หลายคนคงสงสัย ที่พัชชาคลินิก ไหมก้างปลาและไหมทอร์นาโด ต่างกันอย่างไร ??
บางคนอาจจะยังไม่ทราบว่าร้อยไหมมีกี่แบบบ้าง แต่ละชื่อแต่ละแบบมีลักษณะต่างกันอย่างไร โดยชื่อของไหมส่วนมากจะ “ตั้งตามลักษณะของเงี่ยงไหม” ชนิดนั้นๆเพื่อง่ายต่อการเรียก แต่สามารถปรับเปลี่ยนไปได้ตามสถานที่/คลินิก ที่ใช้ไหมชนิดนั้นๆ ดังนั้นบางทีไหมชื่อเดียวกันแต่อยู่คนละสถานที่อาจจะเป็นคนละตัวกันก็ได้ค่ะ
ไหมก้างปลาและไหมทอร์นาโด คืออะไร ?
ไหมก้างปลา
ไหมก้างปลาที่พัชชาคลินิก เป็นไหมละลาย ทำจากวัสดุเกรดทางการแพทย์ PDO (Polydioxanone) มีความปลอดภัย ไม่ตกค้าง ลักษณะเป็นไหมเงี่ยงซี่เล็กถี่ๆ คล้ายก้างปลาวนรอบตัวไหม มีความยืดหยุ่น ไม่หักหรือเปราะง่าย สามารถเกาะกับเนื้อเยื่อให้เกิดความยกกระชับได้
ไหมทอร์นาโด
ไหมทอร์นาโดที่พัชชาคลินิก เป็นไหมละลายที่เป็นวัสดุทางการแพทย์ ทำมากจาก PDO (Polydioxanone) เส้นใหญ่ มีความยืดหยุ่น แข็งแรง ลักษณะของเงี่ยงไหมบานออกจากเส้นไหมรอบทิศทาง 360 องศา วนรอบไหมคล้ายพายุทอร์นาโด ทำให้ยึดเกาะกับผิวได้รอบทิศทาง ยกกระชับผิวได้ดี
ความแตกต่างระหว่างไหมก้างปลาและไหมทอร์นาโด
- ไหมก้างปลาจะเป็นเข็มปลายแหลม ส่วนไหมทอร์นาโดจะเป็นเข็มปลายทู่
- ไหมก้างปลาขนาดของเส้นจะเล็กกว่าไหมทอร์นาโด
- ไหมก้างปลามีเงี่ยงซี่เล็กๆ วนรอบเส้นไหม ส่วนไหมทอร์นาโดมีเงี่ยงใหญ่กว่าบานออกจากเส้นไหมวนรอบทิศทาง 360 องศา
- อายุในการทำงานของไหมก้างปลาจะอยู่ได้ประมาณ 4-6 เดือน ส่วนไหมทอร์นาโดจะอยู่ได้นานมากกว่า ไหมทอร์นาโดจะอยู่ได้ประมาณ 8-12 เดือน
ลักษณะของไหมก้างปลาและไหมทอร์นาโด
ลักษณะเด่นของไหมก้างปลา
- เป็นไหมละลาย มีความยืดหยุ่น มีเงี่ยงเป็นซี่เล็กโผล่ออกมากจากเส้นไหมลักษณะเหมือนก้างปลา เงี่ยงของไหมจะช่วยยึดเกาะผิว การร้อยไหมก้างปลาจะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิว ทำให้ผิวกระชับมากขึ้น ผิวแข็งแรงขึ้น หากใช้จำนวนเส้นไหมที่เยอะขึ้นก็จะช่วยให้ผิวกระชับได้มากยิ่งขึ้น
- เข็มของไหมก้างปลาจะเป็นเข็มปลายแหลม ซึ่งตอนที่แพทย์ทำการร้อยไหมก้างปลา จะสามารถร้อยไหมเข้าไปได้เลยโดยไม่ต้องมีเข็มนำ อาจทำให้เกิดการบวมช้ำใต้ผิวได้มากกว่าเข็มปลายทู่ แต่เหมาะกับผิวที่มีพังผืดใต้ผิวเยอะจากการผ่าตัด หรือแผลหลุมสิว อายุในการทำงานของเส้นไหมก้างปลา จะอยู่ได้ประมาณ 6 เดือน
ลักษณะเด่นของไหมทอร์นาโด
- เป็นไหมละลายที่เส้นใหญ่ มีความยืดหยุ่นสูง และมีความแข็งแรง ออกแบบเงี่ยงรอบทิศทาง 360 องศา มีเงี่ยงที่เยอะรอบทิศทางเหมือนพายุทอร์นาโด เงี่ยงไหมที่เยอะจึงช่วยให้การยึดเกาะกับผิวดีและลดโอกาสในการเกิดริ้วไหมที่ผิวหลังร้อย มีประสิทธิภาพการยกกระชับเห็นผลชัดเจนทันทีหลังร้อยไหม
- เข็มของไหมทอร์นาโดเป็นเข็มปลายทู่ เมื่อแพทย์นำมาร้อยเข้าสู่ชั้นผิว เข็มที่มีปลายทู่จะช่วยเลี่ยงการตัดเส้นเลือดฝอยใต้ชั้นผิว ช่วยลดการบวม เขียวช้ำ ได้ดีกว่าไหมที่เป็นเข็มปลายแหลมอย่างไหมก้างปลา ทำให้แผลหายได้เร็วโดยไม่ต้องพักฟื้น อายุในการทำงานของเส้นไหมทอร์นาโดจะอยู่ได้นานประมาณ 8-12 เดือน
ไหมก้างปลาและไหมทอร์นาโด ชนิดไหนเหมาะกับเรา ?
ข้อดีของไหมก้างปลาและไหมทอร์นาโด คือช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย มีขั้นตอนและเทคนิคการร้อยที่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อย
แต่ด้วยขนาดของเส้นไหมที่ต่างกัน ไหมทอร์นาโดจะมีเส้นที่ใหญ่กว่าไหมก้างปลา ไหมทอร์นาโดจึงใช้เวลาในการละลายมากกว่าไหมก้างปลา ทำให้ไหมทอร์นาโดมีเวลาในการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินได้มากกว่า ดังนั้นไหมทอร์นาโดจึงอยู่ได้นานกว่าไหมก้างปลา
ลักษณะของเงี่ยงไหมที่ต่างกัน
ไหมทอร์นาโดมีเงี่ยงไหมที่ใหญ่และแข็งแรงมากกว่าไหมก้างปลา และลักษณะของเงี่ยงไหมวนรอบทิศทาง 360 องศาจะช่วยเกาะกับผิวได้ดีกว่า และช่วยลดการเกิดคลื่นไหม ริ้วไหม รอยบุ๋ม รอยย่นที่ผิวหลังร้อยในเคสที่มีผิวนิ่มขาดคอลลาเจนได้
ลักษณะปลายเข็มที่แตกต่างกัน
- ไหมก้างปลาจะเป็นเข็มปลายแหลม เข็มที่ใส่เข้าไปในผิว ถ้าจุดไหนโดนเส้นเลือดฝอยก็จะมีอาการเขียวช้ำให้เห็นได้ และมีโอกาสโดนเส้นเลือดใหญ่เส้นประสาทได้มากกว่าไหมปลายทู่ แต่จะเหมาะกับเคสที่มีพังผืดใต้ผิวจากการผ่าตัดหรือแผลเป็นหลุมสิว จะทำให้ใส่ไหมเข้าไปได้ง่ายกว่าไหมปลายทู่
- ไหมทอร์นาโดจะเป็นเข็มปลายทู่ ซึ่งจะดีกว่าเข็มปลายแหลม เข็มที่เป็นปลายทู่ของไหมทอร์นาโดจะสามารถเลี่ยงการตัดเส้นเลือดฝอยได้ดี ทำให้ผิวบอบช้ำน้อยมากกว่าเข็มปลายแหลม และลดการตัดผ่านเส้นเลือดใหญ่ เส้นประสาทได้ดี จึงมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงหลังทำน้อยกว่าเข็มปลายแหลม และลักษณะของเข็มปลายทู่จะทำให้เงี่ยงไหมเกาะกับผิวได้ดีกว่าการใช้เข็มปลายแหลม
ดังนั้นไหมทอร์นาโดก็จะดีกว่าสำหรับคนที่กลัวอาการบอบช้ำ ไม่อยากมีอาการบวมหลังร้อยไหมนาน มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยเยอะ และคนที่มีคอลลาเจนและอีลาสติน (Elastin) ในผิวน้อยเพื่อลดการเกิดคลื่นไหม ริ้วไหม รอยย่น รอยบุ๋มบนผิวที่ก่อให้เกิดความกังวลใจ
ไหมก้างปลาและไหมทอร์นาโด ชนิดไหนเห็นผลดีกว่า ?
ผลลัพธ์ของการร้อยไหมโดยใช้ไหมก้างปลาและไหมทอร์นาโดได้ผลดีในเรื่องของการยกกระชับเช่นกันหากเลือกไหมได้ตรงตามปัญหาผิวและสภาพผิวที่มี
การยกกระชับหลังการร้อยไหมขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นร่วมด้วย เช่น จำนวนเส้นไหมว่าต้องใช้ไหมกี่เส้นเพื่อที่จะช่วยแก้ปัญหาต่างๆ บนใบหน้าได้เหมาะสม สรีระที่แตกต่างกันใบหน้าของคนไข้ การขยับของกล้ามเนื้อใบหน้า เป็นต้น และเห็นผลชัดเจนทันทีหลังทำเหมือนกันเมื่อเวลาผ่านไปที่ 4 สัปดาห์
แต่หากเปรียบเทียบเมื่อเวลาผ่านไป คนไข้เข้ามาติดตามผลหลังการร้อยไหม 1 เดือน จะเห็นได้ชัดเจนว่าไหมทอร์นาโดจะยังยกกระชับได้ดีกว่าไหมก้างปลา เนื่องจากไหมทอร์นาโดเคลื่อนที่ได้น้อยกว่าไหมก้างปลา เพราะเงี่ยงไหมทอร์นาโดจะเยอะและแข็งแรงกว่าไหมก้างปลา ทำให้ผิวยกกระชับได้นานมากกว่าไหมก้างปลาอย่างเห็นได้ชัด
ในเรื่องของรอยริ้วไหม คลื่นไหมบนผิวหลังร้อยที่กังวลใจก็หายได้ไวสำหรับไหมทอร์นาโดเมื่อเทียบกับไหมก้างปลา และที่สำคัญในคนไข้ที่ดูแลตัวเองหลังร้อยไหมได้ดีตามคำแนะนำแพทย์ และคนที่มีคอลลาเจน มีอีลาสตินในชั้นผิวมากก็จะส่งผลให้ไหมยกกระชับอยู่ได้นานมากขึ้น
รีวิวร้อยไหมก้างปลา
รีวิวร้อยไหมทอร์นาโด
สรุป
ไหมก้างปลาและไหมทอร์นาโดต่างก็มีคุณสมบัติเฉพาะตัวที่แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องของลักษณะปลายเข็ม ลักษณะของเงี่ยงไหม ขนาดของเส้นไหม และอายุในการใช้งาน แต่ถึงอย่างไรผลลัพธ์ที่ได้จากทั้ง 2 ชนิดนั้นก็จะขึ้นอยู่กับความต้องการและความเหมาะสมในแต่ละบุคคล ว่าตัวเองเหมาะสมกับการร้อยไหมชนิดไหน
ทั้งนี้สามารถเข้ามาปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อวิเคราะห์และประเมินว่าตัวเราเหมาะกับการร้อยไหมชนิดไหนเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุดค่ะ