ปัญหาเหนียงย้อย คางสองชั้น ทำให้หลายคนกำลังตามหาวิธีลดเหนียง ซึ่งวิธีลดเหนียงมีให้เลือกหลายวิธีเลยค่ะ แต่เหนียงที่เราเห็นนั้นเกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนั้นการที่จะลดเหนียงแล้วเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนต้องแก้ให้ตรงกับสาเหตุของการเกิดเหนียง โดยบางท่านอาจต้องทำหลายวิธีร่วมกันแล้วถึงจะเห็นผลที่ชัดเจน ใครที่อยากบอกลาเหนียง คางสองชั้น ต้องอ่านเลยค่ะว่าปัญหาเหนียงของเราจะเหมาะกับวิธีไหนบ้าง
เหนียง คืออะไร เกิดจากอะไร
เหนียง คือ ลักษณะถุงไขมันบริเวณใต้คาง ทำให้เห็นเป็นเหมือนคางสองชั้น(double chin) เกิดจากการสะสมของไขมันในบริเวณดังกล่าว ซึ่งอาจเกิดร่วมกับความหย่อนคล้อยของผิวหนังตามช่วงวัย สามารถพบได้ทุกช่วงวัย ทั้งเพศชายและเพศหญิง เหนียงไม่ได้บ่งบอกถึงการเป็นโรคแต่อย่างใดค่ะ เพียงแค่เป็นสิ่งที่สร้างความไม่มั่นใจให้กับเรา ทำให้กรอบหน้าดูไม่คมชัดเพียงเท่านั้น
นอกจากนั้นพฤติกรรมต่างๆก็มีผลกับการเกิดเหนียงด้วย ได้แก่ การรับประทานอาหารเยอะไม่ออกกำลังกาย, พฤติกรรมที่ชอบก้มพับคออยู่เสมอ เช่น การนอนเล่นโทรศัพท์เป็นเวลานาน เป็นต้น รวมไปถึงบางคนเกิดจากกรรมพันธุ์ค่ะ
เมโสแฟตเหนียง
การฉีดแฟตเหนียง เป็นวิธีลดเหนียงยอดฮิตอันดับต้นๆ เลยค่ะ เพราะเป็นวิธีช่วยสลายไขมันได้อย่างตรงจุด โดยการฉีดเมโสแฟต จะเป็นการฉีดตัวยาที่มีสารสกัดจากธรรมชาติเข้าไปช่วยสลายไขมันส่วนเกินบริเวณใต้คาง ที่เป็นตัวการที่ทำให้เกิดเหนียง คางสองชั้น
ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมในปริมาณน้อย – ปานกลาง โดยหลังฉีดเสร็จจะเห็นผลลัพธ์ที่ประมาณ 20-30% ควรมีการกลับมาฉีดซ้ำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งต้องกี่ครั้งถึงเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนนั้น ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันสะสมบริเวณใต้คางของแต่ละบุคคลค่ะ
ร้อยไหมเหนียง
การร้อยไหมเหนียง เป็นการใส่ไหมเข้าไปยังชั้นไขมันใต้ผิวบริเวณที่มีเหนียง โดยไหมจะช่วยดึงยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยขึ้น หลังร้อยเหนียงจะดูกระชับ กรอบหน้าดูชัดขึ้น เห็นผลลัพธ์ได้ทันทีหลังทำ
ซึ่งต้องบอกก่อนค่ะว่าการร้อยไหมจะไม่ได้เข้าไปช่วยสลายไขมันโดยตรงค่ะ แต่จะเน้นไปที่การดึงยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยจนทำให้เกิดเป็นเหนียงนั่นเองค่ะ โดยจะเหมาะกับผู้ที่ผิวบริเวณใต้คางมีความหย่อนคล้อย ไม่กระชับ มีเหนียงในปริมาณที่ไม่ได้เยอะมาก และจะไม่เหมาะกับคนที่มีเนื้อเหนียงเยอะ ผิวค่อนข้างแน่น
ในกรณีหากมีไขมันใต้คางสะสมเยอะหมอจะแนะนำให้รักษาด้วยการฉีดสลายไขมันก่อนแล้วจึงมาร้อยไหมเก็บเหนียงเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นค่ะ
โบท็อกซ์ลดเหนียง
การฉีดโบท็อกซ์ลดเหนียง คือการใช้วิธีโบท็อกซ์ลิฟท์กรอบหน้าด้วยเทคนิค Nefertiti lift เป็นการฉีดโบท็อกซ์เข้าไปยังกล้ามเนื้อ Platysma ช่วงบริเวณลำคอและใบหน้าส่วนล่างให้กล้ามเนื้อส่วนนี้มีการทำงานลดลง ผิวช่วงกรอบหน้าถูกดึงขึ้น ทำให้กรอบหน้าชัดขึ้น เหนียงดูลดลง
โดยจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน 2-4 สัปดาห์ และจะอยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือนขึ้นอยู่กับยี่ห้อโบท็อกซ์ที่ใช้ และพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละบุคคล ทั้งนี้โบท็อกซ์เหนียงจะเหมาะกับผู้ที่ผิวช่วงบริเวณกรอบหน้าไม่กระชับ มีเหนียงจากผิวหย่อนคล้อย ไม่ใช่เหนียงที่เกิดจากการสะสมของไขมันค่ะ
ดูดไขมันเหนียง
การดูดไขมันเหนียง(Double Chin Liposuction) คือ การใช้อุปกรณ์และท่อขนาดเล็กดูดไขมันส่วนเกินออกมา โดยจะเหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้คางในปริมาณที่มาก และยังมีความยืดหยุ่นของผิวที่ดี
การดูดไขมันถือว่าเป็นหนึ่งในวิธีลดเหนียงแบบเร่งด่วนที่เห็นผลชัดเจนได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำว่าผิวใต้คางดูกระชับขึ้น เหนียงลดลง
แต่ทั้งนี้ต้องใช้เวลาในการพักฟื้น 2-3 วัน และต้องทำกับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อป้องกันผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์ อย่างเช่น รอยเขียวช้ำมาก อาการบวมมาก ผิวไม่กระชับ เป็นต้น
Hifu ลดเหนียง
การทำ Hifu ลดเหนียง คือการใช้คลื่นอัลตราซาวด์เปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ปล่อยเข้าชั้นผิว SMAS ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้เหนียงที่หย่อนคล้อยกระชับขึ้น
โดยจะเห็นผลชัดเจนประมาณ 1-3 เดือน และอยู่ได้นานประมาณ 3-4 เดือน ซึ่งจะเหมาะกับผู้ที่ผิวหลวมเหลวขาดคอลลาเจนและมีความหย่อนคล้อย เกิดเป็นเหนียงย้อย ดูไม่กระชับ รวมถึงมีความหย่อนคล้อยในระดับน้อยถึงปานกลาง และจะไม่เหมาะกับกับผู้ที่มีเหนียงเยอะจากการสะสมของไขมันส่วนเกินในปริมาณมาก ถ้าเช่นนั้นการทำ Thermage จะเป็นวิธีลดเหนียงที่ตรงจุดมากกว่าค่ะ
Ulthera ลดเหนียง
วิธีลดเหนียงด้วยการทำ Ulthera หรือ Ultherapy เป็นการใช้คลื่นอัลตราซาวด์ความถี่สูงเปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน ส่งไปถึงชั้น SMAS โดยการทำงานจะคล้ายกับ HIfu แต่ทั้งนี้การทำ Ulthera จะมีการส่งพลังงานที่แม่นยำกว่าและช่วยยกกระชับเหนียง ผิวหย่อนคล้อยที่ทำให้กรอบหน้าไม่ชัด รวมถึงกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนได้ดีกว่าการทำ Hifu แต่ทั้งนี้ก็มาพร้อมกับราคาที่สูงกว่าการทำ Hifu ลดเหนียงด้วยนั่นเอง โดยหลังทำจะเห็นถึงผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่ประมาณ 1-3 เดือน และจะอยู่ได้นานประมาณ 1-2 ปี
Thermage ลดเหนียง
การลดเหนียงด้วยการทำ Thermage เป็นการใช้คลื่นวิทยุความถี่สูง (Radio frequency) เปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อนสูงลงไปถึงชั้นผิวหนังกำพร้า ชั้นหนังแท้ และชั้นไขมัน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ยกกระชับผิวพร้อมสลายไขมันส่วนเกินใต้คางไปพร้อมกัน
โดยจะเห็นผลลัพธ์ชัดเจนประมาณ 1-3 เดือน และอยู่ได้นาน 6 เดือนไปจนถึง 1 ปี ทั้งนี้จะเหมาะกับคนที่มีเหนียงจากการมีปริมาณไขมันสะสมเยอะ และจะไม่เหมาะกับผู้ที่ไขมันสะสมบริเวณใต้คางน้อยค่ะ
Coolsculpting
การลดเหนียงด้วย Coolsculpting เป็นนวัตกรรมสลายไขมันส่วนเกินด้วยความเย็น ที่ได้รับรองมาตรฐานจาก อย.เมริกา (US FDA) โดยจะมีหัวดูดส่งความเย็นอุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งที่ประมาณ -11 องศา ถึง -13 องศา ส่งเข้าไปแช่แข็งเซลล์ไขมันโดยเฉพาะ
ทำให้เซลล์ไขมันหยุดทำงานและถูกขับออกจากร่างกายตามธรรมชาติ ส่งผลให้ไขมันสะสมใต้คางมีปริมาณที่น้อยลง ซึ่งจะเห็นผลได้ดีในผู้ที่มีค่าดัชนีมวลกาย BMI <30
โดยหลังทำจะเห็นผลได้ประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์ และต้องทำหลายครั้งถึงจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน และควรเว้นระยะห่างต่อครั้งอย่างน้อย 1-2 เดือน
ผ่าตัดลดเหนียง
ผ่าตัดลดเหนียง หรือผ่าตัดกระชับเหนียง คือการศัลยกรรมผ่าตัดไขมันส่วนเกินบริเวณใต้คางที่สะสมทำให้เกิดเป็นเหนียง และสามารถช่วยยกระชับกล้ามเนื้อบริเวณใต้คางและคอที่หย่อนคล้อย เป็นวิธีที่ลดเหนียงได้อย่างถาวร และเหมาะกับผู้ที่มีไขมันสะสมใต้คางในปริมาณที่มาก
แต่ข้อเสียคือจะมีรอยแผลเปิดบริเวณใต้คาง ซึ่งจะไม่เหมาะกับผู้ที่มีประวัติเกิดแผลคีลอยด์ได้ง่าย อีกทั้งยังต้องใช้เวลาในการพักฟื้น และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหากดูแลตัวเองหลังทำได้ไม่ดีพอ
ดังนั้นหากต้องการลดเหนียงด้วยวิธีนี้แนะนำให้ศึกษาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนรวมถึงปรึกษาแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านนี้ก่อนทำค่ะ
วิธีลดเหนียงแบบธรรมชาติด้วยตัวเอง
วิธีลดเหนียงแบบธรรมชาติเป็นวิธีที่ทำได้ด้วยตนเอง ไม่มีค่าใช้จ่าย และมีความปลอดภัยสูง แต่ทั้งนี้ต้องปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอและใช้เวลาในการเห็นผลลัพธ์
- ออกกำลังกายลดเหนียง ช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ในร่างกาย
- บริหารกล้ามเนื้อด้วยการเคี้ยวหมากฝรั่งสามารถช่วยลดเหนียงได้ค่ะ แต่ทั้งนี้ต้องระมัดระวังอย่าเคี้ยวบ่อยมากเกินไป เพราะอาจทำให้เกิดปัญหากรามใหญ่แทนได้
- ควบคุมอาหาร รับประทานอาการที่มีประโยชน์ ลดอาหารที่มีไขมันสูง มีน้ำตาลสูง เพื่อลดการก่อตัวและสะสมของไขมัน
สรุป
วิธีลดเหนียงนั้นมีหลากหลายวิธี โดยหลายคนอาจจะเริ่มต้นด้วยการออกกำลังกาย บริหารกล้ามเนื้อ แต่ถ้าออกกำลังอย่างไรก็ไม่เห็นผล ก็อาจใช้วิธีลดเหนียงอื่นๆ ร่วมด้วย สิ่งสำคัญคือควรเลือกให้เหมาะสมกับสาเหตุของการเกิดเหนียงของเรา ซึ่งจะเกิดจากสาเหตุใดได้บ้างแนะนำให้ปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดเหนียงที่แท้จริง เพื่อที่จะหาวิธีลดเหนียงที่ตรงจุดและเหมาะสมกับเราที่สุด