื่องจากเป็นบริเวณที่บางกว่าบริเวณอื่น ทำให้เกิดริ้วรอยตีนกาได้ง่ายสามารถป้องกันด้วยการทาครีมกันแดด บำรุงให้ชุ่มชื้นไม่ให้แห้ง แต่ถ้าหากมีริ้วรอยตีนกาแล้วก็ไม่ต้องกังวลไปเพราะมีวิธีรักษาริ้วรอยตีนกาหลากหลายแบบให้เลือกขึ้นอยู่กับความลึกตื้นของตีนกาว่าเป็นแบบไหน ถ้าตัดสินใจไม่ได้ว่าแก้ไขปัญหาตีนกาด้วยวิธีไหนสามารถเข้ามาปรึกษาหมอก่อนทำได้ค่ะ
